ค้นหาหนัง

The Patriot | ชาติบุรุษ ดับแค้นฝังแผ่นดิน

The Patriot | ชาติบุรุษ ดับแค้นฝังแผ่นดิน
เรื่องย่อ : The Patriot | ชาติบุรุษ ดับแค้นฝังแผ่นดิน

อดีตวีรบุรุษจากสงครามฝรั่งเศสและอินเดียนแดง เบนจามิน มาร์ติน (เมล กิ๊บสัน) ประกาศเลิกรบตลอดชีวิตเพื่อให้ครอบครัวของเขาอยู่อย่างสุขสงบ ถึงแม้ในอดีต เขาจะเคยเป็นนายทหารผู้ชำนาญการรบ เจ้าเล่ห์ และโหดร้ายแต่ปัจจุบันมาร์ตินแต่งงานกับเอลิซาเบธ ผู้หญิงสวยที่ให้กำเนิดทายาทกับเขาถึง 7 คน และผู้หญิงคนนี้เอง ที่ทำให้มาร์ตินยอมแลกอดีตที่รุนแรงของเขาเพื่ออนาคตที่สงบสุข อยู่ในไร่ที่กำลังเติบโตของครอบครัว แต่เมื่อการจลาจลปะทุขึ้น คราวนี้เป็นความขัดแย้งที่เลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อศัตรูคือ อังกฤษ เมื่อกลายเป็นคนที่อุทิศตัวให้กับครอบครัวมาร์ตินจึงไม่รู้สึกกระวนกระวายอยากจะกลับไปร่วมรบ หลังจากตกพุ่มม่ายได้ไม่นาน บัดนี้ มาร์ตินมีเป้าหมายใหม่ในชีวิต เขารับหน้าที่คอยดูแลลูกๆในขณะที่ความสยดสยองจากการต่อสู้ในอดีต ยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่แกเบรียล (ฮีธ เล็ดเกอร์) ลูกชายคนโตของเบนจามิน กลับไม่ลังเลแม้แต่น้อย คำประกาศที่กินใจ หนังสือ และจดหมายแจ้งข่าวต่างๆที่เริ่มแพร่หลายกันตามเมืองหลวง ม้านั่งในโบสถ์ แพร่กระจายไปทั่วอาณานิคม สร้างความประทับใจให้กับชายหนุ่มอย่างแกเบรียล เมื่อสงครามมาถึงแกเบรียลรู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว แม้จะต้องฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อ แต่แกเบรียลก็ตัดสินใจเข้าร่วมรบทันทีเบนจามิน มาร์ติน พบความขัดแย้งในตัวเขาเอง แม้จะไม่เห็นด้วยกับสงครามที่ปะทุขึ้นครั้งนี้ แต่เขาก็ยังศรัทธาในกองทัพสหรัฐฯ เมื่อพวกอังกฤษซึ่งนำทัพโดยนายทหารจอมโหดที่ชื่อ ทาวิงตัน (เจสัน ไอแซ็คส์) มาประชิดประตูบ้าน และก่อให้เกิดอันตรายกับสิ่งที่เขารักเป็นที่สุด ซึ่งหมายถึงครอบครัวของเขา เมื่อเมืองเซาธ์แคโลไรน่า บ้านเกิดถูกคุกคาม มาร์ตินจึง ตกลงใจ เข้าร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ กับลูกชายผู้รักชาติของเขา และนำกองทัพทหารอาสาสมัครผู้กล้าหาญเข้าร่วมปะทะกับกองทัพอังกฤษที่กำลังฮึกเหิม ในระหว่างรบนี้ วีรบุรุษที่มาร่วมรบอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจพบว่า หนทางเดียวที่จะปกป้องครอบครัวของเขาได้ก็คือ การต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศชาติ ที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานของเขา

IMDB : tt0187393

คะแนน : 6



The Patriot เป็นหนังสงครามย้อนยุคที่ผมชอบมากเรื่องหนึ่งครับ คือมันอาจจะไม่ได้ลงตัวหรือขลังมากมาย แต่ในแง่ดราม่ากับความเป็นหนังแอ็กชันนี่ถือว่าน่าพอใจเอามากๆ ทีเดียว

เรื่องเล่าย้อนไปสมัยสงครามกลางเมืองที่ทางฝั่งอังกฤษก็หมายจะควบคุมคนบนแผ่นดินอเมริกาให้ได้ แต่คนอเมริกาก็อยากมีอิสรภาพไม่ต้องขึ้นตรงกับกษัตริย์จึงทำให้เกิดศึกแห่งการทวงอิสรภาพขึ้น

ตัวละครหลักมีนามว่าเบนจามิน มาร์ติน (Mel Gibson) อดีตทหารกล้าที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมสงคราม อันเนื่องมาจากเขาห่วงใยครอบครัวและลูกๆ ทั้ง 7 ทว่าสงครามก็ลามมาถึงหน้าบ้านครับ ในที่สุดเขานั่นเองที่กลายเป็นผู้นำสำคัญในการรบพุ่งกับเหล่าทหารอังกฤษ โดยเฉพาะคู่อาฆาตอย่างนายพลทาวิงตัน (Jason Isaacs) ที่ฝากรอยแค้นสุดลึกไว้กับครอบครัวมาร์ติน

หนังไม่ได้เน้นเนื้อหาทางประวัติศาสตร์นัก ซึ่งก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกครับ เพราะผู้กำกับ Roland Emmerich คงไม่ถนัดสไตล์นั้นเท่าไร โดยหนังนำเสนอออกมาในแนวที่พี่ท่านถนัด นั่นคือหนังมีแอ็กชันเป็นแกน ตามด้วยปมเชิงดราม่าแบบเข้าใจง่าย เช่น พ่อรักลูกๆ, ลูกวัยรุ่นเลือดร้อนตามวัย, ลูกสาวที่ห่วงใยพ่อ, นายพลตัวร้ายผู้โหดเหี้ยม หรือชาวอเมริกันที่ทนต่อการกดขี่ไม่ไหวเลยลุกขึ้นต่อต้านอังกฤษ ฯลฯ ซึ่งอะไรๆ มันดูง่ายไม่ซับซ้อน เล่ากันแบบตรงๆ และผลที่ได้ก็นับว่าดูสนุก น่าติดตามทีเดียวครับ

ดาราในเรื่องล้วนน่าปรบมือให้ ป๋า Mel ก็ดูเหมาะกับบทนี้มาก ยิ่งท่าทางตอนความแค้นทะลักออกมานี่มันบีบอารมณ์คนดูอย่างเราๆ ตามไปด้วย, Isaacs ก็สุดยอดครับ เล่นเป็นนายพลบ้าอำนาจและไร้เมตตาได้อย่างน่ายันสุดๆ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่ดูล้วนอยากรู้ว่าหมอนี่จะมีบทลงเอยยังไง (ว่าง่ายๆ คืออยากเห็นแกโดนเล่นให้หนักๆ นั่นแหละครับ)

นอกจากนี้ยังมี Heath Ledger ผู้ล่วงลับในบทเกเบรียล ลูกชายของเบนจามิน รายนี้ก็ถือว่าเด่นไม่เลวครับ เพียงแต่จะโดนบารมีป๋า Mel ข่มนิดๆ, Tchéky Karyo ในบททหารฝรั่งเศสที่มาช่วยเบนจามินในการรบ รายนี้ดูเหมือนจะเรื่อยๆ ไม่เด่น แต่ก็น่าจดจำเอาเรื่อง

มาฟังเกร็ดที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้กันนะครับ

+ เบนจามิน มาร์ติน เป็นตัวละครที่อิงมาจากท่านนายพลที่มีตัวตนจริงๆ นามว่า Andrew Pickens ซึ่งเขาก็โดนเผาบ้านและต้องเสียลูกชายไป จนในที่สุดก็ตัดสินใจออกรบเพื่อปกป้องไม่ให้คนอื่นต้องเจออย่างเขา และจะได้ช่วยยุติสงครามให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ยังอิงมาจาก Francis Marion นายทหารที่นำวิธีการรบด้วยการซุ่มโจมตีมาใช้

+ บ้านของน้าชาร์ล็อต (Joely Richardson) ที่เด็กๆ ไปหลบภัยนั้นคือบ้านหลังเดียวกับที่ใช้ใน Forrest Gump (บ้านของฟอร์เรสต์นั่นแหละครับ)

+ แรกเริ่มเดิมทีบทนายพลทาวิงตันจะเป็นของ Kevin Spacey แต่เนื่องจากทีมงานต้องจ่ายค่าตัวให้ป๋า Mel ถึง $25 ล้าน เลยมีงบไม่พอที่จะจ้าง Spacey มาเล่น

+ Ledger แสดงแอ็กชันเองโดยไม่ใช่สตันท์

+ Paul Walker, Ryan Phillippe และ Jake Gyllenhaal เคยถูกทาบทามให้มารับบทเกเบรียล

+ Harrison Ford เคยได้รับการทาบทามให้มาเล่นเป็นเบนจามิน แต่เขาปฏิเสธเพราะรู้สึกว่าบทมันเน้นแอ็กชัน+ล้างแค้น มากกว่าจะเป็นหนังประวัติศาสตร์สงครามกลางเมือง

+ Robert Rodat ผู้เขียนบทหนังเรื่องนี้ต้องร่างปรับแก้บทถึง 17 รอบกว่าจะได้ออกมาเป็นบทหนังสมบูรณ์อย่างที่เห็น

+ Logan Lerman แสดงเป็นหนึ่งในลูกชายของมาร์ตินด้วย ตอนนั้นยังละอ่อนอยู่ครับ

+ นายพลทาวิงตันก็อิงคาแรคเตอร์จากนายพล Banastre Tarleton ที่มีตัวตนจริงๆ เป็นมือขวาของนายพลคอร์นวอลลิสจริงๆ และว่ากันว่าพี่ท่านโหดดั่งปีศาจเหมือนในหนังเลยครับ แต่บทลงเอยของเขาต่างจากในหนัง เพราะนายพล Banastre Tarleton อยู่ดีมีสุขจนแก่เฒ่า และยังได้ตำแหน่งในสภาของอังกฤษอีกด้วย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โดยรวมแล้วหนังดูสนุกครับ ดูเอามันส์+เอาดราม่าได้เลย มันก็เข้มข้นดีครับ แม้หนังจะยาวเกือบ 3 ชั่วโมงแต่ก็ไม่น่าเบื่อ สำหรับผมนั้นออกแนวชอบเลยล่ะครับ ดูเพลิน น่าติดตาม ตัวละครน่าจดจำ แม้จะดูสูตรหรือประดิษฐ์บ้าง แต่ก็เป็นการประดิษฐ์ที่ได้รสชาติเอามากๆ ทีเดียว

อย่างไรก็ดีก็ต้องขอไว้อาลัยให้กับ 2 นักแสดงในเรื่องที่ตอนนี้ไม่อยู่บนโลกอีกแล้ว รายแรกคือ Ledger อีกรายคือ Skye McCole Bartusiak ที่รับบทซูซาน ลูกสาวคนเล็กของมาร์ติน (ที่ไม่ยอมพูดกับพ่อนั่นแหละครับ) รายนี้เพิ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ก็ขอให้ทั้ง 2 พักอย่างสงบนะครับ