ค้นหาหนัง

Wrong Turn 2: Dead End | หวีดเขมือบคน ภาค 2

Wrong Turn 2: Dead End | หวีดเขมือบคน ภาค 2
เรื่องย่อ : Wrong Turn 2: Dead End | หวีดเขมือบคน ภาค 2

สุดยอดเรียลลิตี้โชว์ ต้องกลายเป็นสุดยอดแห่งความสยองขวัญ สำหรับหกผู้เข้าแข่งขัน เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวมนุษย์กินคนสุดอำมหิต พันเอกเดล เมอร์ฟี่ (เฮนรี่ โรลลินส์) นายทหารเกษียณราชการ ผู้เป็นพิธีกรของรายการเกมเรียลลิตี้โชว์สุดหฤโหด ที่ท้าทายให้ผู้แข่งขัน กลุ่มหนึ่งเอาตัวรอดให้ได้ ในป่าทึบของเวสต์เวอร์จิเนียอันห่างไกลผู้คน แต่แล้ว เมื่อผู้กล้าทั้งหมดพบว่า ตัวเองกำลังถูกล่าโดยครอบครัวกินมนุษย์สายพันธุ์วิปริต ที่เห็นพวกเขาเป็นแค่อาหารค่ำมื้อต่อไป

IMDB : tt0804555

คะแนน : 7



Wrong Turn 2: Dead End คือภาคต่อลงแผ่นของหนังชุดนี้ครับ อันที่จริงคือนอกจากภาคแรกแล้วภาคอื่นๆ ก็ออกมาให้ชมในฐานะหนังแผ่นทั้งหมด

เรื่องราวว่าด้วยทีมงานเรียลลิตี้ที่ยกกองไปถ่ายกันในป่าเขาแถบเวสต์ เวอร์จิเนีย (โซนเดียวกับภาคแรกนั่นแหละครับ) ซึ่งพวกเขาไม่รู้เลยว่าที่นั่นมีมนุษย์กินคนรอเขมือบพวกเขาอย่างโหดเหี้ยมอยู่ ครั้นพอเจอพวกมันไล่ล่าก็เลยมีสู้บ้าง หนีตายบ้าง สุดท้ายจะเหลือรอดกี่คนก็ต้องตามดูกันครับ

ภาคนี้ได้พี่บึ้ก Henry Rollins มาแสดงนำเป็นเดล เมอร์ฟี่ย์ พิธีกรรายการเรียลลิตี้ที่ว่านี่ ซึ่งมาดพี่แกก็ชวนให้นึกถึงสมัยแกเป็นพิธีกรซีรี่ส์ Night Visions (ซีรี่ส์สไตล์ The Twilight Zone ที่ช่อง 7 เคยเอามาฉายเมื่อ 10 กว่าปีก่อน) ท่าทางดูนิ่งและถึกเหมือนเดิมครับ แล้วก็นับเป็นสีสันที่ไม่เลวทีเดียวสำหรับภาคนี้

ในขณะที่ดารารุ่นใหม่ก็เล่นได้โอเคตามแบบฉบับหนังสยองแนวนี้น่ะครับเลือกหล่อเลือกสวยกันมาเชียว (555)

ภาคนี้ยังคงดูได้เพลินๆ ครับ แต่ดีกรีความโหดแหวะจะรุนแรงกว่าภาคแรกมาก เอาแค่ฉากแรกที่ใช้ขวานจามผ่าครึ่งนี่ก็สยองโคตรๆ แล้วล่ะครับ ใครรู้สึกว่าภาคแรกสยองแล้ว ภาคนี้ก็เตรียมดูไปปิดตาไปได้เลยครับ

หนังยังเอาจุดแข็งจากภาคแรกมาใช้ นั่นคือ การให้ตัวละครในเรื่องฉลาดและกล้าสู้ ไม่ได้เอาแต่หนีเหมือนหนังสยองทั่วๆ ไป ซึ่งก็ได้ Al Septien กับ Turi Meyer มาร่วมกันเขียนบท ซึ่ง 2 คนนี้ก็ร่วมงานกันมาตั้งแต่ Sleepstalker, Candyman: Day of the Dead ก่อนจะมาประสบความสำเร็จไปพอตัวในการร่วมอำนวยการสร้างซีรี่ส์อย่าง Smallville และ The Vampire Diaries ซึ่งบทที่ได้ออกมาก็นับว่าไม่เลวครับ

ส่วนหน้าที่กำกับก็เป็นของ Joe Lynch ที่กำกับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกครับ ผลที่ได้ก็นับว่าไม่เลวทีเดียว ช่วงท้ายทำออกมาได้ลุ้นดี

ถือเป็นภาคต่อที่น่าพอใจครับ อาจมีช่วงช้าในบางจังหวะ และมีดีกรีความแหวะเยอะมากสักหน่อย แต่ก็ยังดูได้เพลินในระดับหนึ่ง ถ้าโอเคกับภาคแรกก็น่าจะโอเคกับภาค 2 ครับ ^_^