IMDB : tt0118972
คะแนน : 7
The Devil’s Own ว่าด้วยเรื่องราวของความขัดแย้งของไอร์แลนด์เหนือกับอังกฤษ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายซึ่งจบลงด้วยความสูญเสีย แฟร้งกี้ (พิตต์) หนุ่มชาวไอริชที่เห็นพ่อถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาจนกลายเป็นความแค้นฝังใจ เขาเข้าร่วมกับขบวนการกู้ชาติไอริชและกลายเป็นบุคคลที่รัฐบาลอังกฤษต้องการตัวเป็นอย่างยิ่ง แฟร้งกี้เดินทางมายังอเมริกาไม่ใช่เพียงหลบซ่อนตัวเท่านั้น แต่เพื่อติดต่อซื้อจรวดสตริงเกอร์หวังจะมาใช้ต่อสู้กับกองทัพอังกฤษ ชีวิตในอเมริกาที่แตกต่างจากชีวิตในเบลฟาสต์อย่างสิ้นเชิง ซึ่งมันอาจทำให้จิตใจของแฟร้งกี้อ่อนโยนลงหรือในทางกลับกัน มันยิ่งช่วยเร่งเร้าให้เขาพยายามปฏิบัติภาระกิจให้สำเร็จ เพื่อให้ไอร์แลนด์เหนือสงบสุขเหมือนในอเมริกาให้ได้
แม้ชีวิตในอเมริกาจะสงบสุขเพียงใด แต่แฟร้งกี้ก็ไม่เคยลืมเพื่อนพ้องที่เบลฟาสต์ การเจรจาซื้อจรวดเกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง แฟร้งกี้ขอเลื่อนการซื้อขายออกไปก่อน แต่กลับถูกปฏิเสธจากนายหน้าค้าอาวุธแถมยังจับตัวเพื่อนซี้ของเขาเป็นตัวประกันอีก งานนี้แฟร้งกี้มีหรือจะยอมได้ เขารีบรุดไปช่วยเพื่อนทันที แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ทอม ก็ได้รู้ความจริงว่าหนุ่มน้อยผู้มาอาศัยเป็นใคร แว้บแรกที่รู้เราจะได้เห็นถึงแววตาที่อาบไปด้วยความผิดหวัง ทอมรู้สึกสับสนทำอะไรไม่ถูก ลึกๆ ในใจแล้วทอมยังเชื่อมั่นว่าแฟร้งกี้เป็นเพียงเด็กที่หลงทาง ยังมีโอกาสกลับตัวเป็นคนดี น่าเสียดายที่จุดจบสุดท้ายมันไม่แฮปปี้เอ็นดิ้ง
“…มันไม่เหมือนฮอลลิวู้ดหรอกทอม มันไม่มีทางจบลงด้วยความสุข”
ตอนท้ายเรื่องคนสองวัยที่ยืนอยู่บนความเชื่อคนละขั้วต้องชักปืนเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม ไม่มีฝ่ายไหนอยากให้อีกฝ่ายนึงต้องเจ็บ และสุดท้ายชีวิตของแฟร้งกี้มันก็ไม่ได้จบลงเหมือนอย่างหนังฮอลลิวู้ดตามที่เขาบอกทอมจริงๆ
สงครามและความขัดแย้งไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีแก่ใครทั้งสิ้น มีแต่ความสูญเสีย เสียคนที่เรารัก พ่อของใครสักคน ลูกชายของใครสักคน แต่ถึงวันนี้ความขัดแย้งก็ยังไม่ยุติ แม้ I.R.A. จะประกาศยุติบทบาทลงไปแล้ว แต่มันจะสงบลงได้อีกนานแค่ไหน ในเมื่อพวกเขายังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษหรือมันอาจเป็นเพียงผิวน้ำที่ดูสงบนิ่ง แต่ข้างใต้คลื่นลูกใหญ่กำลังก่อตัวขึ้นกันแน่