ค้นหาหนัง

Naked | เนคิด

Naked | เนคิด
เรื่องย่อ : Naked | เนคิด

ร็อบ ผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกับ เมแกน หญิงที่รักของเขา แต่ลึกๆ เขาก็รู้น่ะครับว่าพ่อของเมแกนก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไรหรอก แล้วในวันแต่งงาน เขาพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในลิฟท์ และกำลังโป๊อยู่ครับ เขาไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าเขาโป๊ และไปพิธีแต่งงานไม่ทันแน่ๆ กระนั้นเขาก็พยายามไปให้ถึงครับ ไปทั้งที่โป๊ๆ แบบนี้แหละ แต่เรื่องบ้าก็ๆ ก็เกิดซ้ำเมื่อพอถึงจุดหนึ่งแล้วเขากลับพบว่าตัวเองกลับมาที่ลิฟท์ในสภาพโป๊อีกหน… ใช่ครับ เขาเจอเหตุการณ์วนลูปเข้า ไม่ว่าเขาจะทำอะไร สุดท้ายเขาก็ต้องมาวนลูปโป๊อยู่ในลิฟต์อยู่ดี ร็อบเลยต้องหาทางออกจากลูปนี้ให้ได้ครับ ไม่งั้นไม่ได้แต่งงานกันพอดี และต้องค้นหาความจริงด้วยว่ามันเพราะอะไรกันแน่ เขาถึงมานอนสลบโป๊ๆ แบบนี้อยู่ในลิฟต์

IMDB : tt6048930

คะแนน : 7



จริงๆ คอนเซปต์เข้าท่านะครับ มันคือการเอาหนังตลกว่าด้วยความรักมาผสมกับการวนลูปซ้ำๆ ซึ่งเมื่อดูจนจบแล้วเราก็จะเข้าใจครับว่า การวนลูปนั้นมันเป็นเหมือนสัญญะบางอย่างที่สื่อถึงเรื่องราวในใจของร็อบด้วย

ร็อบนั้นลึกๆ แล้วเขาก็ยังไม่พร้อมกับการแต่งงานครับ เขาก็คิดเหมือนกันว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้ชายที่ดีอะไร เขาก็กลัวเหมือนกันว่าจะต้องพาเมแกนมาลำบาก ไหนจะต้องพิสูจน์ตัวเองต่อพ่อของเมเกนด้วย มันคือพันธกิจอันใหญ่ยิ่งที่ผมเชื่อว่าผู้ชายหลายคนเคยพบเคยเจอกันมาแล้ว

ถือเป็นคอนเซปต์ที่ดีเลยล่ะครับ ซึ่งหนังก็มีการเล่าถึงปมนี้อยู่หน่อยๆ แต่ก็น่าเสียดายที่มันไม่ลึกซึ้งหรือเด็ดอะไรมากมาย ส่วนหนึ่งเพราะหนังเสียเวลาไปกับการพยายามตลกในตอนต้นน่ะครับ พวกมุกว่าร็อบต้องหาทางไปงานแต่งทั้งที่ยังโป๊ ซึ่งมันก็อาจจะพอยิ้มๆ ในบางมุก แต่พอเล่นตลกนานไปอารมณ์มันก็เลยเนิ่นน่ะครับ

ไปๆ มาๆ หนังเลยออกแนวตำซั่วครับ คือแกนหลักเป็นหนังตลกที่ไม่ได้ฮาแตกอะไรขนาดนั้น แล้วพอกลางๆ ก็เริ่มเข้าประเด็นเรื่องจิตใจของร็อบที่กังวลเกี่ยวกับการแต่งงาน ก่อนจะมีการคลายปมอีกหน่อยว่าตกลงทำไมร็อบถึงตื่นมาโป๊

แต่มันเป็นการยำที่ยังไม่ลงล็อกเสียทั้งหมดครับ ขำก็มีบ้าง ส่วนประเด็นดราม่าจริงๆ ก็มีที่น่าสนใจและถ้ามีการดันอีกหน่อยผมว่าเวิร์กนะ มันจะหลอมรวมกับเรื่องวนลูปได้อย่างพอเหมาะเลยล่ะ แต่เท่าที่เป็นนี่ก็คือหนังออกมากลางๆ ครับ บางอย่างก็ยังไม่เข้ากันแบบเต็มที่นัก

หนังกำกับโดย Michael Tiddes ที่เคยทำ A Haunted House ทั้ง 2 ภาคกับ Fifty Shades of Black (อันทำให้พอจะเข้าใจได้ถึงจังหวะที่ดูกระท่อนกระแท่นในบางวาระ) แต่ถ้าให้ว่ากันตรงๆ แล้ว ผมว่านี่ถือเป็นผลงานที่เข้าท่าสุดของเขา