IMDB : tt0405159
คะแนน : 9
สำหรับ Million Dollar Baby คงเหมาะกับคนที่ชอบหนังรางวัล หรือหนังที่เกี่ยวกับกีฬามวยเป็นทุนเดิม เพราะหนังค่อนข้างจะราบเรียบไปกับตามติดชีวิตและความฝันของคนกลุ่มหนึ่งอยู่มาก รวมถึงการเรียนรู้ชีวิตที่ให้ก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดในอดีต จึงไม่แปลกใจนักที่คือหนังดราม่าชั่นดี ต่างก็เทใจให้กับหนังเรื่องนี้อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง รวมไปถึงฉากจบที่รับรองว่าจะตราตรีงใจคนดูไปอีกนานแสนนาน ใครที่ชอบกีฬามวยในโทนดราม่าหนักๆ อย่าง Warrior, South Paw แล้ว รับรองได้เลยว่าหนังเรื่องนี้จะอยู่ในความทรงจำของคุณไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเลย
หนังกีฬามวยมักไม่มีค่อยมีเรื่องไหนห่วย ประโยคนี้ยังใช้ได้โดยเสมอมา อีกทั้งสำหรับ Million Dollar Baby ยังเป็นขั้วตรงข้ามของคำว่า “ห่วย” ได้อย่างห่างไกลมากๆ ด้วยความที่หนังเล่าถึงความฝัน และการต่อสู้ชีวิตของคน ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางฝั่งคนที่เป็นโค้ช หรือเป็นนักกีฬา ที่ต่างก็มีพลังใจ พลังชีวิต ที่ชวนให้คนดูฮึกเหิมไปกับหนังกันได้ทั้งนั้น โดยทั้งเรื่องเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครของพวกเขา ที่เริ่มตั้งวันแรกที่ก้าวเข้ามาเรียน ไปจนถึงวันที่ได้ขึ้นเวทีไปแข่งขัน ก็ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นอย่างดี
ด้วยความที่ตัวละครมีปมและอดีตอันขมขื่น ก็เป็นส่วนช่วยเพิ่มน้ำหนักให้หนังประเภทคนสู้ชีวิตได้เป็นอย่างมาก พอถูกแสดงด้วย 3 ดาราฝีมือดี ทั้ง Hilary Swank, Clint Eastwood, และ Morgan Freeman ซึ่งคนที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น Swank ที่มารับบทนักมวยได้ดูสมจริงมากๆ อีกทั้งร่างกายของเธอก็ยังถูกพัฒนาเพื่อเล่นกีฬาอย่างแท้จริง สังเกตได้จากมัดกล้ามที่มีขึ้นตามตัวของเธอ เลยทำให้ในฉากมวยต่างๆ ที่ออกมานั้น ก็ดูมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น ประกอบกับมุมกล้องที่ถ่ายเสมือนรายการมวย ก็ช่วยเพิ่มความอินให้กับคนดู จนบางครั้งก็อยากที่จะส่งเสียงเชียร์ขึ้นไปบนเวที เพื่อเอาใจช่วยตัวละครให้ทำตามความฝันสำเร็จได้เลย
ด้วยคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเลยทำให้หนังมีโอกาสเข้าชิงออสการ์ในปี 2005 ไปถึง 7 รางวัล และได้กลับมา 4 รางวัล โดยที่มีรางวัลใหญ่ๆ อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งแน่นอนแหละว่ามันอาจจะไม่ใช่หนังสำหรับทุกๆ คน ด้วยจังหวะการเล่าเรื่องที่เนิบนาบๆ ที่ค่อยๆ พาเราไปรู้จักจนถึงสภาพจิตใจของตัวละคร หรือการเล่าแบบที่ใช้ภาษามวยเยอะจนมันกลายเป็นหนังกีฬาไปแล้ว แต่ทั้งนี้ด้วยความที่มันเข้าใจง่าย ไปกับเรื่องราวความเป็นมนุษย์แล้วนั้น ถึงจะไม่อินกีฬาก็น่าจะยังพอสนุกไปกับหนังได้อยู่ดี รวมไปถึงตอนจบของหนัง (ที่น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้หนังได้รับรองวัลมามากมาย) ที่รับรองว่าติดตา ตราตรึงใจไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน