IMDB : tt0404032
คะแนน : 7
ก่อนอื่น The Exorcism of Emily Rose สร้างขึ้นจากเรื่องจริง ในช่วงปี 70 เกี่ยวกับพิธีกรรมการไล่ผีอันโด่งดังที่ทำให้ผู้ที่ถูกประกอบพิธีกรรมต้องตายขณะประกอบพิธีกรรมคือ Anneliese Michel ชาวเยอรมันนี เกิดและเติบโตในครอบครัวผู้เคร่งครัด ในคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งเธอก็มีอาการเป็นโรคลมชักมาตั้งแต่อายุ 16 ปี และได้รับการรักษาด้วยการให้ยามาตลอด และเมื่อเธอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เธอก็ยังได้รับการรักษาอยู่ แต่อาการของเธอเริ่มรุนแรงขึ้น มีอาการประสาทหลอน ไม่กินอาหาร กินแมลงสาบ เห็นภาพลวงตา เป็นภาพผีและปีศาจตลอดเวลา และเมื่อเธอมีอาการรุนแรง ถึงขนาดทำร้ายตัวเองไม่รับประทานอาหารทั้งครอบครัวของเธอจึงตัดสินใจให้ บาทหลวง 2 ท่านเข้ามาประกอบพิธีไล่ผี (Exorcism) ตลอดระยะเวลา เกือบ 10 ปีที่มีอาการผิดปกตินั้นเธอได้ถูกประกอบพิธีกรรมไล่ผีถึง 67 ครั้งและทุกครั้งก็จะมีอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนท้ายที่สุดเธอก็ได้เสียชีวิต และหลังจากนั้นก็มีการนำคดีนี้ขึ้นสู่ศาลและศาลก็ได้พิพากษาว่าบาทหลวงที่ทำพิธีกรรมไล่ผีมีความผิด ฐานทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนามีโทษจำคุก 3 ปีแต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน
และด้วยสาเหตุผลจาก ที่ภาพยนตร์ได้นำเค้าโครงเรื่องมาจากเหตุการณ์จริงยิ่งทำให้ The Exorcism of Emily Rose เป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ชมและถือได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งเพราะว่าหลายคนได้รับรู้เรื่องราวคดีนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้วแต่หนังจะมีวิธีการเล่าเรื่องอย่างไรที่ทำให้คนสนใจและติดตามชมแม้จะรู้บทสรุปตอนท้ายแล้วก็ตาม ซึ่งสำหรับผมแล้วถือว่าทางผู้กำกับและทีมงานสอบผ่านและวิธีการเล่าเรื่องให้น่าสนใจ
สำหรับผมแล้ว นับตั้งแต่ผมดู The Exorcism 1973 ก็ติดใจกับพิธีกรรมไล่ผีในโลกภาพยนตร์ทันที นับว่าเป็นหนังผีที่ขึ้นหิ้งภาพยนตร์สยองขวัญของโลกใบนี้ไปแล้ว แต่พอมาดู The Exorcism of Emily Rose (2005) ต้องบอกว่ามีความน่าสนใจมาก มีมิติมากกว่าการไล่ผี มีเรื่องการหักเหลี่ยมในชั้นศาล การหาหลักฐานและพยานมาล้มล้างซึ่งกันและกันเรียกเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่ใช้แนวแนวทางในการเล่าแบบภาพยนตร์กฏหมายที่มีความสนุกน่าสนใจเลยทีเดียว
แม้จะเป็นแนวภาพยนตร์สยองขวัญเกี่ยวข้องกับการขับไล่ปีศาจซึ่งแม้ว่าจะมีอยู่อย่างมากมายแล้วก็ตาม แต่ในเรื่องนี้มีการเล่าเรื่องที่คมคาย ไม่ได้เล่าแบบตรงๆ หรือ ที่อ ๆ และก็ไม่ได้ทำให้เราเห็นว่า มีบทสรุปที่ชัดเจนว่า เป็นปีศาจเข้าจริ งๆ หรือเป็นอาการที่เกิดทางจิตจริง ๆ กันแน่ เรียกได้ว่าเราคนดูจะอยู่ในสถานะของลูกขุนที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ โดยฟังจากการอธิบายหรือหลักฐานที่อัยการหรือทนายความเล่าให้เราฟังนั่นเอง และเมื่อเราดูหนังเรื่องนี้จบลงแล้ว เราจะมีหน้าที่ตัดสินว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิดเหมือนคณะลูกขุนในภาพยนตร์นั่นแหละ
มีฉากและการตีความเรื่องผี ปีศาจ และเรื่องระหว่างโลกความเป็นกับความตายที่น่าสนใจมาก และฉากนี้นี่เอง เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่อง ว่าตัวละครเอกของเรื่องนั้นจะอยู่หรือจะไป
และหากมองให้ลงลึกไปกว่านั้นอีก การต่อสู้กันระหว่างอัยการฝ่ายโจทก์และทนายฝ่ายจำเลย ก็เปรียบเสมือนกับการหาหลักฐานมาสู้กัน หลักฐานที่เป็นภาพสะท้อนของความเชื่อความศรัทธาต่อพระเจ้ากับความไม่เชื่อ การต่อสู้กันระหว่างความถูกต้องและมนุษยธรรม การต่อสู้กันระหว่างความสว่าง (ในภาพยนตร์เปรียบเทียบเวลา 15:00 น) อันเป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้า กราฟระหว่างความมืด(ในภาพยนตร์เปรียบเทียบเวลา 03:00 น) อันเป็นของของซาตาน
ความดีงามอย่างหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้คือความสามารถในการแสดงของ Jennifer Carpenter ที่รับบทเป็น Emily Rose เธอได้ถ่ายทอดอารมณ์ความเจ็บปวดความกลัว ของตัวละครที่เธอได้แสดงไว้อย่างดีมากจนทำให้เราเชื่อว่า นี่คือการถูกปีศาจสิงจริง
The Exorcism of Emily Rose (2005) เป็นภาพยนตร์สยองขวัญแนวขับไล่ปีศาจที่มีมิติการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตามอย่างยิ่ง อีกทั้งมีความแข็งแรงทางด้านเนื้อหาเพราะหยิบยกมาจากเหตุการณ์จริงที่เคยเป็นคดีความอันโด่งดังในช่วงยุค 70 หากใครเป็นแฟนแล้ว หนังไล่ปีศาจแล้ว ไม่ควรภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง