IMDB : tt0375063
คะแนน : 8
เคยได้ยินชื่อเสียงของหนังเรื่งนี้มานานมากแล้ว เมื่อ 16 ปีก่อน ผลงานดราม่าของ Alexander Payne ที่ผงาดถึงขั้นคว้ารางวัลออสการ์สาขาดัดแปลงบทยอดเยี่ยม ในปี 2005
หากใครมีปัญหาในการดำเนินชีวิตผมอยากให้คุณลองมาดูหนังเรื่องนี้ซะ รับรองได้เลยว่ามุมมองในการใช้ชีวิตคงจะเปลี่ยนไปทันที เพราะบทนำพาคน Loser 2 คนให้มาพบกัน ชายวัยกลางคนที่ยังสร้างเนื้อสร้างตัวไม่ได้ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง มองโลกในแง่ร้ายเป็นทั้งครูและนักเขียน มาเจอกับผู้ชายอีกคนที่ทำอะไรตามใจชอบ อยากทำอะไรก็ทำแบบไม่มีจุดหมาย นิสัยเหมือนเด็ก
ว่ากันตามตรงจริงๆแล้วหนังไม่มีอะไรมาก แค่นำแง่มุมชายวัยกลางคนที่มีปัญหาในเรื่องทัศนคติ มาฟังชีวิตของอีกฝ่าย แต่เสน่ห์ของหนังคือการเล่าเรื่องแบบ road movie ที่เดินทางไปโน่นไปนี่ผ่านการลิ้มรสชาติไวน์ทั่วแคลิฟอร์เนียเพื่อลึกๆแล้วจะได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองซะใหม่
วิธีการเล่าเรื่อง Alexander Payne คือการทำให้หนังดูสมจริงเป็นไปตามธรรมชาติ ไร้ประเด็นดราม่า ไม่ต้องมาแต่งเรื่อง ให้ความรู้สึกจับต้องได้ในการชม มีอยู่ฉากหนึ่งที่ผมชอบสุดคือฉากกระดกไวน์กลางบาร์ละเลงซะเสื้อผ้าเปื้อนไปหมด
หากใครคาดหวังจะดูหนังเรื่องนี้อยากให้ทำความเข้าใจถึงงานของ Alexander Payne เสียก่อนว่า เขาทำหนังดราม่าที่เล่าปมปัญหาชีวิต มันไร้ซึ่งความหวานให้คุณชื่นชมแน่ๆ คงอาจจะผิดหวังได้ เพราะงานชิ้นนี้มีความเป็นหนังไม่ตลาดพอสมควร
นักแสดง
พอล จิอาแม็ตติ ในบทไมล์ คือผมชอบฝีมือการแสดงของเขาเหตุผลที่รู้สึกอย่างนั้นก็เพราะ เขาเล่นได้เป็นธรรมชาติตามที่ Alexander Payne ผู้กำกับอยากให้เป็น เป็นคนทัศนคติไม่ดีสิ้นหวังซะเชื่อซะสนิทใจละเลงไวน์ซะเละเทะไม่มีชิ้นดี
โธมัส ฮาร์เดน ครัช หรือแซนแมนจากสไปเดอร์แมน 3 จากไตรภาคของแซม ไรมี่ เป็นคนอายุเยอะที่ทำนิสัยเป็นเด็กที่เหมือนเป็นคนสร้างปัญหาในระหว่างที่ไมล์ไปลิ้มรสชาติไวน์มากกว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เพราะตลอดทั้งเรื่องพี่แก สร้างเรื่องจะเยอะเกิน
สรุป อาจไม่ใช่หนังที่ชอบมากของ Alexander Payne เมื่อเทียบกับ The Descendants และ Downsizing แต่ชอบที่หนังเป็น road trip ที่ดูสมจริงสมจังในการเล่าเรื่อง โดยใช้การชิมไวน์มาเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคนที่คิดลบให้เข้าใจรสชาติที่แท้จริงของชีวิตไม่ใช่แค่ตัดพ้อโทษเรื่องโน่นเรื่องนี้เวลาทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จ ใครอยากดูหนังไม่กระแสผมขอเชียร์เรื่องนี้นะ