IMDB : tt0111070
คะแนน : 7
ถือเป็นหนัังวันคริสต์มาสภาคบังคับที่ต้องหยิบมาดูเมื่อถึงเทศกาล เพราะจะว่าไปก็มีหนังไม่กี่เรื่องที่จะเอาซานตาคลอสมาเป็นตัวเอกแบบนี้ครับ
ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างสวยงามตอนออกฉายครับ ทำไป $144 ล้านในอเมริกา (ถ้าทั่วโลกก็ $189 ล้าน จากทุนประมาณ $22 ล้านเท่านั้นเอง) แล้วก็มีภาคต่อตามมาอีก 2 ตอน แต่ถ้าพูดถึงตอนที่อร่อยสุด ลงตัวสุด พอดิบพอดีสุดก็ต้องยกให้ภาคแรกนี่แหละครับ
หนังดูเพลิน ดูสนุก ช่วงท้ายๆ ก็มีอะไรให้ลุ้นพอสมควร รวมถึงเรื่องราวซึ้งๆ ที่สอดแทรกลงมาแบบพอเหมาะ ตอนเด็กๆ ชอบในความแฟนตาซีของเรื่องราว พอมาโตขึ้นก็ชอบในบรรยากาศกับอารมณ์ของหนังที่ทำออกมาได้กลมกล่อมกำลังดี
ฉากที่รู้สึกซึ้งในรอบหลังสุดที่ดูคือ ตอนที่สก็อต (ที่กลายเป็นซานตาคลอสไปแล้ว) โดนตำรวจจับ ฉากนั้นมีเด็กๆ มามุงดูแล้วหนึ่งในนั้นก็วิงวอนกับคุณตำรวจว่า “ทำไมต้องจับซานตาคลอสด้วย ปล่อยเขาเถอะไปนะคะ” ฉากนั้นน้ำตาซึมขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว มันสะท้อนความใสบริสุทธิ์ของเด็กๆ ได้อย่างสวยงามจริงๆ
ถ้ามีใครถามผมว่าเชื่อในเรื่องซานตาคลอสไหม ก็พูดได้เต็มปากว่าผมเชื่อครับ ผมเชื่อในความสวยงามของประเพณีวันคริสต์มาส เชื่อในด้านดีของมนุษย์ที่ถูกนำเสนอมาในรูปแบบของซานตาคลอส
ผมเชื่อว่า “วันคริสต์มาสเป็นอะไรที่มากกว่าแค่การประดับไฟและให้ของขวัญ”
สำหรับผมแล้ว ผมมองว่าวันคริสต์มาสคือ “วันหยุด” ครับ… คือวันที่ชี้ชวนให้เรา “หยุด” สักวัน แล้วหันมาใคร่ครวญไตร่ตรองเกี่ยวกับชีวิตตนเอง
“หยุด” แล้วลองมองว่าเราดำเนินชีวิตมาอย่างไรและจะดำเนินต่อไปอย่างไร
“หยุด” ความวุ่นวายที่พะรุงพะรัง “หยุด” การตามกระแส “หยุด” การล่องลอยไปตามสิ่งรอบตัวแบบหลับหูหลับตา แล้วหันมาสบตากับตัวเองที่ภายในสักหน่อย
“หยุด” พักจากงาน แล้วหันมาให้เวลากับครอบครัว ให้เวลากับเพื่อนฝูง หรือคนใกล้ตัวทั้งหลาย
และสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกก็คือ “วันหยุด” แบบนี้ไม่ได้มีเฉพาะของต่างประเทศครับ แต่ยังมี “วันหยุด” แบบนี้ของไทยๆ อยู่หลายวันเหมือนกัน อย่างวันสงกรานต์นี่ผมว่าก็ใช่นะ สาระสำคัญที่มีในวันหยุดเหล่านั้นของบ้านเรา ก็เปี่ยมคุณค่าน่าพูดถึงเหมือนกัน
ดาราในเรื่องแสดงกันได้ลื่นไหลดีครับ เรื่องนี้ถือเป็นหนังสร้างชื่อให้กับ Allen ที่ตอนนั้นกำลังดังสุดๆ จากซีรี่ส์ Home Improvement แต่คนที่ขโมยซีนได้ไม่เลวก็คือ David Krumholtz ในบทเบอร์นาร์ด ภูตพี่เลี้ยงของซานต้าที่ชอบทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่เกือบตลอดเวลา ซึ่งสร้างเสียงฮาได้เรื่อยๆ ครับ
เกร็ดที่น่าสนใจของหนังก็คือ แรกเริ่มเดิมทีบทสก็อต คาลวินในเรื่องนี้ ถูกเขียนขึ้นโดยมีภาพของ Bill Murray เป็นคนรับบทนำครับ ทีนี้บทก็ถูกส่งไปให้ Murray อ่าน และพอเขาอ่านจบแล้วเขาก็บอกออกมาตรงๆ ว่า บทนี้ไม่น่าจะเหมาะกับสไตล์ของเขาสักเท่าไร ก็เลยบอกปัดบทนี้ไปครับ แล้วบทก็ถูกส่งให้ Chevy Chase ต่อ แต่พอดีตอนนั้น Chase ติดสัญญากับหนังเรื่องอื่นอยู่ ก็เลยจำใจต้องบอกปัดไปอีกคน แล้วจากนั้นก็มีการทาบทามไปยัง Robin Williams, Tom Hanks, Harrison Ford, Rowan Atkinson, Arnold Schwarzenegger, Mel Gibson, Jeff Bridges, Michael Keaton และ Kurt Russell แต่พอ Allen เข้ามาลองแคสติ้ง ทีมงานก็ตระหนักเลยครับว่า Allen นี่แหละที่เหมาะกับบทนี้ยิ่งกว่าใคร ซึ่งก็ถือเป็นการเลือกที่ถูกครับ
อีกหนึ่งหนังวันคริสต์มาสที่ทำออกมาได้น่าพอใจครับ