Mission: Impossible II ผ่าปฏิบัติการสะท้านโลก ภาค2

คราวก่อนหนังเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นแนวสายลับมาสู่แนวสืบสวน มาภาคนี้ก็เปลี่ยนไปอีกแล้วครับ กลายเป็นบู๊เต็มตัว กำกับ โดย John Woo กับภารกิจของ อีธาน ฮันต์ (Tom Cruise) ที่ต้องไปหยุดยั้งแผนการแพร่เชื้อโรคร้ายของ ฌอน แอมโบรส (Dougray Scott) อดีตเจ้าหน้าที่ IMF ที่ผันตัวเองไปเป็นผู้ร้าย ซึ่งในครั้งนี้อีธานยังได้พบกับ เอ็นย่าห์ ฮอลล์ (Thandie Newton) อดีตแฟนสาวของฌอนผู้ซึ่งจะมารับหน้าที่เป็นนกต่อให้อีธานสามารถเข้าถึงตัวฌอน

คือ หนังเอามันส์สถานเดียวครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น อีกอย่างก็คือความเท่ห์ การสโลว์ โอย John Woo แบบเต็มๆ เลยครับ ซึ่งผมก็คลั่งลุง John เค้าอยู่แล้ว เลยโอเคกับหนัง แม้มันจะไม่ใช่ M:I เลยก็ตามที แต่ก็ยอมรับล่ะครับว่ามันขายได้มากกว่าตอนแรกแน่ๆ แต่ถ้าถามผมล่ะก็ผมชอบภาคแรกมากกว่าครับ เพราะอันนั้นมันสืบและลุ้นถึงแม้จะไม่ใช่ M:I แบบดั้งเดิม แต่มันก็ยังมีความเป็น M:I อยู่บ้างในเรื่องการวางหมาก

แต่จะว่ไาป ภาคนี้มันก้มีความเป็น M;I อยู่ไม่ใช่น้อยครับ เช่น เรื่อง “หน้ากาก” ที่มีบทบาทค่อนข้างมากในเรื่อง แต่ถ้าพูดถึงวิธีปฏิบัติงานนี่ไม่น่าใช่ IMF ครับ เพราะมันไม่เหมือน MI6 ขของ 007 นะ ขานั้นน่ะมันมีใบอนุญาตฆ่า ล่าได้ทั่วราชอาณาจักร แต่กับ IMF ของพวกอีธานนั้น มันเป็นหน่วยลับที่ต้องทำงานอย่างเงียบที่สุดครับ ประมาณว่าถ้ามีการตายล่ะก็ ต้นสังกัดจะไม่รับรู้ใดๆ ทั้งสิ้น และงานก็หนักไปทางการสืบและการล่อซื้ออะไรทำนองนั้น จำภาคก่อนได้มั้ยครับ จะทำอะไรทีต้องวางแผนให้ดี ให้คนเจอหน้าน้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัย และถ้าระหว่างทำงานเกิดมีคนเดินมาจ๊ะเอ๋ ก็ต้องรีบหลบไป แต่มาภาคนี้ เจอหน้าปุ๊บมันเอาปืนไล่ยังกินเลยครับ เออ เอาเข้าไป IMF ตู

แต่ยอม รับว่าลุง John แกทำหนังได้ฉับไวดี แอ๊คชั่นก็มันส์ ช่วงแรกๆ ก็มีอืดบ้าง แต่ยิ่งเดินเรื่องไปยิ่งมันส์ครับ แล้วยังได้ Hans Zimmer มาทำดนตรีอีก มิกซ์จังหวะกันมันส์ระอุไปเลยล่ะ ดูไปก็อดนึกถึงหนังบอนด์ไม่ไ่ด้ล่ะครับ ประเภทขับรถไล่ล่ากันแล้วคลอด้วยดนตรีเพลงธีมแบบรีมิกซ์น่ะ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าทำแบบนี้แล้วมันส์ครับ

ตกลงว่าเอามันส์เท่านั้นครับ อย่างอื่นไม่ต้องคาดหวัง