Space Sweepers | ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล

Space Sweepers  ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล หนังอวกาศในโลกใบนี้สร้างมาเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นหนังที่เป็นปรัชญา ซึ่งแม้จะมีความสนุกแต่ก็มีหลายจุดที่ออกไปทางน่าเบื่อ แต่หากใครอยากชมหนังอวกาศที่มีความสนุกความมัน ลุ้น ระทึก เอามจช่วยแล้วมีความหมายดี ๆ ไปพร้อม ๆ กัน ขอแนะนำหนังอวกาศจากเกาหลีเรื่อง Space Sweepers ชนชั้น ขยะปฏิวัติจักรวาล เลยครับ โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้สนุกและดีกว่า Guardians of the Galaxy ซะอีก เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเชิญติดตาม

Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล เป็นหนังไซไฟอวกาศที่ดูแล้วสนุกมาก เรื่องราวดำเนินอย่างรวดเร็ว มีฉากแอคชั่นฉากลุ้นระทึกให้ดูแทบตลอดทั้งเรื่อง มีจังหวะหยุดหายใจหายคอน้อยมาก ฉากการไล่ล่าในอวกาศนั้นทำได้มันแบบสุด ๆ โดยเฉพาะครึ่งชั่วโมงหลังของเรื่องนั้นสนุกมาก ทั้งเรื่องไม่มีความยืดเยื้อเลย ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงกว่าที่หนังฉายนั้นไม่มีจุดไหนที่น่าเบื่อเลย มีจุดประทับใจหลายจุด และมีจุดสร้างความประหลาดใจอีกหลายจุด จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในหนัง Netflix ที่สร้างความบันเทิงให้คนดูได้อย่างดีงาม

เอาเข้าจริง ๆ แล้วเวลาที่เราดูไปตลอดทั้งเรื่อง เราก็รู้สึกว่าหลายจุดในหนังนั้นเหมือนกับหนังไซไฟหลายเรื่องที่เราเคยดูมา อย่างเช่นฉากที่ยานอวกาศลำเล็กไล่ยิงกันใกล้กับยานอวกาศลำใหญ่ มันช่างเหมือนฉากการไล่ยิงกันใน Star Wars: New Hope มาก ๆ ฉากความสัมพันธ์ของตัวละครในยานอวกาศ Victory ก็ดูเหมือนกับ Guardians of the Galaxy ที่ค่อนข้างวุ่นวายสับสน ทะเลาะจิกกัดกันไปมา ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าทางทีมสร้างก็น่าจะได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ 2 เรื่องนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว และโดยทัศนคติส่วนตัวของผมด้วยเช่นกัน ผมว่า Space Sweepers สนุกกว่า 2 เรื่องนั้นซะด้วย

แม้จะมีความเป็นแอคชั่น sci-fi แต่เขาก็ใส่ฉากที่เน้นอารมณ์ได้ค่อนข้างถูกที่ถูกจังหวะ เช่น แทโฮ เขาคือพ่อที่ต้องสูญเสียลูกสาว เขาต้องพยายามหาเงินมาจ่ายให้กับหน่วยงานหนึ่งเพื่อคนหาลูกสาวที่หายไปในอวกาศ ตลอดทั้งเรื่องว่าเราจะดูว่าเขาเป็นคนทำอะไรเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว แต่เราก็ไม่โกรธเขาเพราะเข้าใจได้ว่าการหาเงินของเขานั้นก็เพื่อค้นหาตัวของลูกสาว หรือฉากของโดโรธีเด็กสาวที่ถูกทาง UTS ประกาศว่าเป็น Android ติดระเบิด เธอมีอารมณ์ที่สดใสร่าเริง การกระทำของเธอหลายอย่างสร้างความสะเทือนใจให้กับทีม Victory ได้ ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าการหนัง Balance อารมณ์ในจุดนี้ทำได้ดีครับ

แน่นอนครับว่า หากหนังเรื่องไหนมีเด็กเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเด็กที่เจอในระหว่างทางของเรื่อง เด็กคนนั้นจะกลาย เป็นตัวละครสำคัญที่เปลี่ยนทัศนคติของตัวละครแวดล้อมได้ จากคนไม่ดีก็กลายเป็นคนดีได้ จากคนแข็งกระด้างก็กลายเป็นคนอ่อนโยนได้ และนำไปถึงจุดสูงสุดของหนังคือ จากคนโลภกลายเป็นคนเสียสละได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อเด็กคนนั้น เพื่อพวกพ้อง หรือแม้แต่มวลมนุษยชาติก็ตาม ซึ่งสำหรับ Space Sweepers มีเต็ม ๆ เลยครับ แต่ใครจะเสียสละอะไรนั้นต้องไปตามชมเอาเองครับ

การลงทุนนั้นก็ค่อนข้างตระการตา การออกแบบเมืองในอวกาศนั้นทำได้ดีมาก สมกับการที่ได้โปรโมทว่าได้ลงทุนบีถึง 2400 ล้านวอนหรือราว 646 ล้านบาท แต่สิ่งที่ผมชอบกับเป็นรายละเอียดในยานอวกาศทำได้ดี ส่วนทางด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกนั้นเขาก็ทำได้ดีไม่มีอะไรขัดตา จัดได้ว่านี่คือความก้าวหน้าทางโปรดักชั่นของหนังเกาหลี ที่สามารถเทียบชั้นของฮอลลีวูดได้แบบที่ฮอลลีวูดอาจต้องอายเลยก็ได้

ในด้านการออกแบบตัวละครนั้นผมรู้สึกว่าเขาทำได้ค่อนข้างดีและมีเสน่ห์มากๆ โดยเฉพาะตัวละครหลักในยานอวกาศ Victory มีเสน่ห์ทุกคน เชื่อว่าดูจบทุกคนจะต้องหลงรักสมาชิกของทีม แต่ที่สุดของเสน่ห์ ผมขอยกให้เด็กที่รับบทเป็นโดโรธี เธอน่ารักสดใสเล่นดีเป็นธรรมชาติ ใครไม่หลงเสน่ห์เด็กคนนี้ก็บ้าแล้ว ส่วนพระเอกแทโฮ รับบทโดย ซงจุงกิ นี่ก็สร้างสีสรรให้เรื่องได้ดี สาว ๆ คงกรีดน่าดู แต่ที่สุดของความเซอร์ไพรส์ก็ต้องมอบให้กับ Android Bobs เป็นหุ่นยนต์ข้ามเพศที่มีความใฝ่ฝันว่าอยากปลูกผิวหนังเทียมให้เหมือนมนุษย์ ซึ่งตอนจบร้องได้คำเดียวว่าโอ้โหมาก

นอกจากความสนุกหนังที่จะได้รับอย่างเต็มที่แล้ว หนังก็ยังให้ความหมายที่ดีกับคนดู หนังได้พูดถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม การแย่งชิงทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เรื่องของสิทธิมนุษยชน มิตรภาพ การพัฒนาที่สร้างผลกระทบให้กับคนจำนวนมาก การรวมอำนาจไว้ที่คนคนเดียวในลักษณะการปกครองแบบเผด็จการ จิกกัดนักอนุรักษ์ NGO หรือแม้แต่ประเด็นการเปิดกว้างทางเพศ เรียกได้ว่า Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล ใหครบทั้งสาระและบันเทิง

8/10