ค้นหาหนัง

Tigerland | ค่ายโหด หัวใจไม่ยอมสยบ

หมวดหมู่ : หนังดราม่า
Tigerland | ค่ายโหด หัวใจไม่ยอมสยบ
เรื่องย่อ : Tigerland | ค่ายโหด หัวใจไม่ยอมสยบ

ฟาร์เรลผู้ชนะรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมจากสมาคมนักวิจารณ์แห่งบอสตัน กับผลงานสร้างชื่อในภาพยนตร์แอคชั่นของผู้กำกับ ชูมัคเกอร์หลังพ้นโทษออกจากคุกได้ไม่นาน โรแลนด์ บอซ (คอลิน ฟาร์เรล) หนุ่มห้าวหัวกบฎ เข้าร่วมกองทัพกับเหล่าทหารหนุ่ม เพื่อมุ่งหน้าสู่สมรภูมิเวียดนามด้วยใจรักอิสระ หัวรั้น และท้าทายกฎเกณฑ์ ทำให้บอซไม่เป็นที่พอใจสำหรับเพื่อร่วมทหารรวมทั้งครูฝึกที่ไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในระหว่างสงครามจนเมื่อทหารเหล่านั้นถูกส่งไปยังไทเกอร์แลนด์ สถานฝึกรบสุดโหดที่สุดท้ายก่อนส่งไปเวียดนาม ความเป็นผู้นำทั้งตัวและหัวใจของบอซชักนำให้เพื่อนทหารของเขากระทำการอันเป็นบทสรุปของเรื่องที่เหนือความคาดคิด

IMDB : tt0170691

คะแนน : 8



เป็นหนังสงครามเวียดนามที่ไม่ค่อยเห็นคนพูดถึงเท่าไหร่ คือใกล้ๆกันจะเห็นคนพูดถึง We Were Soldiers (2002) มากกว่า ซึ่งหลังจากดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่าทำไม  Tigerland เป็นหนัง War/Drama ที่ไม่ได้จับภาพช่วงเวลาสงคราม ไม่ได้มีฉากสู้รบ และที่สำคัญไม่ได้เล่าเรื่องในเวียดนาม เพราะหนังว่าด้วยช่วงเวลาของการฝึกฝน 5 สัปดาห์สุดท้ายก่อนที่เหล่าทหารจะเดินทางไปรบ โดยโฟกัสที่บทเรียนในแต่ละส่วน รวมถึง “แดนพยัคฆ์” สถานที่ที่กองทัพจำลองสมรภูมิของเวียดนามขึ้นมาเพื่อให้เหล่าทหารได้เตรียมพร้อมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยหนังเล่าผ่านชีวิตของ โรแลนด์ บอซซ์ ทหารเกณฑ์หัวขบถ ที่แม้จะเก่ง มีความสามารถ และเท่าทันเหล่าครูฝึก (ในระดับรู้ข้อกฎหมาย) แต่มักจะไม่สนใจการเรียน ชอบหนีออกค่าย และสร้างปัญหาให้กับกองทัพอยู่ตลอด

ถ้าใครนึกภาพไม่ออก มันจะคล้ายๆกับครึ่งแรกของ Full Metal Jacket ในเวอร์ชั่นดิบๆ เขรอะๆ คือรู้สึกว่าของคูบริกมันจะคลีนๆ แต่อันนี้มันจะไปหยาบๆเลย ตัวหนังถ่ายด้วยฟิล์ม 16 มม. และดีไซน์ให้มีความเป็นสารคดี คือดูจริง ดูดิบ ซึ่งผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนั้นเลย Tigerland ให้ฟีลเหมือนรายการตามติดชีวิตทหาร หนังใช้ความดิบๆแข็งๆ ให้กลายเป็นสุนทรีย์ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับทั้งตัว โจเอล ชูมัคเกอร์ และผู้กำกับภาพ แมทธิว ไลบาทีค ซึ่งเหมาะสมมากๆ เพราะหนังดิบไม่แพ้งานที่เขาทำกับ ดาร์เรน อาร์โรนอฟสกี้ เลย (Requiem for a Dream, Pi) คือมาเปิดดูในบลูเรย์มันก็ชัดนะ แต่จะเห็นเลยว่า Texture ภาพเป็นยังไง ซึ่งส่วนตัวเราชอบมาก มันไม่ได้ดูเก่าหรือโบราณ แต่เป็นความตั้งใจที่จะนำเสนอความตึงเครียด ประสาทแดก ที่เกิดขึ้นในค่ายฝึก สนามแรกที่พวกเขาได้รับความบอบช้ำจากสงคราม

หนังมีท่าทีเป็นหนัง Anti-War แบบชัดเจน แต่ไม่ได้ถูกเล่าเหมือนกับหนังสงครามเรื่องอื่นๆที่เกิดวิกฤตทางศีลธรรมในสมรภูมิ Tigerland ตั้งคำถามกับสิ่งที่เหล่าทหารถูกฝึกสอน การถูกฝึกฝนเพื่อรวมเป็นหนึ่ง บทเรียนที่พวกเขาถูกบังคับให้จดจำ คำสั่งที่พวกเขาถูกป้อนให้ทำตาม แม้ว่ามันจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามรบจริง แต่เราก็สัมผัสความโหดร้ายได้ชัดเจน อาทิ การทรมานทหารฝ่ายศัตรูด้วยวิทยุสื่อสาร จนมีคนถามครูฝึกว่า “ทำไมเราต้องทำแบบนั้นกับมนุษย์คนอื่นด้วย” เราชอบที่หนังไม่ได้พูดเรื่องความเป็นชาติเลย ทหารทุกคนถ้สไม่ถูกเกณฑ์มา ก็สมัครมาด้วยเหตุผลที่ไม่ได้เกี่ยวกับการทำเพื่อชาติ คนนึงแค่อยากรู้ว่าการสู้รบเป็นยังไง อีกคนแค่หนีปัญหาชีวิต มันเลยเป็นเรื่องราวความเจ็บปวดของเหล่ามนุษย์ที่ถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ตนไม่เชื่อ ค่อยๆสูญเสียตัวเองไปจากการฝึกฝนทีละน้อยจนไม่เหลืออะไร

ชอบที่ครูฝึกในเรื่องนี้มันกระจอกงอกง่อยมากๆ เหมือนขั้วตรงข้ามกับ Full Metal Jacket เลย คือครูฝึกคุมนักเรียนไม่ได้ เอาชนะ โรแลนด์ บอซซ์ ไม่ได้ แถมหนังยังเผยให้เห็นช่องโหว่ของระบบทหาร กฎหมายทหาร ที่ทำให้บอซซ์สามารถช่วยเหลือเพื่อนๆออกจากการเป็นทหารได้ ซึ่งส่งผลเสียต่อชื่อเสียงกองร้อยด้วย คือฟังดูแล้วแสบๆนะ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เศร้าจังที่เราต้องมานั่งหาวิธีหนีออกจากพื้นที่แห่งนี้ ที่ๆไม่ได้มอบอะไรให้เรา นอกจากความเจ็บปวด

Tigerland ไม่ใช่หนังสงครามเวียดนามที่สำคัญ หรือเป็นภาคบังคับที่ต้องดู แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่างานของโจเอลเรื่องนี้น่าสนใจ และมีรสนิยมที่เข้าทางเรามากๆ หนังจับชีวิตประจำวันอันแสนทรหดของนักเรียนที่เข้ากระบวนการเปลี่ยนคนเป็นเครื่องจักรสังหารได้ดิบเถื่อน โดยเฉพาะช่วงที่เข้าไปยังแดนพยัคฆ์ที่เพิ่งระดับความเข้มข้นอย่างชัดเจน