The Medallion ฟัดอมตะ

หลังจากเฮียเฉินหลงแกไปเล่นหนังฮอลลีวู้ดมาซะหลายเรื่อง ชื่อเสียงแกก็พอจะอยู่ตัวแล้วล่ะครับ เพราะส่วนมากหนังจะทำเงิน และดูจากเรื่องนี้ก็ดูท่าว่าจะเกิดขึ้นได้ด้วยมือเฮียแกนั่นแหละ เพราะทีมงานส่วนมากมาจากฮ่องกง ตั้งแต่ผู้กำกับ Gordon Chan และผู้อำนวยการสร้างทั้งหลาย และแนวหนังก็เริ่มจะกลับไปคล้ายๆ กับสไตล์หนังยุคก่อนเข้าฮอลลีวู้ดของเขา อย่างพวก First Strike หรือ Who Am I? แต่คราวนี้จะมีเรื่องเหนือธรรมชาติพ่วงเข้าไปด้วย

แม้ว่าหนังจะไปไมไ่ด้ไกลนักที่อเมริกา แต่ผมก็เห็นว่าหนังไม่เลวน่ะครับ คือมันสนุกดี ดูเพลิน ช่วงต้นๆ อาจดูธรรมดาเกินไปบ้าง แต่พอตอนหลังๆ หนังจะเริ่มมันส์ เพราะได้ดาราสมทบเยี่ยมๆ อย่าง Forlani, Evans ซึ่งในราย Evans นี่ตอนแรกที่ผมเห็นในตัวอย่างนั้น ค่อนข้างจะตะหงิดๆ อยุ่ไม่น้อย เพราะคิดว่า Evans คงจะเข้าคู่กับเฮียเฉินได้ไม่ลงตัวเท่า Chris Tucker กับ Owen Wilson หรอก แต่ไปๆ มาๆ เออ มันก็ไปกันได้เว้ยเฮ้ย (ที่ฮามากขึ้นอาจเป็นเพราะทีมพากย์พันธมิตรของบ้านเราน่ะครับ ที่พากย์ได้ฮาดีแท้)

ผมว่าหนังมันออกจะเข้าท่ากว่า The Tuxedo นิดนึงตรงความลื่นที่ออกจะมากกว่า พอจะดูได้เรื่อยๆ ครับ ถ้าไม่หวังอะไรนะ อีกอย่างประเด็นโรแมนซ์ระหว่างเอ็ดดี้กับนิโคล ก็ยังนับว่าดูน่าเชื่อถือ ทั้งๆ ที่ตามปกติเฮียเฉินแกไม่ค่อยได้มีโอกาสโรแมนซ์กับใครเท่าไหร่นะ เออ แต่หนังทำส่วนนี้ได้ไม่เลวเหมือนกัน ผมว่า Forlani ดูไปกันได้กับเฮียเฉินมากกว่า น้องหนู Jennifer Love Hewitt ซะอีกนะครับ (ขนาดผมชอบหนู Love เป็นการส่วนตัวนะเนี่ย)

ส่วน Julian Sands กับบทวายร้ายสเน็คเฮดก็ไม่มีปัญหาครับ ขานี้คล่องพอตัวอยู่แล้ว ฉากสู้กันก็พอไหว แต่มันจะมีเรื่องของพลังเหนือธรรมชาติมาเกี่ยวด้วย มันเลยอาจจะเว่อร์ไปบ้าง ซึ่งผู้กำกับ Gordon Chan ก็ยังยำฉากบู๊แบบเฮียเฉินกับพลังเหนือธรรมชาติได้ไม่เข้ากันนัก แต่ก็พอไหวน่ะครับ ก็ต้องทำใจนิดนึง ไอ้พวกเหตุผลก็ต้องผ่านๆ ไปบ้าง แล้วท่านน่าจะดูสนุกขึ้นครับ

เออ อีกอย่าง ไม่รู้ผมคิดไปเองมั้ยนะ แต่เท่าที่ดู คิวบู๊ในหนังเรื่องนี้ การตัดต่อยังไม่ดีเท่าที่ควร บางมุมมันดูหลอกๆ ยังไงก็ไม่ทราบ ไม่สมกับปเ็นหนังเฮียเฉินเท่าไหร่เลย

สรุปว่าก็ไม่ผิดหวัง แต่ก็แค่เรื่อยๆ ครับ ชอบเฮียเฉินและอยากดูหนังเบาๆ ก็ดูได้