Buppah Rahtree Phase 2: Rahtree Returns | บุปผาราตรี เฟส 2
เรื่องย่อ : Buppah Rahtree Phase 2: Rahtree Returns | บุปผาราตรี เฟส 2
แก๊งโจรมือใหม่หัดปล้น ตลกตกอับ4คนที่ตัดสินใจปล้นธนาคารแล้วเอาเงินไปแบ่งกันที่ออสการ์อพาร์ตเมนต์ แต่เงินมันดันอยู่ในห้อง 609 ที่ปิดตายในออสการ์ อพาร์ทเมนต์ ขึ้นชื่อลือชาว่าเฮี้ยนนักเฮี้ยนหนา โดยเฉพาะห้อง 609 ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ถึงกับปิดตายทั้งชั้น รับประกันความเฮี้ยน และ ทิพย์ สาวตาบอดที่คิดอยากตายที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใครเขาขอเปิดห้องพักหน้าตาเฉย แต่เมื่อคนอยู่ดีไม่ว่าดีดันไปยุ่มย่ามในที่ของผี เจ้าของห้อง 609 อย่าง บุปผา และ เอก เลยระเบิดแรงอาฆาตตามคำขอ อพาร์ทเมนต์ผีสิงจึงได้อลหม่านฮาแตกอีกครั้ง!!.M.
IMDB : tt0451669
คะแนน : 7
การประสบความสำเร็จทั้งเสียงวิจารณ์รวมถึงรายได้แบบเกินคาดของหนัง “บุปผาราตรี” จนกลายเป็นหนังผีอีกเรื่องนึงที่ขึ้นชั้นคลาสสิกถูกพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมืองถึงความสยองปนฮาทั้งๆ ที่เป็นหนังผีสไตล์ลูกทุ่งวิ่งหนีลงตุ่มซึ่งถูกมองว่าคร่ำครึ โบราณ ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของผู้กำกับมือทอง “ต้อม ยุทธเลิศ” ในการที่จะต้องปวดเศียรเวียนเกล้าว่าจะตีโจทย์ ”บุปผาราตรี เฟส 2” อย่างไรดี?
“อย่าคาดหวังกับหนังเรื่องนี้มาก” เป็นคำพูดของผู้กำกับทุกครั้งที่โดนนักข่าวถามถึง “บุปผาราตรี เฟส 2" นี้
เริ่มต้นเรื่องด้วยเรื่องราวของคณะตลกตกอับ(เด๋อ ดู๋ ดี๋ เด่น)ที่ตัดสินใจผันเปลี่ยนอาชีพมาเป็นโจรปล้นธนาคาร พวกเขาหอบเงินหลบหนีตำรวจไปกบดานอยู่ ณ อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง โดยหารู้ไม่ว่ามันคืออาพาร์ทเมนต์ผีสิงห์ ระหว่างที่พวกโจรกำลังจะทำการแบ่งเงินกันนั้น ทั้งสี่พบว่าเงินก้อนนั้นได้หายไปอย่างลึกลับ พวกโจรออกค้นหาทุกซอกทุกมุมในอาพาร์ทเมนต์ เหลืออยู่เพียงชั้น6 ที่เจ้าของอาพาร์ทเมนต์ปิดตายไว้ห้ามไม่ให้ใครเข้า
โจรทั้งสี่ไม่ฟังคำเตือน ออกค้นหาเงินในชั้น 6 จนได้พบว่าเงินซ่อนอยู่ในห้อง 609 แต่พวกเขาก็ไม่สามารถนำเงินออกมาจากห้องนั้นได้เพราะถูกผีเจ้าของห้องออกมาหลอกหลอน โจรทั้งสี่จึงต้องคิดหาทางเอาเงินออกจากห้อง 609ให้เร็วที่สุดแม้จะกลัวแค่ไหนก็ตาม ขณะเดียวกันตำรวจ “อังเคิ่ล” ก็เริ่มระแคะระคายแกะรอยโจรทั้งสี่มาถึงอาพาร์ทเมนต์แล้ว ทั้งหมดเลยต้องเผชิญกับเรื่องราวความน่าสยดสยองของบุปผา ผีสาวที่ตายจากการทำแท้ง
เปิดฉากแรกด้วยตลกดังค้างฟ้า “เด่น เด๋อ ดู๋ ดี๋” ใช้เวลานานไปหน่อยกระทั่งกลายเป็นความเยิ่นเย้อ ส่วนภาคบทพระเอกนั้นแทบจะต้องยกให้ผู้กำกับช่างจ้อ “อังเคิ่ล - อดิเรก วัฏลีลา”ที่แว๊บ แอบโผล่มานิดหน่อยในภาคแรก แต่พอมาเฟสสองไม่รู้อยากผันตัวเองมาเป็นนักแสดงหรือเปล่าเราจึงได้มีโอกาสเห็นหน้า “อังเคิ่ล”แทบทุกฉาก ตบมุกกับนักแสดงในเรื่องกระจาย
ตอนแรกๆ ก็ขำกันดีหรอก แต่พอมากเข้า มุกชักเริ่มฝืด ยังดีที่เสียงเพลง “หนุ่มนาข้าว สาวนาเกลือ” ของเขามาช่วยไว้ได้ชนิดที่บอกได้เลยว่าถ้าเกิดผู้กำกับคนนี้อยากออกอัลบั้มเก็บไว้ให้ลูกหลานดูสักชุดคงหานายทุนยากซักหน่อย
ทางด้านผีสาว "บุปผา" ของ “พลอย ไลลา” แม้จะทำความสะดุ้งได้ในการปรากฏตัวแต่ถ้าเทียบกับภาคแรกแล้วดูจะลดความน่ากลัวลงไปเยอะ ส่วนหนุ่ม “กฤษณ์” ในบทของผีขาด้วนก็เริ่มออกอาละวาด ตอกแรกความน่ากลัวก็ยังพอรียกเสียงกรี๊ดได้อยู่ แต่พอผีเริ่มแปลงตัวเป็นยักษ์เลยมีความรู้สึกว่ากำลังนั่งดู “การ์ตูนผีน้อยแคสเปอร์” อยู่หรือไง
ตัวแสดงที่มาเพิ่มสีสันอีกตัวคือ “เมย์ พิญ์นาฏ” ในบทหญิงสาวตาคมที่หลายคนหวังจะได้เห็นภาพเซ็กซี่ ดุเดือดมากกว่าภาคที่แล้ว แต่ก็ต้องผิดหวังคอตกเพราะเธอมาเป็นแค่น้ำจิ้มปลดกระดุมให้เห็นแว๊บๆ เท่านั้น ไม่ได้สร้างอารมณ์สยิวอะไร
ที่สำคัญไม่ได้สร้างความกระจ่างให้คนดูมากสักเท่าไหร่ถึงที่มาที่ไปของตัวละครตัวนี้
สิ่งที่ยังคงมีเหมือนเดิมคือมุกหยาบๆ คำด่า ยังคงมีอยู่เสมอคล้ายจะเป็นสัญลักษณ์ของผู้กำกับคนนี้ไปแล้ว ในขณะที่ซาวนด์ประกอบนั้นถูกใช้อย่างฟุ่มเฟือยกระทั่งกลายเป็นความน่ารำคาญ แก่นของ "บุปผาราตรี เฟส 2" อยู่ที่ความพยายามทำให้ผีบุปผาไปเกิดใหม่เพื่อเรื่องจะได้ดำเนินไปสู่ภาคที่สาม สี่ ห้า ฯลฯ อย่างที่ผู้กำกับได้ตั้งไว้ได้ แต่การทำให้ผีตนนี้โดนอาจารย์คง (สมเล็ก)ฆ่าตายอย่างง่ายดายทั้งที่ในภาคแรกยังหาคนมาปราบไม่ได้เลยดูเหมือนจะขาดเหตุผลไปสักนิด
ความไม่สนุกในภาคนี้น่าจะเกิดจากการพยายามจับเอาหลายๆ อย่างๆ ทั้งของเก่าๆ จากภาคที่แล้วและของใหม่ๆ มายัดๆ ใส่ๆ เพื่อให้หนังดูเป็นเรื่องและดำเนินไปจนถึงตอนจบเพื่อที่จะเดินไปสู่ภาคต่อไปได้ ในขณะที่มุกเดิมๆ รวมไปถึงการดึงเอาดาราคนโน้น คนนั้นที่เคยร่วมงานมาเป็น "รับเชิญ" นั้นก็เริ่มถูกจับทางได้
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ต้องยกมือชูนิ้วโป้งให้กับผู้กำกับคนนี้ก็คือ "ลูกบ้า" รวมไปถึงการนำเสนออย่าง "ความจริงใจ" และการใช้ "จังหวะ" ของเขาซึ่งยากที่จะหาผู้กำกับคนอื่นมาเทียบได้
คิดดูแล้วกันว่าจะมีใครบ้างที่กล้าและบ้าพอจะเอาตลกรุ่นคุณพ่ออย่าง เด่น เด๋อ ดู๋ ดี๋ ขึ้นมาขายรวมทั้งจะมีใครบ้างที่กล้าประกาศว่าตนจะขายบรรยากาศแบบหนังผีไทยสไตล์บ้านผีปอบแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในยุคที่เต็มไปด้วยคาแร็กเตอร์ผีที่ต้องคลานเต็มบ้านเต็มเมืองอยู่ในขณะนี้
เอาเป็นว่า ถ้าไม่คิดอะไร "บุปผาราตรี เฟส 2" ก็พอที่จะทำให้ขำๆ ได้อยู่ แต่ถ้าอยากเอาแบบฮาๆ เลย คาดว่าคงจะต้องรอไปถึงเฟส 3 นั่นแหละ