IMDB : tt13288678
คะแนน : 6
อนิเมะ กันดั้ม ฮาธาเวย์ส แฟลช ที่สร้างจากนิยายภาคที่บทสรุปสุดปวดตับของโทมิโนะ บิดาผู้สร้างกันดั้ม เป็นหนังไตรภาค งานสร้างอลังการ แฟนกันดั้มไม่ควรพลาด แต่ถ้าไม่เคยดูกันดั้มสามภาคแรกและภาค Char Counter Attack มาก่อน อาจจะไม่อินเท่าไหร่
obile suit gundam Hathaway Netflix รีวิว โมบิลสูทกันดั้ม ฮาธาเวย์ส แฟลช สร้างจากนิยายต้นฉบับของ โยชิยูกิ โทมิโนะ บิดาผู้สร้างกันดั้ม แล้วยังเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่แฟนกันดั้มรอให้สร้างเป็นอนิเมะกันมานานมาก ถือว่าเป็นภาคที่คนอยากให้สร้างเป็นอนิเมะที่สุดภาคหนึ่งรองจากภาค Cross Bone Gundam (ส่วนตัวอยากให้สร้างภาค Cross Bone มากที่สุดแล้ว)
งานกำกับโดย ชูโกะ มุราเสะ ที่เคยมีผลงานดังๆมาแล้วมากมาย หนังมีความยาว 1 ชั่วโมง 37 นาที เป็นตอนแรกของชุดไตรภาค รับชมได้เลย
เรื่องราวเริ่มขึ้นในปี UC.0105 ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ 12 ปี หลังจากการก่อกบฏของ ชาร์ อัสนาเบิล (เหตุการณ์ใน Char’s Counter Attack ดูได้เลยใน Netflix) เมื่อ ฮาธาเวย์ส โนอา ลูกชายของกัปตันไบร์ท โนอา ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นตำนานจากผลงานเป็นกัปตันยานในอดีต รวมถึงตัวฮาธาเวย์สเองที่เคยสร้างวีรกรรมออกสนามรบครั้งแรกเมื่อตอนวัยรุ่นก็สามารถยิงเครื่องศัตรูตกได้ ทำให้เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงอย่างมากในวงการทหารของสหพันธ์
แต่หลังจากเวลาผ่านมา 12 ปี ฮาธาเวย์ส ซึ่งไม่พอใจสหพันธ์ที่ใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงผู้คนในโลก รวมถึงความเหลื่อมล้ำต่างๆ ทำให้เขารับสืบทอดอุดมคติของชาร์ในอดีตที่ต้องการผลักดันให้มนุษย์ออกไปอาศัยในอวกาศเพื่อให้โลกฟื้นฟูตนเอง เขาจึงได้กลายเป็นผู้นำกลุ่มกบฏที่ใช้ชื่อว่า “มาฟตี้ เนบิว เอริน” ซึ่งได้กลายเป็นเป้าหมายที่ถูกตามล่าจากคนของสหพันธ์
ในระหว่างที่ฮาธาเวย์สกำลังเดินทางด้วยเครื่องบินมาที่ดาเวา เขาได้บังเอิญพบกับหญิงสาวสุดสวยมากเสน่ห์อย่าง กิกิ แอนดาลูเซีย ซึ่งเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถพิเศษในการจับโกหกผู้คนได้ รวมถึงพบกับ เคนเนธ สเล็ค ผู้พันหนุ่มที่ถูกชะตากับฮาธาเวย์ส แล้วได้ตั้งหน่วยเพื่อตามล่ามาฟตี้ แล้วยังนำไปสู่การต่อสู้ของกันดั้มรุ่นใหม่ของบริษัทอนาไฮม์ที่ชื่อว่า “Ξ Gundam” และ “Penelope Gundam”
ที่จริงแล้ว Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash มีชื่อเสียงมานานหลายปีสำหรับแฟนกันดั้ม เพราะมันเป็นต้นฉบับนิยายที่เขียนโดย โทมิโนะ โดยพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1989 โดยได้ผู้วาดภาพประกอบชื่อดังอย่าง อ.ฮารุฮิโกะ มิกิโมโตะ ผู้ออกแบบตัวละครให้กับผลงานคลาสสิกอย่าง มาครอส มารับหน้าที่ แล้วบทสรุปเนื้อหาก็มีความดาร์กปวดตับเอามากๆ ด้วย (จะบอกว่าที่มันดังขึ้นมาก็เพราะฉากจบสุดปวดตับก็ว่าได้)
สำหรับนิยายเรื่องนี้จะเป็นการจับเนื้อหาต่อจากภาค Guandam Char’s Counter Attack ซึ่งฉายเป็นอนิเมะหนังโรงเมื่อปี 1988 ดังนั้นเรื่องราวของฮาธาเวย์สในภาคนี้จึงเป็นที่รู้จักของแฟนกันดั้มมานานกว่า 30 ปี และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในภาคที่มีบทสรุปสุดดาร์กและปวดตับมากที่สุดภาคหนึ่ง โดยนิยายจะมีทั้งหมด 3 ภาค ซึ่งตัวหนังก็จะแบ่งเป็นไตรภาคด้วย
เมื่อสร้างจากต้นฉบับนิยายเก่า แถมเป็นเรื่องราวสืบเนื่องจากอีกภาคหนึ่ง ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของการรับชมกันดั้มภาคนี้ก็คือ ถ้าหากคุณไม่ใช่แฟนกันดั้มระดับเดนตาย หรือเคยดูกันดั้มภาคแรก Origin มาก่อน คุณจะดูกันดั้มภาคนี้ด้วยความงุนงง ว่าทำไมถึงมีการแบ่งฝักฝ่าย ทำไมต้องต่อสู้กัน แล้วก็จะไม่รู้ที่มาของฮาธาเวย์สด้วย ว่าทำไมเขาถึงมีแรงผลักดันให้ลุกขึ้นมาต่อต้านสหพันธ์ รวมถึงปมในใจของเขาที่มีต่อสาวน้อย เควส ปาราย่า ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญในภาค Char’s Counter Attack
แต่เวลานี้มีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ แฟนรุ่นใหม่สามารถไปหาชมกันดั้มฉบับออริจินทั้งสามภาคได้ทาง Netflix ที่นำเข้ามาฉายแล้ว ซึ่งก็จะช่วยปูทางให้รู้เรื่องราวในจักรวาลกันดั้มแบบดั้งเดิม ความขัดแย้งต่างๆของตัวละคร จากนั้นก็รับชมภาค Char’s Counter Attack ก็จะช่วยให้อินกับเรื่องราวในหนังภาคนี้ได้มากขึ้น
แล้วถ้าจะไม่ไปหาหนังภาคเก่ามาดู แล้วจะสนุกกับหนังภาคนี้ไหม คนดูก็อาจจะไม่รู้อินกับแรงผลักดันของตัวละครฮาธาเวย์สมากนัก และอาจงงกับปมขัดแย้งต่างๆ ที่ปรากฏในเรื่อง ซึ่งหนังมีเวลาจำกัดในการนำเสนอความขัดแย้งเหล่านั้น แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเท่าที่จะทำได้ เพราะความขัดแย้งหลักในเรื่องมันก็เป็นปัญหาที่เราพบกันอยู่จริงๆในโลกยุคปัจจุบันซะด้วย
สำหรับในแง่ของความเป็นหนังอนิเมะ ต้องยอมรับว่า งานด้านโปรดักชั่น งานภาพ CG กราฟฟิก ฉากแอ็กชั่นต่างๆที่มีตลอดเรื่อง ทำออกมาได้ดีมาก เป็นงานคุณภาพระดับสูงสำหรับอนิเมะยุคนี้เลยทีเดียว อีกทั้งด้านคาแรคเตอร์ดีไซน์ก็ใช้งานภาพออกแบบของ ยาสุฮิโกะ โยชิคาสึ หรือที่เรียกันว่า YAS ซึ่งอนิเมะกันดั้มในจักรวาล UC รุ่นเก่าแทบทั้งหมดใช้บริการงานออกแบบของเขามาตลอด เรียกว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างกันดั้มมาพร้อมกับโทมิโนะเลยก็ว่าได้ การกลับมาใช้ลายเส้นของ YAS ที่แม้ว่าจะดูเก่าแต่ก็มีความคลาสสิกเลยยิ่งทำให้กันดั้มภาคนี้ดูมีความเชื่อมโยงกับภาคต้นกำเนิดมากขึ้น
จุดด้อยที่อาจจะดูแปลกหน่อยคือลักษณะของตัวละคร และตรรกะวิธีคิดหรือไดอาล็อกต่างๆของกันดั้มฉบับ UC โดยเฉพาะผลงานของโทมิโนะ อีกทั้งเรื่องนี้ก็อิงทุกอย่างจากต้นฉบับนิยายของโทมิโนะเป็นหลัก ซึ่งก็เป็นนิยายเก่ามากแล้ว แถมงานสร้างของโทมิโนะเองที่ผ่านมาก็มีการใส่ตรรกะแนวคิดให้กับตัวละครที่ค่อนข้างแปลกประหลาด ซึ่งแฟนกันดั้มรุ่นดั้งเดิมอาจจะชินกันบ้าง แต่ถ้าเป็นแฟนรุ่นใหม่ดูแล้วก็จะรู้สึกแปลกๆ อยู่ไม่น้อย แต่ตรงนี้จะมองว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในงานของโทมิโนะก็ได้ (ซึ่งจุดแย่ก็มี ตรงที่โทมิโนะเป็นคนญี่ปุ่นรุ่นเก่าที่เคยโดนคดีล่วงละเมิดผู้หญิงในที่ทำงานมาแล้ว)
สำหรับเพลงประกอบของเรื่องก็สุดอลังการเข้ากับเรื่องราวที่เข้มข้น เป็นผลงานจากฝีมือของ ฮิโรยูกิ ซาวาโนะ ที่ฝากผลงานเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะการทำเพลงประกอบให้กับ Attack on Titan, Kabaneri และเป็นผู้แต่งเพลงให้กับ Gundam Unicon มาแล้วด้วย
ส่วนฉากแอ็กชั่นในเรื่อง จะมีหลักๆสามช่วงคือช่วงแรกที่เปิดเรื่อง เป็นการก่อการร้ายบนเครื่องบิน และเป็นฉากสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า สามตัวละครหลักมาพบกันได้ยังไง จากนั้นก็เป็นบทที่ฮาซาเวย์สและกิกิเริ่มสานสัมพันธ์ต่อกันระหว่างพวกเขาพักในโรงแรมแล้วเกิดเหตุการณ์โมบิลสูทบุกโจมตีกลางเมือง แล้วก็นำไปสู่เหตุการณ์ที่ฮาซาเวย์สกลับไปรวมตัวกับกองกำลังของตนเองในฐานะของมาฟตี้
ดังนั้นในแง่ของงานสร้างทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นจุดแข็งของหนังเรื่องนี้ที่ต้องยอมรับว่าจัดเต็มมาก หลายคนที่เริ่มดูกันดั้มแล้วก็น่าจะหลงเสน่ห์ของกันดั้มและตัวละครในเรื่องไปเลย ถือได้ว่าเป็นอนิเมะกันดั้มที่มีคุณภาพสูงที่อิงเนื้อหาจากนิยายต้นฉบับของ โยชิยูกิ โทมิโนะ บิดาผู้ให้กำเนิดกันดั้ม ซึ่งแฟนกันดั้มทุกคนไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง แต่ถ้าไม่ใช่แฟนกันดั้มก็สามารถรับชมได้เช่นกัน ถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานอนิเมะชั้นเยี่ยม