The Day After Tomorrow
หลังจากหลายปีของการเกิดภาวะเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น ความหายนะได้เกิดขึ้นทั่วโลกในรูปแบบของพายุเฮอริเคนที่ร้ายแรง พายุทอร์นาโด คลื่นยักษ์ น้ำท่วม และการเริ่มต้นของยุคน้ำแข็งใหม่ นักบรรพชีวินวิทยา แจ็ค ฮอลล์ พยายามเตือนโลกในขณะเดียวกันก็ดูแลลูกชายของเขาให้ปลอดภัย ซึ่งติดอยู่ในนิวยอร์กหลังจากที่เมืองนี้ถูกจมโดยการเริ่มต้นของการแช่แข็งครั้งใหญ่ครั้งใหม่
IMDB : tt0319262
คะแนน : 7
ฉากของเมืองหลวงใหญ่ๆ โดนถล่มด้วยพายุที่รุนแรง ลมพัดสะบัดทุกสิ่งอย่างปลิวกระจุย และคลื่นยักษ์ที่ซัดนิวยอร์ก หรืออะไรอื่นๆ อีก ...หลังจากพ้นฉากมันส์ๆ ระทึกๆ ในส่วนที่กล่าวไปสักครู่แล้ว มันจะตามมาด้วยจุดที่ตัวละครในเรื่องต้องดิ้นรนเอาตัวรอดกันและจะเริ่มมีคนสละชีพเพื่อลูกเมีย เพื่อคนรัก
ที่กล่าวไปคร่าวๆ นี้ก็นะพออธิบายถึงสูตรของผู้กำกับหนังหายนะภัย โรแลนด์ เอมมเมอริช ได้ว่าจะดำเนินไปในทิศทางไหน ...เรื่องนี้ผมค่อนข้างชอบมากหน่อยเพราะรู้สึกว่าภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้นั้นมันสามารถเกิดขึ้นจริงได้บนโลกเรา (แม้โอกาสจะมีน้อยนิด) ยิ่งมาผนวกกับประเด็นโลกร้อนในหนังที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ก็ยิ่งให้การดูหนังเรื่องนี้มีความหวาดกลัวนิดๆ...ผสมกันระหว่างมันส์ ระทึก ตื่นเต้น หวาดกลัว (แตกต่างจาก 2012 ที่เล่นใหญ่กว่า เกินความจริงมากกว่า เน้นถล่มโลกให้เหี้ยนเตียน) อย่างที่บอกไปครับ มันอาจจะเกิดขึ้นจริง เพราะมันค่อนข้างอิงมาจากสถานการณ์โลกในปัจจุบันนี้อย่างการที่น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หรือพายุทอร์นาโดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นจนมาถล่มในเมืองใหญ่เละ
เรื่องของความบันเทิงนั้นหายห่วงครับ ถ้าพูดถึงหนังหายนะภัยที่ดีๆ หน่อย ผมว่าก็น่าจะมีเรื่องนี้ติดไปด้วย ภาพเทคนิคพิเศษสมจริง น่าผวา ส่วนเนื้อเรื่องยังคาบแตะประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตัวละครนำในเรื่อง (ตามสูตร) ที่บางฉากสามารถเรียกความเอาใจช่วยจากคนดูได้
ดารานำในเรื่องก็มีชื่อพอตัวครับ อย่างพระเอกเจค จิลเลนฮาลที่สมัยยังละอ่อนๆ หล่อโดนใจสาวๆ และเดนนิส เควดที่มาเล่นเป็นพ่อของพระเอก The day after tomorrow น่าจะเป็นหนังภัยพิบัติที่พอทำให้เราเสียว หวาดกลัว กับสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นบนโลกเราได้บ้าง สนุกตื่นเต้น เต็มไปด้วยฉากระทึกๆ เหนี่ยวอารมณ์คนดู ภาพเทคนิคสมจริง