ค้นหาหนัง

Infernal Affairs III | ปิดตำนาน 2 คน 2 คม

Infernal Affairs III | ปิดตำนาน 2 คน 2 คม
เรื่องย่อ : Infernal Affairs III | ปิดตำนาน 2 คน 2 คม

Infernal Affairs 3 เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสองช่วงเวลาด้วยกัน คือเรื่องราวปัจจุบันในปี 2004 สิบเดือนหลังจากการตายของหยาน (เหลียงเฉาเหว่ย) และเรื่องราวในอดีตในปี 2001 เมื่อหยานยังทำงานอยู่ภายใต้ปีกของแซมเหตุการณ์ในปัจจุบันเป็นเรื่องของหมิง (หลิวเต๋อหัว) ซึ่งถูกสอบสวนและลดตำแหน่งให้ทำงานน่าเบื่ออยู่ในออฟฟิศเขาสงสัยว่าจะมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลังตำรวจดาวรุ่งคนใหม่ที่มีนามว่า หยาง (หลี่หมิง) จึงได้ดำเนินการสืบสวนอย่างลับๆ จนทำให้เขาต้องเผชิญกับความยุ่งยากอันเป็นปมขัดแย้งมาจากอดีตส่วนเรื่องราวในอดีตนั้น เป็นเรื่องของหยานที่เริ่มทำภารกิจแรกนั่นคือการสร้างเครือข่ายกับเชน นักธุรกิจลึกลับจากจีนโดยในระหว่างนั้น สารวัตรหว่อง (หวงซิวเซิน) ได้พยายามช่วยเหลือเขาให้พ้นจากการถูกลอบทำร้ายและจิตแพทย์สาว ดร.ลี (เคลลี่ เฉิน) ก็ช่วยบำบัดจิตใจให้แก่เขา Infernal Affairs ในภาคนี้ นอกจากจะเป็นบทสรุปที่ตอบข้อสงสัยเติมความเข้าใจให้กับเรื่องราวโดยรวมแล้วยังเป็นการเปิดเผยความสัมพันธ์พิเศษระหว่างหยาน กับ ดร.ลี ซึ่งเป็นความโรแมนติกที่เข้ามาผสมให้หนังแอ็คชั่นนี้มีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นนี่คือ หนังภาคต่อที่มีการวางโครงเรื่องสลับซับซ้อน น่าสนใจเมื่ออดีตและปัจจุบันมาบรรจบกันเพื่อนำไปสู่บทสรุปที่เป็นตำนานที่คุณจะพลาดไม่ได้กับ Infernal Affairs 3 ตำนานที่ทุกคนต้องคารวะ

IMDB : tt0374339

คะแนน : 7



ภาคแรกถือว่ายอด ภาค 2 ก็ยังถือว่าเยี่ยม ในขณะที่ภาค 3 นี้ก็ถือว่าไม่เลวครับ เพียงแต่ดีกรีความเด็ดยังไม่เท่า 2 ภาคแรก

ว่าตามจริงภาคนี้ไม่ทำออกมาก็ได้ครับ เพราะดูแค่ภาค 1 และ 2 มันก็จบสมบูรณ์เต็มอิ่มไปแล้ว กระนั้นทำออกมาแล้วก็ขอตามดู ซึ่งภาคนี้เป็นทั้งภาคก่อนและภาคต่อครับ มีการดำเนินเหตุการณ์ก่อนภาคแรก และเหตุการณ์ต่อจากภาคแรกให้เราได้รับรู้กัน

ก็คงว่าไม่ยาวครับสำหรับภาคนี้ จริงๆ พล็อตน่าสนใจนะ ถือเป็นการต่อยอดจากเรื่องเดิมที่ไม่เลว แต่การเดินเรื่องยังไม่ลงตัวนัก อย่างบางจังหวะก็อืดช้าไปหน่อย อย่างเรื่องระหว่างหมิง (หลิวเต๋อหัว) กับคุณหมอสาว (เฉินฮุ่ยหลิน) ที่หลายช่วงช้ามากจนเหมือนหนังนิ่งไปเลย

ขณะที่จังหวะการทิ้งปมคลายปมก็อาจทำให้หลายคนงง บางอย่างช้า บางอย่างก็เร็วไป ทั้งที่จริงๆ เรื่องมันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นน่ะครับ แต่เหมือนหนังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ไม่เหมือนภาคแรกที่โฟกัสชัดเลยว่าเกี่ยวกับ 2 คนที่อยู่คนละขั้ว ภาคสองก็เน้นเรื่องโลกของเจ้าพ่อแบบเต็มที่

ในขณะที่ภาคนี้การเดินเรื่องค่อนข้างกระจาย จับทิศไม่ถูกนักระหว่างดู บางช่วงก็เหมือนจะเป็นหนังสืบสวน บางจังหวะก็เป็นดราม่า บางเวลาก็กลายเป็นโรแมนซ์ คือมันดูไม่เป็นเนื้อเดียวกันแบบภาคก่อนๆ ที่มีแกนหลักชัดๆ หนึ่งอย่าง จะดราม่าทริลเลอร์ก็ดราม่าทริลเลอร์ จะชีวิตเจ้าพ่อก็ชีวิตเจ้าพ่อ ในขณะที่เรื่องอื่นๆ (เช่นการสืบสวน, โรแมนซ์, แอ็กชัน) ถูกนำเสนอรองลงมา

ความกลมกล่อมภาคนี้เลยไม่มากครับ ทั้งๆ ที่จริงๆ พล็อตน่าสนใจ เพราะเราก็อยากรู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วหมิงจะลงเอยอย่างไร และการมาของหยาง (หลี่หมิง) ก็ถือเป็นไพ่อีกใบที่ดูลึกลับ ชวนให้เราอยากรู้ว่าเขาจะมีส่วนกับบทสรุปในเรื่องราวอย่างไร แต่น่าเสียดายที่หนังไปไม่ถึงจุดกลมกล่อมครับ

จริงๆ บทของหลี่หมิงมีความน่าสนใจมาก แต่เหมือนตัวบทจะสื่อรายละเอียดของบทนี้ไม่ลงล็อคนัก เพราะพี่แกดูมีหลายเฉด จนไปๆ มาๆ คนดูเองก็ไม่สามารถเข้าใจบทนี้ได้แบบลึกซึ้ง ทั้งที่จริงๆ หากเล่าดีๆ ผมว่าบทนี้จะเป็นอีกหนึ่งคาแรคเตอร์ที่เด่นไม่แพ้ 2 ตัวเอกเลยทีเดียว

ในขณะที่เฉินเต้าหมิงก็ถือว่าโอเค อาจเพราะบทของเขาชัด มีเฉดเดียว ก่อนจะเฉลยปมให้ตอนท้าย เราเลยเข้าใจบทนี้ได้ง่ายหน่อย

ครับ ถือเป็นภาคที่มีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีจุดอ่อนหลายประการเช่นกัน ทำให้หนังก้ำกึ่ง จัดว่าดีในระดับหนึ่ง อย่างน้อยดาราก็แท็กทีมกันมาช่วยทำให้หนังดูได้เรื่อยๆ แต่ยังถือว่าดีได้อีกครับ

ไปๆ มาๆ ฉากที่ผมชอบสุด คือฉากสุดท้ายของหนังครับ อย่างน้อยมันส่งอารมณ์เราต่อไปถึงเรื่องราวในภาคแรกได้อย่างยอดเยี่ยม