ค้นหาหนัง

Hard Candy กับดักลวงเลือด

Hard Candy กับดักลวงเลือด
เรื่องย่อ : Hard Candy กับดักลวงเลือด

แฮลี่ สตาร์ค (เอลเลน เพจ) เด็กสาวอายุ 14 ปี สนทนากับ เจฟฟ์ โคลเวอร์ (แพทริก วิวสัน) ชายหนุ่มช่างภาพ ผ่านทางการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต ทั้งสองนัดคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จากนั้นเจฟฟ์ก็ได้ชวนแฮลี่ ไปที่บ้านของเขา ที่บ้านของเจฟฟ์เป็นสตูดิโอถ่ายภาพ เพิ่งเขามีรสนิยมในการถ่ายภาพเด็กสาว แฮลี่ให้ตวามสนใจ กลับรูปภาพเด็กสาวที่ถูกแขวนไว้ตามฝาผนัง หลังจากที่ทั้งสองได้ดื่มของมึนเมาไม่ได้สักระยะ แฮลี่ ก็ขอให้เจฟฟ์ถ่ายรูปแนว sexy ให้ จากนั้น ก็เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้นในบ้านหลังนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ยากเกินคาดเดา

IMDB : tt0424136

คะแนน : 8



Hard Candy เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญ สะท้อนภาพฆาตรกรโรคจิตที่ลวงเด็กสาวมาถ่ายภาพแล้วกระทำอนาจารไปจนถึงการฆาตรกรรม ซึ่งมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโลกแห่งความจริงมากมาย ซึ่งเป็นภาพสะท้อนความรุนแรงเรื่องเพศที่เกิดขึ้น จริง เป็นภาพสะท้อนการกระทำทารุณทางเพศ ต่อเด็กสาวที่เกิดขึ้นจริง อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงเพศชายที่แสดงอำนาจเหนือเพศหญิง หรือการที่เพศชายชอบออกคำสั่งและบังคับให้เพศหญิงกระทำในสิ่งต่างๆ

การแสดงความมีอำนาจของเพศชายเหนือกว่าเพศหญิงนั้น สะท้อนออกมาในโปสเตอร์ของภาพยนตร์ที่ให้เพศหญิงใส่เสื้อคลุมสีแดงภายใต้หมวกคลุมสีแดง อันเป็นลักษณะของนิทาน "หนูน้อยหมวกแดง" เลยเปรียบเทียบเพศชายนั้นเป็นหมาป่า เป็นผู้ล่า หมาป่าจะล่อลวงหนูน้อยหมวกแดง เป็นเหยื่อ ด้วยคำพูดและวิธีการต่าง ๆ เมื่อหนูน้อยหมวกหลงเชื่อตายใจ ก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของหมาป่าและกลายเป็นเหยื่อของหมาป่าโดยสิ้นเชิง

การใช้สัญลักษณ์ของการคุกคามทางเพศโดยอิงนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงนี่ เองจึงกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของภาพยนตร์ ผู้กำกับได้ใช้สีแดงสื่อถึงอารมณ์ได้อย่างดีงาม เช่นสีแดงหมายถึงประจำเดือนแรกเริ่มอันเป็นสัญลักษณ์ของเด็กสาว โดยการให้ ตัวละคร แฮลี่ สตาร์คอายุ 14 ปี ใส่ชุดสีแดงในต้นเรื่อง สีแดงของชุดมีหมวก ซึ่งตัวละครใส่เสื้อคลุมสีแดงและมีหมวกคลุมผมสีแดงนี้ในท้ายเรื่องอันเป็นสัญลักษณ์ของหมาป่าหรือผู้ล่าที่แต่งตัวด้วยชุดคลุมสีแดง ตามนิทานที่เราเคยได้อ่านกัน สีแดงที่อยู่ในบ้าน ที่เกิดเหตุอันเป็นสัญลักษณ์ของสีที่แสดงถึงความรุนแรง ความโหดร้าย ความโหดเหี้ยม รวมถึงอารมณ์ที่รุนแรงด้วย

ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่แสดงถึงอำนาจการควบคุม และเป็นฝ่ายกระทำเพียงผู้เดียว ทั้งนี้ผู้ที่เป็นฝ่ายควบคุมมีการเตรียมตัวและเตรียมการมาอย่างดีมีการศึกษาสภาวะแวดล้อมของเหยื่อมาเป็นอย่างดี ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแม้จะมีช่องทางหลบหนีหรือมีช่องทางต่อสู้ได้บ้างแต่กลับไม่สามารถที่จะหลบหนีหรือสู้อะไรได้ การตอบโต้บางอย่างก็เป็นเพียงการยืดเวลาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผู้กำกับและคนเขียนบทวางประเด็นเรื่องนี้ได้เก่งมาก ทำให้คนดูรู้สึกอึดอัดและเอาใจช่วยเหยื่อตลอดเวลา แต่พอดำเนินมาถึงท้ายเรื่องคนดูก็อาจเปลี่ยนใจที่อยากจะให้เหยื่อตายเร็ว ๆ ก็เป็นได้

แม้จะเป็นหนังแนวระทึกขวัญแต่ก็ไม่ได้แสดงภาพอันโหดร้ายทารุณมากนัก ภาพที่มีการกระทำต่อเหยื่อ ก็ได้ใช้มุมกล้องในการหลบมุมแต่ได้บทสนทนาอันเข้มข้นและมีนัยยะซับซ้อน ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัวหวาดระแวง และเอาใจช่วยเหลือตลอดเวลา ดังนั้นความรุนแรงที่อยู่ในภาพยนต์จึงมีบทบาทได้กว่าความรุณแรงที่อยู่ในห้วงอารมณ์ของคนดู เรียกได้ว่าเป็นหนังระทึกขวัญที่เน้นบทสนทนาเป็นหลักเพราะเนื้อเรื่องเกือบ 100% วนเวียนอยู่กับตัวละครเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น ดังนั้นบทสนทนาที่อยู่ในภาพยนตร์ทั้งเรื่อง จะเป็นตัวกำหนดความสนุกของหนังทั้งหมด

ในด้านการแสดงอันยอดเยี่ยมนั้นต้องขอยกให้กับตัวละครฝ่ายหญิง เอลเลน เพจ เธอถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกความแค้นความเจ็บปวดของหญิงสาวอายุ 14 ออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

นอกจากนี้หนังยังมีจุดเปลี่ยนของเรื่องและจุดจบของเรื่องที่น่าประทับใจ ที่ชอบมากจริงๆคือหนังไม่ได้เฉลยอะไรให้เราอย่างชัดแจ้ง เพียงรู้สาเหตุที่มาที่ไปของการกระทำเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้นเราจึงไม่อาจตัดสินได้เลยว่าผู้ล่าหรืออยู่ใครกันแน่ที่เราควรเอาใจช่วยมากกว่ากัน ซึ่งเข้าใจว่าทางผู้กำกับและคนเขียนบทต้องการจะนำเสนอว่า ในโลกความเป็นจริงกับข่าวที่เคยเกิดขึ้น โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับการฆาตกรรมการคุมคามทางเพศนั้นเราอาจจะไม่มีทางล่วงรู้ถึงสาเหตุที่มาที่ไปของการเกิดคดีอย่างแท้จริงเลย ผู้เสพข่าวก็จะตัดสินความถูกผิด เพียงผิวเผิน จากการอ่านหรือติดตามข่าวสารเท่านั้น ซึ่งลึกๆแล้วเรื่องราวที่มาที่ไปรวมถึง สาเหตุและแรงจูงใจที่แท้จริงที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ใด ๆ นั้นเป็นอย่างไรกันแน่นั่นเอง

ด้วยความที่หนังทั้งเรื่องใช้ตัวผู้เล่นเพียงสองคนเป็นหลักเท่านั้น หากใครไม่ชอบหนังแนวจิตวิทยา ที่มีบทสนทนามาก เชื่อว่าน่าจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้ แต่ถ้าหากใครชอบหนังที่มีบทและพฤติกรรมตัวละครที่มีความฉลาดผมว่าน่าจะชอบกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างไม่ยากเลยทีเดียว

กล่าวโดยสรุป Hard Candy มีความโดดเด่นด้านการใช้สัญลักษณ์ที่สะท้อนถึง ผู้ล่ากับเหยื่อ ผู้กระทำกับผู้ถูกกระทำ เพศชายกับเพศหญิง หมาป่ากับหนูน้อยหมวกแดงได้อย่างชาญฉลาดและมีนัยยะสำคัญ