Prime
เรื่องย่อ : Prime
ราฟี่ สาววัย 37 ที่เพิ่งถูกสามีทิ้งได้ไปปรึกษากับจิตแพทย์ส่วนตัวที่รักษากันมานาน วันหนึ่งขณะที่ราฟี่ไปดูหนังเธอก็บังเอิญไปเจอกับเด็กหนุ่มอายุ 23 เขาจีบเธอหนักมากจนทั้ง 2 รักกัน ราฟี่ได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้จิตแพทย์ฟัง นางก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันเด็กหนุ่มก็ได้เล่าเรื่องสาวที่เขารักอยู่ให้แม่ของเขาฟังด้วย ซึ่งแม่เขาไม่ยอมรับถ้าลูกจะคบสาวที่อายุมากกว่า แต่หารู้ไม่ว่าจิตแพทย์กับแม่ของเด็กหนุ่มคือคนๆ เดียวกัน แล้วเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ไปรับชมเลย
IMDB : tt0387514
คะแนน : 7
หนังกำหนดคาแรคเตอร์ให้เราได้เห็นว่า แม้ David จะดูมีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว แต่ความเป็นเด็กในตัวของเขานั้นมันก็ยังมีอยู่มากมาย เช่น เมื่อเกมส์ Nintendo อยู่ตรงหน้าเขาก็ละสายตาทิ้งความสนใจคนรักได้อย่างไม่ใยดี เมื่อ Rafi ไม่อยู่เขาก็นอนตื่นสายทิ้งข้าวของกระจัดกระจายทั่วบ้าน ฯลฯ
ปัจจัยภายในที่แตกต่างนี้เอง มันทำให้ทั้งสองคนมาถึงทางแยกที่ต้องเลือก ว่าจะปรับตัวเข้าหากันหรือเลือกเดินต่อไปคนละเส้นทางของตัวเอง เมื่อคนหนึ่งมองว่าอีกคนไม่ดูแลรับผิดชอบ อีกคนก็มองกลับว่าอีกคนคอยควบคุมบงการ และนั่นก็เป็นที่มาของประโยคหนึ่งที่ Lisa เอ่ยไว้
love is not always enough.
...ความรักนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายภายใต้ช่วงเวลาสั้นๆ แต่การรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความรักบางครั้งไม่ต้องทำอะไรมันก็ปะทุขึ้นได้โดยอัตโนมัติ ส่วนความสัมพันธ์นั้นหากมีปัญหาแล้วอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรมันมีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ
เมื่อเริ่มต้นความรัก มันเป็นแค่การไปดูหนังฟังเพลงกินข้าว แต่เมื่อความรักนั้นพัฒนาเติบโตต่อเนื่อง มันก็เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ ที่มากกว่ากิจกรรมสนุกสนานเหล่านั้น มันเป็นเรื่องที่เริ่มซับซ้อนจริงจังขึ้นเช่นว่า ใครจะเก็บเงินที่ได้มา ใครจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟ เมื่อมีลูกใครจะเป็นคนพาไปส่งโรงเรียน ใครจะเลี้ยงลูกแบบไหน ฯลฯ
เมื่อคนสองคนเริ่มผูกพันแน่นแฟ้นมากขึ้น ความเหมือนที่ดึงดูดให้สองคนเข้าหากันเริ่มจางหาย และ ความแตกต่างของแต่ละคนก็จะเริ่มปรากฎชัดออกมา ความแตกต่างนี้เองคือสิ่งที่จะเป็นจุดสำคัญว่า คนสองคนพร้อมจะเรียนรู้ร่วมกัน หรือ จะทำให้ต่างฝ่ายต้องแยกทางกันไป
...ผู้เชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำเรื่องชีวิตคู่ มักพูดเสมอว่า ปัจจัยสำคัญหนึ่งของการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันคือ การเลือกคู่ชีวิตนั้นไม่ควรจะมีพื้นหลัง (background) ที่แตกต่างกันมากเกินไป พื้นหลังเช่น เศรษฐานะ ,ความเชื่อ, ศาสนา ,ปูมหลังครอบครัว ฯลฯ
หากต่างกันมากเกินไปมักมีโอกาสให้เกิดปัญหาตามมาได้ เช่น ชายหนุ่มที่ไม่มีพ่อแม่ใช้ชีวิตรักอิสระผู้รักงานปาร์ตี้นอกบ้านทุกสุดสัปดาห์ กับ หญิงสาวจากครอบครัวใหญ่เคร่งครัดศีลธรรมจรรยาเข้าวัดเข้าวาทุกอาทิตย์ ย่อมมีโอกาสเกิดปัญหาได้ง่ายๆ
...ความแตกต่างว่าสำคัญแล้ว แต่ในเรื่องความสัมพันธ์สิ่งที่สำคัญมากกว่า คือ แต่ละคนนั้น work หรือ ทำงานในความสัมพันธ์ นั้นมากน้อยแค่ไหน
ความสัมพันธ์เป็นงานอย่างหนึ่งที่คนสองคนต้องทำร่วมกัน เพราะถ้าไม่พยายาม แม้จะแตกต่างกันเพียงเรื่องเล็กน้อย มันก็ก็นำไปสู่จุดจบของชีวิตคู่ได้ไม่ยากเย็น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังคงใช้ชีวิตในโลกของตัวเองโดยไม่พยายามจะปรับตัว ก็คงไม่มีวันที่โลกของชีวิตคู่จะหมุนไปได้ด้วยดี
...และสำหรับ Rafi กับ David ความรักอาจเพียงพอสำหรับที่เขาและเธอจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในเวลาหนึ่ง แต่ความรักนั้นคงยังไม่พอสำหรับการใช้ชีวิตร่วมกันของทั้งคู่ในระยะยาว เมื่อความสัมพันธ์ต้องการการพัฒนาขึ้นไปอีกในระดับหนึ่ง เมื่อต่างฝ่ายต่างมีความต้องการที่อีกฝ่ายไม่สามารถจะให้ได้มันจึงมาถึงทางแยกสำคัญ
... Rafi เริ่มคิดจริงจังกับชีวิตคิดอยากจะมีลูกเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งมันก็ดูเหมาะสมตามวัยของเธอแล้ว ในขณะที่ David ยังไม่คิดที่จะมีลูกให้รับผิดชอบดูแล ซึ่งมันก็เหมาะสมตามวัยของเขาแล้วเช่นกัน
แม้ในท้ายที่สุดเขาเสนอว่าเขายอมจะมีลูกกับเธอ แต่เราจะเห็นได้ว่า การมีลูก ของทั้งสองคนมีความหมายต่างกัน สำหรับ David การมีลูกของเด็กหนุ่มอย่างเขามีความหมายเพียงการเอาใจและฟื้นฟูความรักที่ล่มสลาย แต่การมีลูกสำหรับ Rafi มันคือรากฐานชีวิตที่เติบโตต่อไปในอีกขั้นหนึ่ง
ดังนั้นหากยังดึงดันมีลูกต่อไปสิ่งที่จะตามมารังแต่จะทำลายทุกคนรวมไปถึงลูกที่จะเกิดขึ้นมา และเธอเองก็ไม่ต้องการทำลายชีวิตของคนที่เธอรักให้พังทลาย
...บางครั้งการเลือกที่จะยุติความสัมพันธ์ทั้งที่ยังคงเหลือเยื่อใยความรักอยู่ มันยังจะดีเสียกว่า การเลือกยึดยื้อความสัมพันธ์ไว้โดยไม่คิดปรับตัวเข้าหากัน เพราะเมื่อนั้นปลายทางความสัมพันธ์อาจจบลงโดยไม่หลงเหลือแม้แต่ความรักไว้ในใจ