Love Hard | หลอกรักไว้ดักเลิฟ

“Love Hard หลอกรักไว้ดักเลิฟ” หนังแนวโรแมนติกคอมเมดี้สัญชาติอเมริกัน จาก McG ที่ฉายทาง Netflix ซึ่งเป็นหนังที่นำมาต้อนรับวันคริสต์มาสที่กำลังจะถึงนั้นเองละค่ะ เรียกว่าหนังเรื่องนี้มีพล็อตเรื่องน่ารักเพลิน ฟิลกู้ดมาก แถมองค์ประกอบต่าง ๆ ก็สื่อถึงวันคริสต์มาสได้ดีชวนอบอุ่นหัวใจ โดยครั้งนี้ก็เป็นการโคจรระหว่างหนุ่มตี๋ชาวเอเชียอย่าง ‘จิมมี โอ.ยาง’ มาคู่กับสาวหน้าหวาน ‘นีน่า โดเบรฟ’ นั้นเอง อื้อหื้อเรียกว่าตอนเห็นทีเซอร์นี่ทำเอาเราอยากกดเข้าไปดูอย่างไว! วันนี้ทางเราเลยอยากจะชวนเพื่อน ๆ ทุกคนมาดูหนังเรื่องนี้กันผ่าน ‘รีวิวหนัง Love Hard หลอกรักไว้ดักเลิฟ หนังฟิลกู้ดต้อนรับวันคริสต์มาส!’ หากพร้อมแล้วก็ตามมาอบอุ่นหัวใจไปพร้อม ๆ กันเลย

สำหรับเรานั้นเรื่อง Love Hard หลอกรักไว้ดักเลิฟเป็นหนังต้อนรับคริสต์มาสที่พล็อตเรื่องดีมาก ๆ มีการบอกเล่าที่แปลกใหม่ ซึ่งมีการใช้เรื่องของ ‘ความรัก และความซื่อสัตย์’มาเล่น โดยการดำเนินเรื่องถือว่าเร็วมาก ๆ ปูพื้นเนื้อเรื่องคร่าว ๆ และเข้าสู่เนื้อหาสำคัญได้ไว ไม่ยืดเยื้อไม่น่าเบื่อ แต่ส่วนตัวเราคิดว่าหนังผูกปมไว้เยอะแยะมากมาย แต่คลายปมแบบรวดเร็วมากเว่อร์ รวมถึงในฉากจบตอนท้ายของเรื่องก็เป็นอะไรที่เดาได้ง่ายมาก ๆ แถมมีการใช้ฉาก ๆ หนึ่งของหนังเรื่อง Love Actually เข้ามาเล่น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่เป็นสูตรสำเร็จและตายตัวสุด ๆ แม้ว่าในตอนท้ายจะมีการปรับเปลี่ยนบ้างก็เถอะ

โดยหนังใช้เรื่อง ‘แอปพลิเคชันหาคู่’ ที่เรียกว่าเป็นอะไรที่ปัจจุบันใคร ๆ ก็ใช้กัน เข้ามาดำเนินเรื่องราวที่พูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการหาคู่เดตและประสบความสำเร็จในเรื่องของความรัก แต่แล้วในตอนที่เธอคิดว่าเจอคนที่ใช่แล้ว เมื่อได้ไปเจอตัวจริงกลับไม่ตรงปก โดนหลอกซะงั้น! แต่ถ้าพูดกันในความเป็นจริงเลยคือปัจจุบันหากเราโดนหลอกทางออนไลน์แบบนี้ก็อาจจะไม่ได้โชคดีหรือโรแมนติกลงตัวอย่างแน่นอน จริงไหมละคะ ฮ่า ๆ ซึ่งก็เรียกว่ามีความเกินจริงมานิดหน่อย และอีกหนึ่งเรื่องที่เรียกว่าน่าจับตามองและมาก ๆ เลยคือการใช้ ‘ชาวเอเชี่ยน’ เข้ามาเล่นในเรื่อง เป็นเสมือนกันเสียดสีสังคมในแง่ของ ในปัจจุบันนี้คนเรามองกันที่รูปลักษณ์ภายนอกมากกว่านิสัยและจิตใจจริง ๆ ซึ่งสำหรับเรานั้นรู้สึกชอบมาก ๆ ที่หนังให้ความสำคัญและเล่นกับประเด็นตรงนี้ เป็นเหมือนการสะท้อนสังคมแบบนัยต์ ๆ ได้ดีมาก

และด้วยความที่หนังนำชาวเอเชี่ยนเข้ามาเล่น ก็มีการนำเอาวัฒนธรรม ประเพณีและนิสัยของความเอเชียเข้ามาใส่ได้ดีมาก ๆ เรียกว่าออกมาให้เห็นกันแบบเพียบ! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรวมตัวกันในวันคริสต์มาส การที่จอชทำงานกับที่บ้านเพื่อที่จะสืบทอดกิจการ อีกทั้งที่เด่น ๆ เลยคือคนเอเชียนั้นให้ความสำคัญในทุก ๆ เทศกาลมาก ๆ ซึ่งเราจะเห็นได้จากการที่พี่ชายของจอชก็กลับมาครอบครัวในช่วงวันคริสต์มาสและมีการใช้เวลา ทำกิจกรรมร่วมกัน การร้องเพลงตามบ้าน ทำขนมปังขิง การแกะของขวัญ ซึ่งเป็นอะไรที่แสนอบอุ่นหัวใจจริง ๆ

และจุดเด่นในองค์ประกอบอีกหนึ่งอย่างเลยคือฉากและดีเทลของความเป็น ‘คริสต์มาส’ ภายในเรื่องนี่แหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการประดับตกแต่งบ้านด้วยไฟหลากสี การแต่งต้นคริสต์มาส ความหิมะตกเบา ๆ ในแต่ละฉาก การแต่งตัวคิ้วท์ๆ ในวันคริสต์มาส แน่นอนว่าหากพูดถึงความคริสต์มาสแล้วจะขาดไม่ได้เลยคือเพลงนั้นเอง เรียกว่าจะมองไปทางไหน ฉากใด Mood and tone ของเรื่องก็ทำให้เรารู้สึกถึงกลิ่ยอายของความคริสต์มาส ใจฟู ฟิลกู้ดมากแม่