ค้นหาหนัง

U.S. Marshals | คนชนนรก

U.S. Marshals | คนชนนรก
เรื่องย่อ : U.S. Marshals | คนชนนรก

ปี 1997 นายอำเภอมือปราบแชม เจอราร์ดกลับมาอีกครั้งเพื่อตามล่า มาร์ค เชอริแดนท์ (เวสลีย์ สไนป) อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ที่ต้องสงสัยว่าพัวพันกับการสังหารเจ้าหน้าที่ของรัฐสองคน ซึ่งในการตามล่าผู้ต้องหารายนี้ ทีม U.S.MARSHALS ของนายอำเภอแซมต้องร่วมงานกับเจ้าหน้าที่คนใหม่ จอห์น รอยซ์ (โรเปิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) ซึ่งพวกเขาไม่คุ้นเคยและไม่ไว้วางใจเท่าไร แซมและทีมของเขาต้องใช้สติปัญญา, ประสบการณ์ และสามัญสำนึกของการทำงาน ในการตามล่าผู้ต้องหาที่ผ่านการ ฝึกมาอย่างดีอย่างไม่ลดละ แซม ตั้งปณิธานว่าจะต้องจับตัวผู้ต้องหาคนนี้มาลงโทษให้ได้ ขณะเดียวกัน เชอริแดนท์ ก็ต้องหาทางพิสูจน์ตัวเองว่าเขาเป็นผู้กระทำจริง หรือว่าเป็นเพียงแพะรับบาป

IMDB : tt0120873

คะแนน : 7



นี่คือภาคต่อของ The Fugitive ครับ … เปล่า ดร.คิมเบิ้ลแกไม่ได้โดนหาว่าไปฆ่าใครอีกหรอก แต่หนังจับเอาเรื่องของ แซมมวล เจอราร์ด (Tommy Lee Jones) ผู้ตรวจการสหรัฐที่กัดไม่ปล่อยคนเดิม ให้กลับมาเจอกับนักโทษหลบหนีรายใหม่

เขาผู้นั้นคือ มาร์ค เชอริแดน (Wesley Snipes) ชายผิวดำที่ต้องคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ UN ซึ่งแน่นอนว่าแซมก็ตามล่าเขาไม่หยุดล่ะครับ แต่ยิ่งที่ตามเท่าไร ก็ยิ่งพบเงื่อนงำลึกลับในคดีนี้มากขึ้นเท่านั้น

ตัวหนังแม้จะไม่สุดยอดในทุกๆ ด้านอย่าง The Fugitive แต่ก็จัดเป็นหนังแนวแอ็กชันสืบสวนที่น่าดูครับ ยังสนุกและมันส์อยู่ดี เอาเฉพาะพี่ Tommy กลับมาเป็นแซมมวล หัวหน้าที่ทั้งเข้มและทั้งกวนนี่ก็คุ้มเหลือเกินแล้ว และพวกลูกน้องตัวแสบก็กลับมากันครบด้วยตั้งแต่ Joe Pantoliano ในบทคอสโม ที่ภาคนี้กวนหนักกว่าเก่า Daniel Roebuck, Tom Wood, LaTanya Richardson ก็กลับมารับบทเดิมกันทั้งสิ้น แล้วยังมี Robert Downey Jr. มาเล่นเป็นจอห์น รอยซ์ ผู้ช่วยที่ถูกส่งมาร่วมทีมกับเจอราร์ดในการตามสืบคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ UN ซึ่งรายนี้ก็เล่นได้โอเคในระดับหนึ่ง

ปมต่างๆ จัดว่าน่าพอใจครับ ความน่าติดตามก็ถือว่าเยอะทีเดียว แม้หนังจะมีช่วงเรื่อยๆ บ้าง และอาจจะสรุปง่ายไปนิดในตอนท้าย แต่โดยรวมก็ถือว่าไม่ผิดหวัง แต่สิ่งที่แฟนๆ พี่แซม เจอราร์ดต้องทำใจสักหน่อยก็คือ ภาคนี้พี่แกอาจจะดูแก่ขึ้น และไม่ได้เก่งแบบไหลปรื้ดๆ แบบภาคก่อน แต่ก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ล่ะครับ คนเราก็ต้องแก่เป็นธรรมดา และการที่หนังมาเน้นที่ตัวเจอราร์ดมากขึ้น ก็ย่อมทำให้เราเห็นเขาในหลากหลายแง่มุม (ทั้งด้านแกร่งและด้านอ่อน) ก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ครับ – แต่ถ้าทำใจรับไม่ได้ก็อาจรู้สึกว่าคมเขี้ยวของเจอราร์ดดูลดลงไปพอสมควร

แต่อย่างหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็คืออารมณ์ขันที่มีมากขึ้น เอาแค่ชุดที่เจอราร์ดเปิดตัวมาก็เหลือกินแล้วครับ หนังเลยดูได้เรื่อยๆ แต่ความกดดันอย่างภาคก่อนก็ไม่มากแล้วครับ เพราะหนังไม่ได้เน้นที่ตัวนักโทษหลบหนี แต่จะมามุ่งที่ตัวพี่เจอราร์ดมากกว่า

มันส์ไม่เลว เป็นหนังสืบสวนแอ๊คชั่นที่ดูสนุกครับ กำกับโดย Stuart Baird แห่ง Executive Decision น่ะครับ ซึ่งเรื่องนี้ก็สนุกไม่แพ้กันกับเรื่องนั้นน่ะแหละ แต่ถ้าว่ากันถึงเรื่องรายได้แล้วก็ถือว่ากลางๆ ครับ หนังลงทุนไป $60 ล้าน ได้คืนมาจากทั่วโลกราว $102 ล้าน (แน่นอนว่ายังห่างไกลจาก The Fugitive ที่ทำไปกว่า $368 ล้านจากทั่วโลก)

เกร็ดเล็กน้อยของหนังเรื่องนี้ก็คือพฤติกรรมในกองถ่ายของ Robert Downey Jr. ตอนนั้นไม่น่ารักเท่าไรครับ เหตุผลก็เพราะช่วงนั้นชีวิตเขายังมีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ ไหนจะติดโทษทัณฑ์บนจากการมีอาวุธและยาเสพติดในครอบครองอีก บางครั้งเขาก็จะมากองถ่ายช้า อย่างมีอยู่คราวหนึ่งที่เป็นการถ่ายทำฉากท้ายๆ ของเรื่อง ซึ่งเขามีบทต้องมาเข้าฉาก แต่เขามาช้ามากๆ ปล่อยให้คนอื่นรออยู่นาน ครั้นพอมาถึงเขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็เข้าฉากถ่ายทำโดยไม่ชี้แจงเหตุผลหรือเอ่ยคำขอโทษใดๆ และในภายหลังเขายังออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงว่า “หนังเรื่องนี้น่าจะถือเป็นหนังแอ็กชันที่แย่ที่สุดตลอดกาล” อีกด้วย

ก็ถือเป็นบันทึกอดีตอันไม่สวยงามอีกบทหนึ่งของ Downey Jr. ครับ เรียกว่าก่อนเขาจะกลับตัวเปลี่ยนตัวเองใหม่ มาคืนชีพอีกหนในบท Iron Man ได้เนี่ย เขาต้องผ่านอะไรมามากจริงๆ – แต่สุดท้ายเขาก็สามารถตั้งหลักและกลับมายืนหยัดในวงการได้อีกครั้งครับ