ค้นหาหนัง

West Side Story เวสต์ ไซด์ สตอรี่

West Side Story เวสต์ ไซด์ สตอรี่
เรื่องย่อ : West Side Story เวสต์ ไซด์ สตอรี่

West Side Story ดัดแปลงมาจากฉบับละครมิวสิคัลในปี 1957 ที่ว่าด้วยเรื่องราวความรักและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในมหานครนิวยอร์กในช่วงที่คราคร่ำไปด้วยเหล่าผู้อพยพ กลายเป็นการห้ำหั่นกันระหว่าง 2 กลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง แก๊งเจ็ตต์ ชาวผิวขาวเจ้าถิ่นเดิม กับ แก๊งชาร์ค ชาวผิวสีผู้อพยพจากลาตินอเมริกัน ที่กลายมาเป็นบาดแผลและโศกนาฏกรรมแห่งสังคมที่ต้องจดจำ

IMDB : tt3581652

คะแนน : 9



หากเมื่อ 10 – 20 ปีก่อนมีโปรดิวเซอร์สักคนมีความคิดที่จะสร้าง ‘West Side Story’ เป็นภาพยนตร์อีกครั้งคงต้องเผชิญกับคำสบประมาทและไฟแดงจากสตูดิโอกันเป็นแถวเพราะชื่อชั้นทั้งเวอร์ชันบรอดเวย์ปี 1957 ที่ได้สตีเฟน ซอนด์ไฮม์ (Stephen Sondheim) กัับเลียวนาร์ด เบิร์นสทีน (Leonard Bernstein) ประพันธ์เนื้อร้องและดนตรีภายใต้งานกำกับและออกแบบท่าเต้นของ เจอโรม ร็อบบินส์ (Jerome Robbins) รวมถึงเวอร์ชันภาพยนตร์ปี 1961 ของผู้กำกับโรเบิร์ต ไวส์ (Robert Wise) เจ้าของ 10 รางวัลออสการต่างก็คงสถานะงานขึ้นหิ้งและครองพื้นที่หัวใจผู้ชมทั่วโลกเกิน 5 ทศวรรษแล้ว

แต่กระนั้นเมื่อโปรเจกต์ดัดแปลงบรอดเวย์มิวสิคัลที่ได้แรงบันดาลใจจาก ‘Romeo and Juliet’ ของวิลเลียม เชคสเปียร์ (William Shakespear) มาอยู่ในมือสตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ผู้กำกับชั้นครูแล้ว งานนี้เราก็ย่อมต้องคาดหวังหนังที่ไม่ใช่งานลอกลายและยิ่งพ่วงด้วย ยานุสซ์ คามินสกี (Janusz Kaminski) ตากล้องคู่ใจที่มักรังสรรค์งานภาพระดับตำนานมานักต่อนักก็ยิ่งทำให้เพดานความคาดหวังสูงตามไปด้วย

 

กล่าวอย่างรวบรัดหนังจะดำเนินเรื่องตามโครงเรื่องต้นฉบับอย่างไม่มีบิดพลิ้วเมื่อ โทนี (รับบทโดย แอนเซล เอลกอร์ธ Ansel Elgort) อดีตนักเลงหัวไม้แห่งแก๊งเจ็ตส์หลงรักมาเรีย (รับบทโดย ราเชล เซเกลอร์ Rachel Zegler) สาวสวยชาวเปอร์โตริโกน้องสาวของ เบอร์นาโด (รับบทโดยเดวิด อัลวาเรซ David Alvarez) หัวหมู่ทะลวงฟันแห่งแก๊งชาร์คที่มักเปิดศึกกับ ริฟฟ์ (รับบทโดยไมค์ เฟสท์ Mike Faist) หัวหน้าแก๊งเจ็ตส์และเพื่อนรักของโทนี เมื่อความเกลียดชังระหว่างเชื้อชาติปะทุไฟสงคราม ความรักของโทนีกับมาเรียเลยกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

หนึ่งในความยากของสปีลเบิร์กที่ผมพอมองออกคือในฉบับหนังปี 1961 โรเบิร์ต ไวส์ ผู้กำกับเองยังต้องเชิญทีมงานจากบรอดเวย์มาคุมงานหลัก ๆ ร่วมกับเขาเพื่อคงจิตวิญญาณของเรื่องราวและงานออกแบบท่าเต้นเอาไว้ แถมยังมีงานถ่ายภาพที่กวาดรางวัลนับไม่ถ้วนอีก งานนี้เหมือนจับเผือกร้อนก็ไม่ผิดนักแต่…สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ เพราะพอสปีลเบิร์กไปจับเอาบรอดเวย์มาเป็นแรงบันดาลใจทีนี้อำนาจการเล่าเรื่องในฐานะผู้กำกับก็อนุญาตให้เขาสร้างสรรค์แนวทางที่แตกต่างได้อย่างน่าชื่นชม

ประการแรกสปีลเบิร์กเลือก โทนี คุชเนอร์ (Tony Kushner) มาดัดแปลงบทให้ ซึ่งคุชเนอร์เองก็เคยเขียน ‘Munich’ กับ ‘Lincoln’ ให้สปีลเบิร์กมาก่อนเลยทำให้บทหนังของ ‘West Side Story’ เวอร์ชันนี้มีความเป็นการเมืองมากกว่าเวอร์ชันไหน และแอบสะท้อนท่าทีจิกกัดสังคมแบบแฝงอยู่ในลีลาการเล่าเรื่องของมัน ที่สำคัญคุชเนอร์ยังกล้าเปลี่ยนแปลงทั้งการสลับตำแหน่งเพลงที่ใช้ในเรื่องเพื่อผลในการสร้างอารมณ์ร่วมและสื่อความหมายรวมถึงให้ที่มาที่ไปในหลายเหตุการณ์ เช่นการให้มาเรียร้องเพลง ‘I Feel Pretty’ แล้วลองเสื้อผ้าราคาแพงในห้างของคนรวยตอนตัวเองทำความสะอาดห้าง ที่เปลี่ยนความหมายจากเพลงลั่ลล้าสู่การเย้ยหยันชะตากรรมตัวละครไปในทีได้อย่างคมคาย