ค้นหาหนัง

Lost in Translation หลง เหงา รัก

Lost in Translation  หลง เหงา รัก
เรื่องย่อ : Lost in Translation หลง เหงา รัก

Lost In Translation เป็นเรื่องราวความเวิ้งว้างของคนแปลกหน้า 2 คน ที่อยู่กลางมหานครโตเกียว ด้วยความรู้สึกที่ว่า ทุกๆ คนต้องการที่จะถูกค้นพบชาร์ลอต (สกาเลต โยฮันสัน) ดอกเตอร์เจ้าของปริญญาเอกด้านปรัชญา มาโตเกียวในฐานะผู้ติดตามของสามี ที่มาถ่ายภาพงานโฆษณาชิ้นสำคัญ ในขณะที่ บ็อบ แฮร์ริส (บิล เมอร์เร่ย์) คือดาราชื่อดังที่กำลังตกอับในอเมริกา บ็อบเดินทางมาโตเกียว เพื่อถ่ายโฆษณาวิสกี้ เพื่อรับค่าจ้างก้อนโต ที่โตเกียว บ็อบต้องยอมทำทุกอย่าง แม้แต่การแสดงท่าทางตลกๆ

IMDB : tt0335266

คะแนน : 8



หนังรักเหงาๆของโซเฟีย คอปโปลา ผู้กำกับหญิงชื่อดังในยุคนั้นที่โด่งดังจากหนังเรื่องนี้ และด้วยดีกรีอย่างลูกสาวของผู้กำกับ The Godfather เรื่องราวเกี่ยวกับคนอเมริกันที่มีเหตุต้องมาที่ญี่ปุ่น เมืองที่ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษ พวกเขาไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ ได้แต่เก็บไว้กับตัวเองเพียงผู้เดียวนานแสนนานในประเทศที่ให้กลิ่นอาจแห่งความเหงา เรื่องเริ่มด้วยนางเอกของเราที่ตามสามีของเธอมาที่ญี่ปุ่น สามีของเธอเป็นช่างถ่ายรูป ต้องคอยทำงานตลอดทิ้งเธอให้อยู่โรงแรมอย่างโดดเดี่ยวไม่มีอะไรทำ และอีกคนนึงคือนักแสดงที่บินมาถ่ายงานถึงญี่ปุ่น อยู่ตัวคนเดียวไม่สามารถสื่อสารกับใครได้เช่นเดียวกัน พวกเขาทั้งคู่ได้มาพบกัน จึงสายสัมพันธ์ทำให้สนิทกันมากขึ้น ด้วยความที่ต่างคนต่างเหงาและไม่รู้จะคุยกับใครทำให้ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนคลายเหงาที่ดีของกันและกัน
เรื่องนี้ภาพสวยมาก มันได้สวยแบบที่เราคุ้นเคย แต่สวยเพราะอารมณ์ความเหงาที่สื่อออกมาได้อย่างเด่นชัดผ่านการถ่ายภาพของหนังเรื่องนี้ เราจะได้เห็นสการ์เล็ต โจแฮนสันเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วในบทของสาวเหงาในเมืองใหญ่ ซึ่งเราค่อนข้างอินกับเรื่องนี้พอสมควร ด้วยความที่เราชอบดูหนังญี่ปุ่น อ่านนิยายญี่ปุ่นด้วยอยู่แล้วล่ะมั้งทำให้ซึมซับอารมณ์ได้อย่างดี พูดถึงนักแสดง เรารู้สึกว่าเข้ากันมาก มันไม่ได้ให้อารมณ์เชิงชู้สาว สำหรับเราเรากลัยรู้สึกเหมือนพ่อลูกด้วยซ้ำ เหมือนเป็นตัวละครที่เติมเต็มให้กันและกัน แล้วเวลาที่มานอนคุยกัน หรือไปเที่ยวด้วยกันมันเป็นฉากที่ดีมาก เราชอบตัวละครทุกตัวในเรื่อง แล้วก็บททุกอย่าง รู้สึกอินและเหงาไปกับเรื่องสุดๆ

รู้สึกว่าคนแต่งเพลงของเรื่องนี้กับเรื่อง Her จะเป็นแฟนกันมาก่อน ยิ่งพอเรารู้จุดนี้ก่อนจะดูก็ยิ่งทำให้เราอิน เราดู Her ตั้งแต่ประมาณสองปีก่อนทำให้รู้ว่าเรื่องนั้นเป็นยังไงและให้อารมณ์ยังไง เรื่องนี้ก็เช่นกัน มันเป็นเหมือนการตอบโต้ชีวิตรักที่หวานขมของคนทั้งสองผ่านบทเพลงและเรื่องราวที่แสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนนั้นเหงา และยังคิดถึงโหยหาอดีต คุณจะได้พบกับบรรยากาศญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคย เราจะได้ซึมซับอารมณ์ต่างๆของเรื่อง บทก็ดี เรื่องการพูดคุยของตัวละคร
ยิ่งฉากสุดท้ายในตำนานกับคำกระซิบข้างหูที่จนถึงตอนนี้ก็ยังเถียงกันอยู่ว่าคือคำว่าอะไร มันเป็นบทสรุปที่ดีสำหรับเรื่องราวของสองคนนี้แล้วยิ่งทำให้เราชอบมากขึ้นไปอีก
ถ้าใครกำลังหาหนังรักดูเรื่อยๆที่เล่าเรื่องราวผ่านภาพและบทพูดได้อย่างดีเราอยากแนะนำให้ไปดูเรื่องนี้ คุณจะได้หนังรัก ฉากโรแมนติก ความสัมพันธ์อันหวานขม จากฉากหลังของเมืองญี่ปุ่นที่ถ้าไม่ระวังให้ดีจะโดนความเหงากลืนกิน อยากแนะนำให้ได้ไปลองดูกันค่ะ