เรื่องย่อ : Tae Guk Gi: The Brotherhood of War
เมื่อ จินซก (ในวัยชรา) ได้รับแจ้งจากทีมนักโบราณคดีว่า ได้ขุดพบซากศพที่ในอดีตเคยเป็นสนามรบ และเหมือนว่าซากดังกล่าวจะเป็นของพี่ชาย จินแต (จางดองกัน) ซึ่งหายสาบสูญระหว่างออกรบ เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน จากนั้นภาพย้อนอดีตได้เริ่มต้นขึ้น สองพี่น้อง จินแต และ จินซก อาศัยอยู่ในเมืองสงบแห่งหนึ่ง จินซก หนุ่มน้อยปัญญาชนรักการอ่านหนังสือ รูปร่างบอบบางเขา เปรียบเหมือนความหวังแห่งอนาคตของครอบครัว ส่วน จินแต ชายหนุ่มบุคลิกแข้มแข็ง ห้าวหาญ ทำงานเป็นช่างซ่อมรองเท้า เพื่อหาเงินช่วยส่งน้องชาย ให้ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ส่วนคู่หมั้นของเขา ยังชิน (ลีอุนจู) ทำกิจการร้านค้า ซึ่งมีทีท่าว่าจะไปได้ดี เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้น สองพี่น้องได้ถูกคัดเลือก ให้ไปเป็นทหารเข้ารบพร้อมกัน คำพูดของนายทหารคนหนึ่ง ทำให้จินแตเข้าใจว่า หนทางเดียวที่จะช่วยให้น้องชาย ได้กลับไปใช้ชีวิตสงบสุขอยู่แนวหลัง คือการอาสารบให้ได้เหรียญกล้าหาญมากที่สุด ดังนั้นเขาจึงอาสาเข้าไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงภัยทุกครั้ง อย่างไม่หวั่นเกรงความตาย แต่แล้วความรุนแรงในสนามรบ ชื่อเสียง ตลอดจนการยอมรับก็เริ่มกลายเป็นสิ่งเสพติด ระหว่างนั้นจินซกได้เฝ้ามองพฤติกรรมบ้าเลือดของพี่ชาย ด้วยความเคลือบแคลงสงสัยว่า เขากำลังทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง หรือเพื่อครอบครัวกันแน่ ไม่นานความเลวร้ายของสงคราม ก็ได้ผลักดันสองพี่น้องที่เคยรักใคร่กลมเกลียว ให้กลายเป็นศัตรู
ในความเห็นของผม เหมือนหนังเรื่องนี้สะท้อนความเป็นพี่น้องกันของเกาหลีเหนือ-ใต้ ผ่านตัวละครของทั้งคู่
แต่มีสิ่งที่ทำให้สองพี่น้องเข้าใจผิดกันคือ "สงคราม"
ไม่ได้ดูนานมากแล้ว (แต่เคยดูหลายรอบครับ) เอาเท่าที่จำได้นะครับ
ตัวพี่ชายยอมเสี่ยง ยอมตาย ยอมทำทุกอย่างในการรบ เพียงเพื่อให้น้องชายได้กลับบ้านไปเรียนหนังสือ
ขณะที่น้องชายกลับเข้าใจผิดไปว่าพี่ชายทำไปเพราะมักใหญ่ใฝ่สูง
สุดท้ายกลายเป็นว่าผู้บังคับบัญชาผิดสัญญา ไม่ยอมส่งน้องชายกลับบ้าน และเกิดเหตุระเบิดจนพี่ชายเข้าใจว่าน้องชายของตัวเองตาย
พี่ชายเลยเกิดความแค้น ไปเข้าร่วมกับอีกฝ่าย จนแทบกลายเป็นคนเสียสติ
ตอนหลังหนังเฉลยว่าน้องชายไม่ได้ตาย และน้องชายเข้าไปตามหาพี่ชายในสนามรบจนเจอ
สุดท้ายพี่ชายยอมสละชีวิตช่วยเหลือน้องชาย
คือหนังมันสะท้อนหลายระดับนะครับ ทั้งเรื่องพี่น้อง ครอบครัว (ฉากที่ครอบครัวของพระเอกทั้งสองโดนกระทำก็สะเทือนใจมาก)
รวมถึงเรื่องระดับประเทศ ปกติผมดูหนังเกาหลีบ้าง ไม่มาก แต่เรื่องนี้ผมยกให้เป็นหนังที่ดีที่สุดของเกาหลี และหนังดีเรื่องหนึ่งในใจผมเลย
ลองกลับไปตั้งใจดูอีกรอบนะครับ หาซับไทยมาดูให้ได้ หนังยาวพอสมควร แต่ไม่เสียเวลาแน่นอน
แล้วถ้าประทับใจกับมันเมื่อไหร่ ลองได้กลับมาดูอีกครั้ง น้ำตานี่จะไหลตั้งแต่ฉากแรกๆ เลยครับ