ค้นหาหนัง

Sense and Sensibility | เหตุผลที่คนเรารักกัน

Sense and Sensibility | เหตุผลที่คนเรารักกัน
เรื่องย่อ : Sense and Sensibility | เหตุผลที่คนเรารักกัน

บอกเล่าเรื่องราวผ่านหญิงสาว สองพี่น้องที่มีวิธีการมองเรื่องราวความรักต่างกันอย่างสุดขั่ว ผ่านวิถีชีวิตของชาวอังกฤษในสมัยก่อน แมริแอนน์ (เคต วินสเลต) น้องสาวที่ใช้ความรู้สึกเป็นตัวแปรขับเคลื่อนความรัก วิ่งเข้าชนความรักแบบไม่ระมัดระวังตัว แตกต่างจาก อิลินอร์ (เอ็มม่า ธอมป์สัน) พี่สาวที่ใช้ชีวิตอยู่บนหลักเหตุผลในทุกๆสิ่ง ทั้งสองได้พบเจอความรักด้วยกันทั้งคู่ และเรื่องราวของความรักก็เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ของเหตุผลและความรู้สึก ก่อเกิดเป็นเรื่องราวที่เติมเต็ม+ให้บทเรียนอันมีค่าสำหรับเขาทั้งสอง รวมไปถึงคนดูด้วย เราจะได้พบเรื่องราวสุดแสนประทับใจอีกบทหนึ่งที่เสนอแง่มุมนิยามของ 'ความรัก'

IMDB : tt0114388

คะแนน : 10



ขึ้นชื่อว่าความรัก ใครเจอเข้าก็หลงกันทั้งนั้น ไม่ว่าจิตใจจะอ่อนไหวหรือแข็งแกร่ง เหมือนสองพี่น้อง “เอลินอร์” และ “มาริแอนน์” ใน Sense and Sensibility เล่มนี้ที่เขียนโดย Jane Austen

Sense and Sensibility เป็นนิยายเล่มแรกของ Jane Austen ที่ได้ตีพิมพ์ ตอนแรกตีพิมพ์แบบไม่เปิดเผยชื่อด้วย ตัวนิยายเล่าเรื่องของพี่น้องตระกูล Dashwood หลัก ๆ เลยก็คือ เอลินอร์ พี่สาวคนโตอายุ 19 ปี และ มาริแอนน์ น้องคนกลางอายุประมาณ 16 ปี ซึ่งทั้งคู่ถือว่าอยู่ในช่วงวัยรุ่นแรกแย้ม พอดิบพอดีกับการได้พบเจอความรักที่เข้ามาสร้างความสุข พอ ๆ กับมาเป็นบทเรียนสุดขมให้กับเด็กทั้งสอง

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อพี่ชายต่างแม่ของเอลินอร์และมาริแอนน์อย่างจอห์นได้รับมรดกเพราะเป็นลูกชายคนแรกที่เกิดจากภรรยาคนแรก ภรรยาคนที่สองซึ่งก็คือแม่ของนางเอกทั้งคู่จึงพาลูก ๆ ระหกระเหินย้ายไปอยู่ที่อีกเมืองหนึ่ง โดยไปเช่าบ้านของญาติห่าง ๆ อย่างท่านเซอร์จอห์น มิดเดิลตัน

ณ ที่แห่งนี้ สาว ๆ ตระกูล Dashwood จึงได้พบเจอผู้คนใหม่ ๆ มากมาย บรรยากาศอบอุ่นเหมือนวันรวมญาติ ในฝั่งของเอลินอร์นั้นเธอต้องพลักพราดจากเอ็ดเวิร์ด ชายผู้เป็นที่รักซึ่งได้พบเจอกันสมัยอยู่ที่บ้านเก่า แต่เอลินอร์ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรตามสไตล์คนนิ่ง ๆ

ส่วนมาริแอนน์นั้น ได้พบรักกับชายหนุ่มเทสต์ดีอย่างจอห์น วิลโลบี้ ผู้ซึ่งหลงใหลในดนตรี นิยาย และศิลปะเหมือนเธอเปี๊ยบ ด้วยความที่มาริแอนน์เป็นคนละเอียดละออและหัวศิลป์มาก การได้เจอวิลโลบี้จึงเหมือนเจออีกครึ่งหนึ่ง ทั้งคู่คุยได้อย่างถูกปากถูกคอ ความสัมพันธ์คืบหน้าอย่างรวดเร็ว

จากบรรยากาศเนิบ ๆ สบาย ๆ ของนิยาย ใครเล่าจะไปคาดคิดว่า อยู่ดี ๆ หญิงสาวทั้งคู่ก็ต้องผิดหวังในรักอย่างกะทันหัน เล่นเอาคนอ่านอย่างเราตกใจตามไปด้วย และปมเรื่องความสัมพันธ์ต่อจากนี้นี่แหละที่จะขับเคลื่อนนิยายให้ดำเนินไปอย่างน่าติดตามมากขึ้น

" รักมิใช่รักแท้หากพบคนใหม่แล้วแปรเป็นอื่น " เราใช้เหตุผลในเรื่องของความรักหรือใช้ความรู้สึกกันแน่นะ หรือแท้จริงแล้วทั้งความรู้สึกและเหตุผลนั้นเป็นเนื้อเดียวกันปราศจากการแบ่งแยกโดยสิ้นเชิง หลายครั้งที่เรามักใช้ 'ความรู้สึก' กับเรื่อง 'ความรัก' และหลายครั้งที่มันผิดพลาดไปหมด จนบางครั้งเราเลือกที่จะใช้เหตุผลกับมัน ผลที่ได้มาคือความเป็นเหตุผลทำให้เรา 'อึดอัด' จนเกินไป แล้วสิ่งไหนกันนะที่ทำให้ความรักมั่งคง อาจเป็นทั้งสองสิ่งนั้นแหละแต่เกิดจาก 'ความพอดี' ของทั้งเหตุผลและความรู้สึก

'Sense and Sensibility' บอกเล่าเรื่องราวผ่านหญิงสาว สองพี่น้องที่มีวิธีการมองเรื่องราวความรักต่างกันอย่างสุดขั่ว ผ่านวิถีชีวิตของชาวอังกฤษในสมัยก่อน แมริแอนน์ (เคต วินสเลต) น้องสาวที่ใช้ความรู้สึกเป็นตัวแปรขับเคลื่อนความรัก วิ่งเข้าชนความรักแบบไม่ระมัดระวังตัว แตกต่างจาก อิลินอร์ (เอ็มม่า ธอมป์สัน) พี่สาวที่ใช้ชีวิตอยู่บนหลักเหตุผลในทุกๆสิ่ง ทั้งสองได้พบเจอความรักด้วยกันทั้งคู่ และเรื่องราวของความรักก็เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ของเหตุผลและความรู้สึก ก่อเกิดเป็นเรื่องราวที่เติมเต็ม+ให้บทเรียนอันมีค่าสำหรับเขาทั้งสอง รวมไปถึงคนดูด้วย เราจะได้พบเรื่องราวสุดแสนประทับใจอีกบทหนึ่งที่เสนอแง่มุมนิยามของ 'ความรัก'

สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นคือวัฒนธรรมในสมัยก่อนที่กว่าจะได้คู่ครองสักหนึ่งคนนั้นยากแสนยาก ต้องผ่านธรรมเนียมประเพณี ขั้นตอนต่างๆมากมาย กว่าเราจะได้รักกัน ดังนั้นเมื่อเขาและเธอพบเจออุปสรรคทั้งคู่ก็พร้อมที่จะเดินจับมือไปด้วยกัน เพื่อผ่านเรื่องราวที่ยากแสนยากไปให้ได้ บทภาพยนตร์ออกแนวกวี สวยงามด้วยคำพูด บรรยากาศของหนัง โทนสีสวยงามตามสไตล์ 'Ang Lee' หนังดำเนินเรื่องแบบสบายๆ แต่แฝงไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครได้พิถีพิถัน ท้ายสุดแล้วหนังก็ไม่ได้ให้คำตอบว่าความรักต้องใช้เหตุผลหรือความรู้สึก แต่สิ่งที่หนังสรุปเรื่องราวในตอนท้ายคือ ความรักยังคงเป็นเรื่องของคนสองคนเสมอและมันก็ยังคงสร้างเรื่องราวที่สวยงามเสมอให้เราได้เช่นกัน