Rambo: First Blood Part II | แรมโบ้ นักรบเดนตาย 2
การกลับมาอีกครั้งของสุดยอดวีรบุรุษสงครามภาคต่อที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ระเบิดความมันส์สุดขั้วบนสมรภูมิเวียดนามอีกครั้ง กับความอึด แกร่ง และ ระห่ำอย่างที่คุณคุ้นเคย... เมื่อ จอห์น แรมโบ้ (ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน) ได้รับภารกิจสุดหินเพื่อแลกกับอิสรภาพของเขา ภารกิจที่นำเขากลับไปยังนรกบนดิน ที่เขาเรียกว่า บ้าน อีกครั้ง ภารกิจสุดโหดครั้งนี้ คือ การบุกเข้าไปช่วยเชลยที่ไม่มีใครยืนยันได้ว่ายังมีตัวตนอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งในเวียดนาม หนึ่งเดียวที่จะทำภารกิจให้ลุล่วงมีแต่เพียงวีรบุรุษสงครามอย่าง แรมโบ้ เท่านั้น ไม่มีการช่วยเหลือ ไม่มีการรับรองสถานะใดๆ จากกองทัพ สิ่งเดียวที่เขาต้องทำก็คือ การพึ่งพาตัวเองเพื่อช่วยเหลือเหล่าเชลยศึกออกจากนรกบนดินแห่งนี้ให้จงได้ เพราะผลพวงจากความล้มเหลวหมายถึงความตายอย่างทรมาน ที่จะตามหลอกหลอนเขาไปชั่วกัปชั่วกัลป์
IMDB : tt0089880
คะแนน : 7
หลังจากคราวก่อนแรมโบ้ (Sylvester Stallone) ระเบิดเมืองซะย่อยยับนะครับ เขาก็โดนจับเข้าเรือนจำ แต่แล้วผู้พันเทราท์แมน (Richard Crenna) ก็ได้มาหาเขาถึงคุกเพื่อยื่นข้อเสนอให้ ว่าหากแรมโบ้รับงานช่วยตัวประกันที่เวียดนาม เขาจะได้รับการปล่อยตัวทันที
แล้วแรมโบ้ก็รับงานนี้ครับ เขาพร้อมด้วยอาวุธครบมือเดินทางไปยังเวียดนามเพื่อช่วยตัวประกันที่ยังตกค้าง ตอนแรกดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้ดี แต่ทว่าเขากลับถูกปล่อยเกาะ งานนี้พี่แกเลยต้องงัดกลยุทธบู๊เฉพาะตัวมาเอาตัวรอดอีกครั้ง และงานนี้ไม่ใช่แค่รบกับพวกนายอำเภอสองสามคน แต่ศัตรูที่ต้องรับมือคือทหารทั้งกองพัน
แล้วความมันส์ก็บังเกิด
หนังภาคนี้สนุกมากครับ ยิงกัน ระเบิด ไล่ล่ากันแบบเต็มพิกัดจริง โม้สะบั้นหั่นแหลก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะบทได้พี่ James Cameron แห่ง Titanic มาร่วมสังฆกรรมด้วย ซึ่งว่ากันว่าพวกฉากแอ๊คชั่นถึงใจพระเดชพระคุณทั้งหมดนั่นมาจากฝีมือการเขียนของ Cameron นี่แหละ
เป็นตอนต่อที่ดีเลยล่ะครับ เพราะยังคงความเป็นแรมโบ้จากภาคแรกเอาไว้ได้ นั่นคือการซุ่มโจมตีครับ แต่ส่วนที่เสริมเข้ามาคือฉากการต่อสู้ทั้งแบบประชิดและแบบยิงระเบิดกัน เรียกได้ว่าวายวอดกว่าภาคก่อนเยอะ
พี่สไลแกดูไปได้ดีกับบทแรมโบ้นะครับ แต่การแสดงก็ยังเรื่อยๆ น่ะแหละ ผมว่าจุดที่น่าจดจำก็การบู๊มากกว่าครับ เรื่องการแสดงนี่ถือว่าไม่มีอะไรให้ชมเท่าไหร่ Crenna ก็ดูนิ่งๆ เหมือนเดิม แต่คนที่ออกจะเป็นสีสันก็มี Charles Napier มาแชลล์ เมอร์ด็อกผู้นำปฏิบัติการนี้ พี่แกก็ดูเป็นพวกนายทหารเห็นแก่ตัวได้ดีครับ แล้วก็ Steven Berkoff ตัวร้ายจากหนัง 007 ตอน Octopussy ก็มารับบทคล้ายๆ กันเป็นผู้พันโพดอฟสกี้ จากรัสเซียที่เข้ามาแทรกแซงเวียดนาม แล้วก็มาตีกับแรมโบ้ในตอนท้ายนี่แหละครับ
แล้วจะว่าไป ภาคนี้ไม่ใช่แค่มันส์เท่านั้นนะครับ หนังยังแทรกประเด็นการเมืองเอาไว้ด้วย เอาแค่เนื้อเรื่องนี่แหละครับ เกี่ยวกับแรมโบ้โดนส่งเข้าไปในเวียดนาม เพื่อทำภารกิจ แต่แล้วกลับถูกปล่อยเกาะตัดการช่วยเหลือ ตรงนี้ดูไปแล้วเหมือนเหตุการณ์ตอนสงครามเวียดนามไม่มีผิดครับ ที่นายทหารมากมายโดนส่งไปตาย แต่พอถึงตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ทางการอเมริกาดันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ปล่อยให้เขาตายกัน
หนังเรื่องนี้ก็เหมือนเป็นการด่าอเมริกากลายๆ น่ะครับ ซึ่งพี่สไลก็กำหนดให้แรมโบ้ไม่ยอมแพ้และทำการโต้ตอบทั้งต่อฝ่ายเวียดนามและฝ่ายเขาเอง
ตอนจบที่แรมโบ้แบกเอาปืนกลไปกราดยิงห้องทำงานของเมอร์ด็อกนั่นเป็นเหมือนการระบายแค้นล่ะครับ เมอร์ด็อกก็เหมือนตัวแทนพวกทหารชั้นสูง ส่วนแรมโบ้ก็เป็นตัวแทนนายทหารที่ออกรบ บอกตรงๆ มานึกแล้วยังสะใจอยู่เลยครับ มันต้องเจอแบบนี้ซะมั่ง
ซึ่งไอ้ประเด็นทางการเมืองที่หนังแทรกไปนั้น พี่ Cameron แกก็ออกมาพูดเหมือนกันครับ แต่พูดในลักษณะว่าแกไม่ได้เขียนนะ แกกระหน่เฉพาะในส่วนแอ๊คชั่น แต่คนที่ใส่ส่วนนี้ลงไปคือพี่สไลของเรานี่แหละ
ผมถึงว่าไงพี่สไลแกก็เจ๋งพอตัวนะครับ มีการเขียนบทหนังแอ๊คชั่นที่ดูจะเอามันส์อย่างเดียว แต่จริงๆ ก็แฝงอะไรบางอย่างไว้ด้วย
ทั้งบู๊มันส์ระเบิด ทั้งมีอะไรแฝง ไม่น่าแปลกใจครับที่หนังมันจะโกยเงินไปกว่า 140 ล้าน มากกว่าภาคแรกตั้งหลายเท่า ซึ่งส่วนหนึ่งที่หนังโกยอาจจะมาจาก หนังเปิดตัวกว่า 2,000 โรงด้วยล่ะมั้งครับ และนี่ถือเป็นหนังเรื่องแรกในอเมริกานะครับ ที่มีการเปิดตัวมากกว่า 2,000 โรงเนี่ย
เอาเป็นว่าภาคนี้มันส์มากครับ โลเคชั่นก็สวยดีด้วย การเดินเรื่องอาจมีอืดบ้างเล็กน้อย แต่หนังก็แค่ 94 นาทีครับ ดูเพลินๆ ได้เลย เชื่อว่าไม่ผิดหวังหรอก