IMDB : tt0118799
คะแนน : 9
Life Is Beautiful เป็นหนังที่นำคำว่า “โลกสวย” มาพบเจอกับ “โลกจริง” ได้อย่างลงตัวที่สุด ดูแล้วมันอิ่มใจ มีความสุข ผสมด้วยความทุกข์โศกรันทด
แม้เรื่องจะเศร้าและลำบากแค่ไหน แต่ตัวเอกอย่างกุยโด (Roberto Benigni) ก็ไม่ยอมแพ้ครับ เขาพยายามรักษาสิ่งดีๆ ไว้อย่างสุดความสามารถ พยายามปกป้องลูกน้อยให้ไกลความทุกข์ที่สุด
จะทำได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ก็ทำดูจนกว่าจะไม่มีโอกาสทำ
ผมชอบโทนหนังมากครับ ครึ่งแรกโลกมันสวยงาม ประหนึ่งโลกเทพนิยาย มีรอยยิ้มและอารมณ์ขัน ผสมโรแมนติกกุ๊กกิ๊กแบบพอเหมาะ ก่อนที่ครึ่งหลังหนังจะนำเราสู่ค่ายกักกันของพวกนาซี ซึ่งครึ่งหลังนี้ก็เป็นอีกอารมณ์เลยครับ คือยังมีรอยยิ้มอยู่ มีอารมณ์ขันอยู่ แต่มันก็เต็มไปด้วยเรื่องคอขาดบาดตาย
บอกตามตรงว่าครึ่งหลังนี่สงสารกุยโดและครอบครัวอย่างยิ่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและหัวเราะ ยามที่กุยโดทำหน้าเป็นเพื่อปลอบประโลมลูกน้อย
กุยโดไม่ได้ปลอบแต่ลูกครับ เขายังปลอบคนดูด้วย
เหมือนคอยกระซิบเรื่อยๆ ว่า “เอาน่ะครับ ปัญหาที่มี เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปน่ะ”
… ชีวิตนี้สวยงามไหม?
อยากให้สวยแค่ไหนล่ะครับ… ลงมือทำเลย วาดภาพชีวิตคุณเลย
ถึงแม้สุดท้าย ภาพชีวิตที่วาดจะไม่ตรงตามที่เราคิดไปเสียทุกอย่าง แต่อย่าลืมว่าภาพแต่ละภาพล้วนมีความงามในแบบของมัน
ส่วนที่ชัด-มัว เข้ม-อ่อน เต็ม-ว่าง สามารถผสมกันเป็นภาพที่สวยงาม เพียงแต่เราอาจมองไม่ออกในตอนแรก เราต้องให้เวลากับมันหน่อยครับ… ให้เวลากับตัวเองหน่อย
ใช้ชีวิตก็เหมือนจับพู่กัน แรกๆ อาจดูขัดๆ แต่ถ้าเราสังเกตเห็นความพริ้วของปลายพู่กัน เราจะเห็นความจริงเล็กๆ ของชีวิตได้
ขอบคุณ Benigni ที่สร้างผลงานสวยๆ ชิ้นนี้ขึ้นมาในโลกครับ