ค้นหาหนัง

Pinocchio | พิน็อคคิโอ

Pinocchio | พิน็อคคิโอ
เรื่องย่อ : Pinocchio | พิน็อคคิโอ

Geppetto ช่างแกะสลักไม้ผู้รักสันโดษได้แกะสลักหุ่นไม้ขึ้นมาตัวหนึ่ง เขาได้เอ่ยปากว่าอยากให้เจ้าหุ่นตัวนี้กลายเป็นเด็กจริงๆ และในคืนนั้นเองได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นเมื่อนางฟ้าได้เสกหุ่นไม้ให้สามารถเคลื่อนไหวและพูดสื่อสารเหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง Geppetto จึงได้ตั้งชื่อให้หุ่นตัวนี้ว่า พิน็อคคิโอ นางฟ้าได้บอกว่าเจ้าหุ่นไม้จะกลายเป็นเด็กชายได้จำเป็นต้องพิสูจน์ถึงจิตใจอันดีงาม มีความกล้าหาญ และเสียสละเสียก่อน และนี่คือจุดเริ่มต้นการผจญภัยที่แสนอัศจรรย์ของพิน็อคคิโอบนโลกใบนี้

IMDB : tt4593060

คะแนน : 0



สำหรับฉบับภาพยนตร์คราวนี้ก็ยังคงเดินเรื่องตามฉบับแอนิเมชันเป๊ะ ๆ ถึงขั้นพยายามทำซีจีเจ้าพีน็อคคิโอให้เหมือนการ์ตูนในความทรงจำเสียด้วยซ้ำ และแน่นอนว่ามันยังคงเรื่องเล่าอันแสนประทับใจของ เจพเพตโต ช่างไม้ผู้เปลี่ยวเหงาที่สร้างหุ่นจากไม้ไพน์และตั้งชื่อ พีน็อคคิโอ จนกระทั่งดาวอธิษฐานได้ทำให้คำขอของชายชราผู้นี้สมหวังและพิน็อคคิโอก็มีชีวิตขึ้นมา เพียงแต่เจ้าหุ่นไม้จะกลายเป็นเด็กชายได้จำเป็นต้องพิสูจน์ถึงจิตใจอันงดงาม กล้าหาญและเสียสละเสียก่อน แต่บทพิสูจน์ก็มาพร้อมสิ่งล่อใจที่พาให้พิน็อคคิโอออกนอกลู่นอกทางและเจพเพตโตก็จำเป็นต้องออกตามหาลูกชายที่เขาสร้างขึ้นมา

แน่นอนว่างานไลฟ์ แอ็กชันที่ผสมผสานคนแสดงกับเทคนิคพิเศษแบบนี้จะออกมาดีได้ย่อมไม่ใช่ผ่านผู้กำกับมือใหม่แน่นอน และเป็น โรเบิร์ต เซเม็กคิส (Robert Zemeckis) ที่ดิสนีย์เลือกใช้บริการในคราวนี้ แต่ผลปรากฎว่านอกจากความว้าวของฉากนาฬิกาปลุกคุกคูของเจพเพตโตที่เหมือนเอาการ์ตูนดิสนีย์สุดฮิตโผล่มาเซอร์ไพร์สคนดู ทั้ง วูดดี้ จาก ‘Toy Story’ ตัวละครดังที่ ทอม แฮงก์ส (Tom Hanks) ผู้รับบทเจพเพตโตเคยให้เสียงลามไปจนถึงตัวละครดิสนีย์ดัง ๆ ทั้ง ‘The Lion King’ ‘Sleeping Beauty’ ‘Dumbo’ ‘Snow White and the Seven Dwarves’ ไปจนถึงตัวละครจาก ‘Who Framed Roger Rabbit’ หนังของเซเม็กคิสเอง แต่นอกจากไอเดียสดใหม่ในฉากสั้น ๆ แล้วหนังทั้งเรื่องก็แทบไม่มีความสร้างสรรค์ใด ๆ ที่เราสัมผัสได้เลย

บทภาพยนตร์ที่เซเม็กคิสเขียนกับ คริส ไวต์ซ (Chris Weitz) แทบจะลอกลายการ์ตูนปี 1940 แทบไม่มีผิดเพี้ยนเพียงแต่สิ่งที่ขาดหายไปกลับเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้พิน็อคคิโอกลายเป็นที่รักของคนดูซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่สีสันของหุ่นไม้หน้าตาน่ารักและหมวกเหลืองคาดฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ที่เซเม็กคิสเอามาเท่านั้น แต่เป็นเรื่องราวจังหวะจะโคนการเล่าเรื่องที่ละมุนละไมอันหาไม่ได้จากฉบับหนังกึ่งติ๊กต็อก (Tik Tok) ฉบับนี้ ที่ทุกอย่างถูกเร่งสปีดราวกลัวว่าคนรุ่นใหม่จะทนดูไม่ได้จนสุนทรียะต่าง ๆ ที่ผู้ชมเคยได้จากฉบับแอนิเมชันขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย