IMDB : tt9243804
คะแนน : 0
บอกตามตรงตอนแรกผมนึกว่าหนังเรื่องนี้จะเป็น Action Fantasy นะ ซึ่งผมคิดผิดแบบคนละเรื่องเลย หนังมาแนว Drama Adventure Fantasy ที่หนังเดินเรื่องแบบค่อนข้างติสท์พอสมควรตามแบบฉบับของผู้กำกับ David Lowery การเล่าเรื่องแบบเป็นองก์แต่ละองก์ที่จะค่อยๆ เล่าเรื่องเป็นช่วงๆ ช่วงหนึ่งก็จะมีเรื่องราวและจบในตัวมันเอง เหมือนเรากำลังอ่านหนังสือนิยายเป็นตอนๆ อยู่ยังไงอย่างงั้น ผสมผสานกับการเล่าเรื่องแบบมีชั้นเชิง เหมือนบทกวีที่ฟังแล้วอินไปกับความไพเราะ และยังแฝงมาด้วยปรัชญาให้ตีความอยู่ตลอด
งานภาพ งานแสงสีเสียง หนังทำได้ดีเลิศมาก ภาพที่ออกจะคุมโทนดาร์คๆ แต่กลับมีแทรกด้วยสีนวลดูสบายตา แต่เดินเรื่องแบบ contrast ด้วยเนื้อหาที่แฝงปรัชญาแบบดาร์ค ถือว่าเป็นความท้าทายของหนังที่จะทำให้คนติดตามได้โดยไม่หลับ ซึ่งหนังก็ทำได้จริงๆ ตลอดความยาวหนังสองชั่วโมงเศษๆ ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อหรือน่าง่วงนอนแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นหนังเนิบที่ดูแล้วน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา
หนังไม่ได้เข้าถึงคนดูทุกกลุ่ม ดังนั้นก็อาจจะมีคนดูที่บ้างก็จะบอกว่าสนุก หรือบางคนก็จะบอกไม่สนุก เพราะด้วยหน้าหน้าหนังที่มันออกมาเป็นหนัง Adventure Fantasy ยังไงกตามเราต้องคาดหวังความสนุกสนานจากการผจญภัยอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้กลับไปมาเป็นข้อคิดและปรัชญาล้ำลึกที่ให้คนดูไปตีความกันต่อเอง ซึ่งถ้าเราตัดความคาดหวังในหนังผจญภัยทั่วไป มันก็จะได้ความสนุกอีกรสชาติหนึ่ง
Dev Patel เล่นหนังทีไรแบกหนังไว้บนบ่าทุกที เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถือว่าแบกหนักสุดๆ และก็ทำได้ดี หนังที่อยู่บนบ่าถูกพาไปถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย ถึงจะตะกุกตะกักบ้าง แต่ก็ต้องชมตัวช่วยชั้นดีอย่าง Alicia Vikander ที่แสดงเป็นสองตัวละคร จนแทบจำไม่ได้ แต่ก็มีเค้าอยู่ เพราะโดนเมกอัพกลบซะเกือบจะเป็นคนละคน และยังช่วยประคอง Dave Patel ไว้เหมือนเป็นอีก 1 ตัวช่วยแบกที่พาให้หนังไปถึงจุดที่ควร
The Green Knight คงไม่ใช่หนังที่ทุกคนดูแล้วจะบอกว่าสนุก เพราะมันคือหนังที่ค่อนข้างติสท์พอสมควร แต่ถ้าลองตั้งใจดูตั้งต่ต้นเรื่อง จะโดนความน่าติดตามของหนังบังคับให้ดูต่อจนถึงตอนจบได้อย่างแน่นอน