ค้นหาหนัง

Rush Hour | คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด ภาค 1

Rush Hour | คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด ภาค 1
เรื่องย่อ : Rush Hour | คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด ภาค 1

ความดุเดือดเปิดฉากขึ้นเมื่อตำรวจ 2 นาย คือ สารวัตรแผนกสืบสวนลี (รับบทโดย แจ็คกี้ ชาน) จากหน่วยสืบสวนชาวฮ่องกง และนักสืบเจมส์ คาร์เตอร์ (รับบทโดย คริส ทัคเกอร์) จากเอฟบีไอ ซึ่งทั้งสองจะต้องมาทำงานร่วมกัน ขณะที่เวลาใกล้จะหมดลงแล้ว พวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อตามจับกุมตัวอาชญากรและต้องช่วยชีวิตเด็กสาวชาวจีนวัย 11 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของกงสุลชาวจีนนามว่า ซู ยาง (รับบทโดย จูเลีย ซู) ให้ทันเวลาอีกด้วย

IMDB : tt0120812

คะแนน : 7



ทีนี้มาดูคนที่มาจากฮ่องกงแล้วไปรุ่งที่ฮอลลีวู้ดบ้างล่ะนะครับ เขาคือ เฉินหลง กับงานแรกแบบเต็มตัวในอเมริกาที่เล่นเอาดังไปทั้วโลกเลย กับบทลี นายตำรวจจอมวิทยายุทธที่ต้องมาจับคู่จำเป็นกับ เจมส์ คาร์เตอร์ (Chris Tucker) นายตำรวจเอลเอพีดีจอมปากมาก ในการตามสืบคดีลักพาตัวลูกสาวกงศุลฮั่น (Tzi Ma)

หนังทั้งมันส์ ทั้งฮาครับ ลื่นไหลเหลือเกิน แน่นอนครับ ต้องขอบคุณ 2 นักแสดงนำที่ทำได้ฮาเหลือเกิน ฉากการต่อสู้ก็สนุกสิ้นดี เป็นการจับคู่ที่เข้าท่าสุดๆ อีกครั้งหนึ่งของวงการน่ะนะครับ คนหนึ่งเก่งฟัดผิวขาว อีกคนก็ปากมากผิวดำ ซึ่งถ้าไม่เจ๋งจริงหนังคงไม่มันส์ขนาดนี้หรอกครับ อันนี้ก็ต้องชมผู้กำกับ Brett Ratner ด้วยล่ะครับ ที่คุมหนังได้อยู่ขนาดนี้

เรื่องเหตุผลสาระไม่ต้องไปคิดมากครับ ดูเอามันส์ การสืบอะไรก้เดาๆ กันได้ เหมือนมันวางสถานการณ์ให้ไปเจอกับฉากตีกันเท่านั้นเอง แล้วก็มีการต่อปากต่อคำระหว่างลีกับคาร์เตอร์ปเนตัวเพิ่มสีสัน หนังเลยไม่น่าเบื่อครับ มันส์ตลอด แล้วยังยาวแค่ 97 นาทีเอง กำลังเหมาะเลยครับ

ผมว่าคนที่ชอบพี่เฉินคงไปดูตั้งแต่ในโรงแล้วล่ะ ส่วนใครยังไม่ดก็ไม่อยากให้พลาดครับ หนังมันสนุกและมันส์สุดขั้วจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ลองดูมันทั้งพากย์ไทยและซาวน์แทร๊คเลยก็ได้ เพราะมันฮาทั้งคู่ แต่มันจะฮาคนละแบบครับ อย่างของซาวน์นั้นมันจะฮามากตรงที่ได้ฟังพี่ Chris Tucker พล่ามแบบเต็มๆ ใครคล่องอังกฤษล่ะลองฟังครับ ฮาโคตร ไหลไปได้เรื่อยๆ จริงๆ ส่วนฉบับพากย์ไทยนั้นก็พันธมิตรครับ ยิงมุขกันเยอะเหมือนกัน เรียกว่าดูเพลินทั้งสองอันเลยครับ

นอกจากสองนักแสดงนำที่สร้างความหรรษาแล้ว ดาราสมทบก็ไม่เลวเลยนะครับ Tom Wilkinson ดาราเจ้าบทบาทชาวอังกฤษกับบทโธมัส กริฟฟิท ที่แม้จะปรากฎตัวไม่มาก แต่ก็สมบทบาททุกครั้งที่ออกมาครับ, Tzi Ma นี่ก็ไม่ต้องห่วงเลยครับ เอาแค่สีหน้าตอนห่วงลูกแล้วน้ำตาคลอนี่ก็เหลือเกินแล้วล่ะ, Julia Hsu ดาราเด็กที่มาเล่นเป็นลูกสาวที่โดนลักพาตัวไปนั่น ก็แสบดีแท้ฮะ ดูเก่งดีอีกด้วย และ Elizabeth Peña ดาราสาวที่เล่นหนังเยอะพอควรแต่ยังไม่ดังซะที ก้มาแสดงเป็นทาเนีย จอห์นสัน คู่หูของคาร์เตอร์ ที่ต้องมาปวดหัวกับความบ้าสารพัดของเขานี่แหละ

หนังลงตัวในหลายๆ อย่างครับ ดนตรีถือว่าเด่นมาก (ด้วยฝีมือของ Lalo Schifrin คอมโพเซอร์มือเก๋าอีกคนของวงการ) จังหวะมันส์และครึกครื้นผสมความเป็นฮ่องกงกับอเมริกันได้ดีพอตัวครับ เพลงทั้งหลายก็มันส์ครับ ใส่ลงมาพอดี แต่เพลงที่เด่นสุดๆ ต้องยกให้ WAR ไอ้เพลงที่ทั้งคู่ใช้เต้นกันนั่นแหละ ฉากนั้นทั้งฮาและบ้ากันสุดๆ ครับ แล้วผมว่ามันมีความหมายนะ

ลีก็เหมือนเป็นตัวแทนตะวันออกไปน่ะครับ ส่วนคาร์เตอร์นี่ก็ตะวันตก มาเจอกัน แล้วเริ่มต้นทั้งคู่ก็ไม่ได้มีอะไรที่ชอบกันเลยแม้แต่น้อย จะต่อยกันตั้งหลายรอบ ก็เหมือนกับความต่างทางบุคคลหรือวัฒนธรรมนั่นแหละครับ ตอนแรกมันย่อมไม่ลงรอยหรือเข้ากันได้ง่ายๆ หรอก แต่พอคบๆ กันไป รู้จักกันไปก็จะพบความเหมือนที่ไปกันได้ในความต่างนั้น อย่างท่ากังฟูเงี้ย เอามาประยุกต์เต้นแร็ฟก็ได้ หรือท่าแดนซ์บ้าๆ ก็ผนวกมาเป็นลีลาต่อสู้แบบกังฟูก็ได้ … แล้วจะแบ่งแยกกันไปทำไมล่ะครับ

ยิ่งเนื้อเพลง WAR นี่ก็โคตรชัด “สงครามมันมีอะไรดีบ้าง แหงล่ะมันไม่มีเลย” ยอมรับว่าจังหวะอารมณ์เพลงและความฮาในช่วงนั้นไปด้วยกันได้ดีครับ แล้วเราก็เชื่อได้ไม่ยากว่าสองคนนี้ปรับความเข้าใจในความต่างกันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในความไร้สาระ ก็ซ่อนสาระอยู่ได้นะครับผม

ผมคงไม่ต้องพล่ามมากแล้วครับ หนังตำรวจคู่หูฮาๆ มันส์ๆ ระดับนี้ไม่ควรพลาดจริงๆ