Watchmen
อเมริกาปี 1985 ในขณะที่บรรยากาศทางการเมืองระหว่างอเมริกาและโซเวียตกำลังตึงเครียด คอเมเดี้ยน อดีตฮีโร่คนสำคัญถูกฆาตกรรมในนิวยอร์ก เป็นการตายอันมีเงื่อนงำ จุดเริ่มต้นให้ฮีโร่สวมหน้ากากรอร์สชาร์ชไล่ติดต่อกลับไปยังกลุ่มเพื่อนฮีโร่ผู้ร่วมอุดมการณ์ของเขาเพื่อช่วยกันค้นหาความจริง และยืนยันข้อสงสัยของเขาที่ว่า...กำลังมีใครสักคนที่ตามเก็บกลุ่มฮีโร่นอกกฏหมาย.
IMDB : tt0409459
คะแนน : 8
ย้อนกลับไปในช่วงที่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ยุคใหม่กำลังก่อร่างสร้างจักรวาล นำทัพโดย Iron Man ในปี 2008 จากค่ายมาร์เวล 3 ปีต่อมาทางค่าย DC ได้สวนกระแสปล่อย Watchmen ภาพยนตร์แนวแอนติฮีโร่สุดดาร์กที่มาเปิดเปลือย ‘เบื้องลึกในจิตใจ’ ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ให้ทุกคนได้รับชมพร้อมกันครั้งแรกในวันที่ 6 มีนาคม 2009
โปรเจกต์ Watchmen เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2005 แต่ต้องพบปัญหาหลายอย่างจนต้องเปลี่ยนบริษัทจัดจำหน่ายรวมทั้งผู้กำกับมาหลายครั้ง กระทั่งมาลงตัวที่ แซ็ก ชไนเดอร์ ที่กำลังมาแรงสุดๆ จากภาพยนตร์สงครามพีเรียดฟอร์มยักษ์อย่าง 300 (2006) มาเป็นผู้กำกับที่นำคนดูดำดิ่งลงไปในจิตใจด้านมืดของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ในครั้งนี้
เนื้อเรื่องหลักดัดแปลงมาจากซีรีส์ขนาดสั้นที่มีต้นฉบับเป็นหนังสือการ์ตูนค่าย DC Comics บอกเล่าเรื่องราวในธีม Alternative History หรือประวัติศาสตร์เวอร์ชันดัดแปลงที่พาทุกคนย้อนกลับไปยังสหรัฐอเมริกาในปี 1985 ที่บรรดาซูเปอร์ฮีโร่ที่เคยรุ่งเรืองถูกปลดประจำการจากการปฏิบัติหน้าที่เพราะกระแสการต่อต้านในสังคม
กระทั่ง เดอะคอเมเดียน (เจฟฟรีย์ ดีน มอร์แกน) ฮีโร่ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งเสียงหัวเราะ แต่มีอดีตขมขื่นเพราะถูกฆาตกรรมปริศนา จนกระทั่ง รอร์ชาร์ค (แจ็คกี้ เอิร์ล เฮลีย์) ฮีโร่สายสืบสวนต้องค้นหาตัวคนร้ายที่พาเขาไปพบกับ ‘ความจริง’ อันแสนน่ากลัว และพาคนดูไปพบกับ ‘ด้านมืด’ ของซูเปอร์ฮีโร่ที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมาทีละน้อย
แม้ว่า Watchmen จะไม่ใช่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ ด้วยเนื้อหาและการนำเสนอที่หนักหน่วง เข้มข้น มืดหม่น ผิดกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ในขณะนั้น และสามารถทำไปได้เพียงแค่ 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างประมาณ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่นักวิจารณ์และผู้ชมหลายคนก็ยังยกให้ Watchmen เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ในดวงใจที่เปิดเปลือยให้คนดูรับรู้ว่า ‘ทุกคน’ ล้วนมีด้านมืดซ่อนอยู่ลึกๆ ที่แม้กระทั่งภาพลักษณ์การเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็ไม่อาจปกปิดไว้ได้มิด
เราจึงได้เห็นอดีตดำมืดที่ซูเปอร์ฮีโร่บางคนพยายามล่วงละเมิดทางเพศเพื่อนตัวเอง, เห็นความอิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดีจนหน้ามืดตามัว, เห็นความเศร้าของคนถูกลืม จากวันที่เคยถูกสปอตไลต์ส่องแสง, เห็นความอ่อนไหวบนความสัมพันธ์แบบรักสามเส้า หรือแม้กระทั่งดอกเตอร์แมนฮัตตัน (บิลลี่ ครูดัป) ซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังสูงส่งจนหลายคนคิดว่าเขาเป็นพระเจ้า ก็ยังมีปัญหาสร้างความเฉยชาและทำร้ายจิตใจคนที่รักเขาที่สุดได้เหมือนกัน