ค้นหาหนัง

The Art of War | ทำเนียบพันธุ์ฆ่า สงครามจับตาย

The Art of War | ทำเนียบพันธุ์ฆ่า สงครามจับตาย
เรื่องย่อ : The Art of War | ทำเนียบพันธุ์ฆ่า สงครามจับตาย

ขณะที่จะมีการประชุมใหญ่ ระหว่างองค์การสหประชาชาติกับประเทศจีน ก็มีการตรวจพบตู้สินค้าที่เต็มไปด้วยศพผู้อพยพชาวจีนเวียดนาม ผลที่เกิดขึ้นทำให้เลขาธิการ เรย์ ถุกกระแสกดดันอย่างหนัก นีล ชอว์ (เวสลีย์ สไนปส์) สายลับซึ่งทำงานให้กับเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ กับ อีเลียนอร์ ฮุ้คส์ (แอนน์ อาร์เชอร์) เจ้านายของเขา เชื่อว่า หว่อง ฑูตจีนน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องมากที่สุด แต่ไม่ทันที่ทุกอย่างจะคลี่คลาย หว่องก็ถูกลอบสังหารเสียก่อน และชอว์ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร เขาถูกจับแต่ก็รอดมาได้ พยานคนเดียวในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็คือ จูเลีย เยทส์ (มารี ทามิโกะ) ล่ามของสหประชาชาติ เธอและชอว์ต้องตกอยู่ในวงล้อมของตำรวจ มาเฟียจีนและศัตรูที่มองไม่เห็น ทั้งสองจึงไม่สามารถเชื่อใจใครได้เลยแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นมิตร

IMDB : tt0160009

คะแนน : 6



ชื่อหนังนับว่าน่าสนใจนะครับ เพราะ The Art of War ในภาษาฝรั่งหมายถึงกลยุทธพิชัยสงครามอันลือลั่นของซุนวู ที่มาของหนังก็เนื่องด้วยความชื่นชอบในกลยุทธซุนวูนี่แหละ

หนังเปิดตัวมาก็แนะนำคนดูให้รู้จักกับ นีล ชอว์ (Wesley Snipes) สายลับมือพระกาฬของ UN ที่เข้ารับหน้าที่สะสางทุกสิ่ง ไม่ว่าจะสยบมือสังหาร ต่อต้านผู้ก่อการร้าย อะไรที่เป็นการรักษาความสงบน่ะขอให้บอกครับ แกทำได้อยู่แล้ว

แต่แล้วคนดีก็ตกเป็นเป้าของคนชั่วทุกที เมื่อจู่ๆ เขาตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคน พี่แกเลยต้องหนีหัวซุกหัวซุนเอาตัวรอด พร้อมทั้งหาหลักฐานมาแก้ต่างให้ตัวเองรอด ท่ามกลางอุปสรรคขวากหนามนับร้อยแปดประการ

ท่านที่คาดหมายว่าหนังจะมีการงัดเอากลยุทธซุนวูมาใช้ มาเชื่อมโยงเหตุการณ์และเอามาตีกัน ขอบอกว่าน้อยมากจนแทบไม่ได้สัมผัสครับ หนังตั้งชื่อโก้ๆ อย่างนั้นมากกว่า ส่วนใหญ่หนังทำให้นึกถึง The Fugitive หรือ U.S Marshal มากกว่า ไอ้พล็อตประเภทตัวเอกโดนใส่ความแล้วก็ต้องมาหาทางแก้ต่างเนี่ย แล้วตอนท้ายคงไมต้องบอก พระเอกย่อมชนะอธรรมเสมอ ส่วนฝ่ายผู้ร้ายก็แทบไม่ต้องลุ้น เพราะหนังแนวนี้กี่เรื่อง ฆาตกรตัวจริงผู้อยู่เบื้องหลังมักจะเป็นคนใกล้ตัวนั่นแหละ

ส่วนที่ดีของหนังมาอย่ที่ฉากบู๊ที่ไม่ผิดหวังครับ Snipes โชว์วิชาศิลปะป้องกันตัวได้ดี เอาแค่ฉากแรกที่พี่แกเปิดตัวนี่มาดให้เป็นสายลับสุดๆ เท่ห์น่ะครับ เท่ห์มาก หลังจากฉากแรกแกก็ยังโอเคอยู่ แต่บทมันเดิมๆ เหมือนกับที่แกเคยแสดงใน U.S.Marshal มาน่ะแหละ

ดาราเจ้าอื่นๆ มีชื่อและมีฝีมือพอตัว เริ่มจาก Donald Sutherland ในบทโดนัลด์ โธมัส หัวหน้างานที่เหมือนจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังนีลมากเหลือเกิน รายนี้หน้าตาโหงวเฮ้งไม่น่าวางใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ ทำให้คนดูระแวงได้ดีเลยล่ะ

Anne Archer เจ้าของบทภรรยาแจ๊ค ไรอันจากหนัง Patriot Games และ Clear and Present Danger ก็มาแสดงเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง เอเลนอร์ ฮุค นี่ก็โหงวเฮ้งเหมือนกำความลับบางอย่างอีกเช่นกัน ในเรื่องนี้หาคนหน้าตาน่าไว้ใจไม่ได้เลยครับ

อีกคนก็ Michael Biehn ในบทโรเบิร์ต บลาย คู่หูของนีลที่โดนเล่นงานตอนต้นเรื่อง ขานี้ก็ได้บทถนัดอีกแล้วครับ ประเภทดีก็ดี แต่พอต้องโหดขึ้นมาก็ไม่มองหน้าใครเหมือนกัน

Marie Matiko นางเอกของเรื่องก็สวยดีครับ น่ารักพอตัว

หากท่านถามหาฉากแอ็กชันที่พอแก้เบื่อ ผมว่าหนังเรื่องนี้ให้คำตอบคุณได้ครับ เพราะฉากบู๊ต่อสู้มันไม่เลว แต่เป็นฉากตีกันประเภทมือเปล่านะครับ ไมได้เอาอาวุธมายิงกัน เท่าที่ทราบตอนแรกทีมงานเล็งดาราฮ่องกงนามว่า Jet Li หรืออาหลี่เหลียนเจี๋ยของเรานี่แหละ มารับบทสายลับพระกาฬที่พกตำราซุนวูในสมองทุกย่างก้าว แล้วก็ใช้กลยุทธรับมือกับวายร้ายอย่างได้ผล แต่เหมือนว่าอาเจี๋ยแกจะมีงานชุกครับ เลยบอกปัดหนังเรื่องนี้ไป แต่เป็นการบอกปัดที่ Snipes ได้ประโยชน์ครับเพราะแกอยากเล่นบทนี้เองมานานแล้ว

ผู้กำกับ Christian Duguay เจ้าของผลงานภาคต่อหนังระเบิดสมองสุดฮิตอย่าง Scanners (แกทำภาคสองและภาคสามครับ) ตามด้วย Screamers และ The Assignment ขานี้มีความเด่นอยู่ที่งานด้านภาพนะครับ มีความฉับไวและมุมกล้องที่ชวนอึดอัด ตอนทำฉากกดดันหนังทำได้ดีเลยครับ ฉากบู๊ก็ไม่เลว แต่ก็ตามเคยครับ บทมันเดาได้ อ่อนเยอะมาก ทั้งๆ ที่มาทางเดียวกับ The Fugitive แต่ความสนุกถือว่าคนละขั้นกันจริงๆ

ทีนี้ก็แล้วแต่ท่านนะครับ แต่ผมว่าก็เป็นงานที่พอใช้ของ Snipes ที่บู๊ได้ไม่น่าเกลียด การตามปมไม่ได้เร่งเร้าแต่ก็โอเค ขอแค่ดูแบบไม่คิดมากหนังมันจะพอเพลินๆ ผมยังดูแบบเรื่อยๆ เลยครับ แต่พอจบแล้วก็จบกันไม่คิดดูซ้ำ