ค้นหาหนัง

The Jackal | มือสังหารมหากาฬสะท้านนรก

The Jackal | มือสังหารมหากาฬสะท้านนรก
เรื่องย่อ : The Jackal | มือสังหารมหากาฬสะท้านนรก

เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ คาร์เตอร์ เพรสตัน (Sidney Poitier) ได้รับข่าวกรองว่าจะมีการลอบสังหารบุคคลสำคัญของอเมริกาโดยผู้ที่จะลงมือคือ เดอะ แจ็คเกิล (Bruce Willis) มือสังหารที่มีความสามารถในการปลอมตัวได้อย่างแนบเนียนไม่เคยมีใครที่ได้เห็นหน้าที่แท้จริง คาร์เตอร์และทีมต้องหาทางสกัดแผนของแจ็คเกิลให้ได้ แต่แล้วทีมของพวกเขาก็ยังโชคดีเมื่อได้รับรายงานมาว่า เดแคลน มัลควีน (Richard Gere) นักแม่นปืนกลุ่มก่อการร้าย IRA ที่ถูกคุมขังอยู่เคยเห็นหน้าแจ็คเกิลมาก่อนเพราะเคยร่วมงานกันก่อน เดแคลนจึงได้รับการปล่อยตัวให้ออกมาร่วมทีมของคาร์เตอร์เพื่อตามล่าแจ็คเกิล

IMDB : tt0119395

คะแนน : 7



เป็นหนังที่ดูได้สนุกอีกเรื่องครับ ของดีที่หนังมีก็คือการแสดงเยี่ยมๆ ของ Poitier และ Diane Venora ในบทผู้พันวาเลนติน่าแห่งรัสเซียที่มาช่วยจัดการแจ็คเกิลด้วย ในขณะที่ Willis ดูจะสนุกกับบทแจ็คเกิลดีเหมือนกันครับ ดูเป็นมือปืนที่หลงตัวเอง เชื่อมั่นในแผน รู้ทันเกมคนอื่นตลอด และที่สำคัญคือโหดเหี้ยมฆ๋าคนได้แบบไม่กะพริบตา

ส่วน Gere ก็เรื่อยๆ ครับ หน้าเขาจะออกโมโนโทนไปนิด แต่ก็ดูเข้ากับบทไม่เลวและแรกเริ่มเดิมทีนั้น Gere ถูกทาบทามให้มารับบทแจ็คเกิลครับ ส่วน Willis ถูกทาบทามให้มาเป็นเดแคลน แต่ Gere ก็อยากแสดงเป็นฝ่ายดีมากกว่า เช่นเดียวกับ Willis ที่อยากเล่นเป็นนักฆ่าเลยตัดสินใจสลับบทกันครับ และเนื่องจากบทของทั้งคู่นั้นไม่ค่อยได้เจอกันในฉากสักเท่าไร ทำให้พอทั้งคู่มีโอกาสเจอกันพวกเขาก็จะผลัดกันถามครับว่า “ซีนของนายเป็นไงบ้าง ถ่ายไปถึงไหนแล้ว”

แต่รายที่ไม่มีใครลืมแน่ๆ คือพี่ Jack Black ในบทเอียน ลามอนท์ ช่างทำปืนที่กวนประสาทมากไปนิด จนพี่แจ็คเกิลแกเล่นซะขำไม่ออกไปเลย พี่ Jack แกก็เล่นบทนี้ได้ดี ขโมยซีนได้เยอะพอตัว และหลายๆ ฉากพี่ Jack แกก็ด้นสดเล่นเองเลยครับ โดยจะเน้นแสดงให้ออกมาน่ารำคาญและกวนประสาทที่สุด ซึ่งก็ถือว่าพี่เขาทำได้ครับ

จุดที่ผมชอบอีกอย่างคือไตเติ้ลเปิดเรื่องครับ ทำออกมาเท่ห์มาก ในขณะที่จุดอ่อนของหนังก็จะคล้ายกับหนังแนวนี้หลายๆ เรื่อง นั่นคือความอืดเกินไปในบางช่วง หลายฉากสามารถซอยออกเพื่อเพิ่มความกระชับและฉับไวให้หนังได้ แต่ก็พอเข้าใจผู้กำกับ Michael Caton-Jones เหมือนกันครับ เพราะหลายฉากที่ใส่มาก็เพื่อเพิ่มรายละเอียด บอกเล่าบางแง่มุมของตัวละคร เช่นมุมดราม่าเป็นต้น แต่พอดีว่าการนำเสนอมุมเหล่านี้ยังไม่โดนพอ เลยออกแนวอืดๆ ไปนิด

กระนั้นโดยรวมหนังก็ยังน่าพอใจครับ ดูดารามาวาดลวดลายกัน การเดินแผนของแจ็คเกิลก็น่าสนใจดีครับ ดูแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมคนจับแกไม่ได้ เพราะแกวางแผนรอบคอบ บางทีก็อ้อมไปทางนั้นทางนี้เพื่อลวงเหล่า FBI บางทีก็ปลอมตัวจนใครก็ตามรอยไม่เจอ และหากมีใครที่อาจจดจำเขาได้พี่แกก็จะจัดการกลบรอย (ด้วยการปลิดชีพ) ทันที เรียกว่าเป็นนักฆ่ามืออาชีพจริงๆ

เกร็ดจากหนังที่อยากบอกก็คือ ตอนแรกหนังใช้ชื่อตามหนังต้นฉบับคือ The Day of the Jackal ครับ แต่ผู้กำกับหนังต้นฉบับอย่าง Fred Zinnemann ไม่เห็นด้วยอย่างแรง เขามองว่าหนังเป็นคนละเรื่องกัน และไม่อยากให้ฉบับรีเมคนี้ใช้ชื่อเดิม เขาก็เลยต่อสู้เพื่อให้สตูดิโอเปลี่ยนชื่อ แล้วยิ่งไปกว่านั้น Frederick Forsyth เจ้าของนิยายต้นฉบับก็๋ยังยืนกรานให้หนังเอาชื่อเขาออกจากเครดิตด้วย ในที่สุดสตูดิโอก็ยอมครับ เปลี่ยนชื่อย่อสั้นลงเป็น The Jackal แทน

และหนังยังได้รับการบันทึกว่าเป็นผลงานจอใหญ่ชิ้นสุดท้ายของ Poitier ด้วยครับ เพราะผลงานหลังจากนั้น (ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต) ล้วนเป็นหนังทีวีทั้งสิ้นครับ

ในแง่รายได้หนังก็ถือว่าพอเท่าทุนครับ หนังทำเงินไป $159 ล้านจากทั่วโลก ส่วนทุนก็ประมาณ $60 ล้านครับ

เอาเป็นว่าถ้าชอบหนังแนวแอ็กชัน สืบสวน ผสมทริลเลอร์แล้วล่ะก็ เรื่องนี้ถือว่าไม่ผิดหวังครับ แม้จะไม่ถึงกับสมหวังมากมาย แต่ก็โอเคที่จะรับชมสักครั้ง