Groundhog Day | วันรักจงกลม
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น เมื่อวันนี้จบลง แทนที่เขาจะได้ออกไปจากเมืองนี้เสียทีกลับกลายเป็นว่าเขาตื่นขึ้นมาในเช้าวัน Groundhog day อีกครั้ง และเหตุการณ์ทุกอย่างก็ดำเนินไป เหมือนเดิม เหมือนวันนี้ที่เกิดขึ้นในเมื่อวาน และเป็นเช่นนี้ไปในทุกๆวัน เมื่อชีวิตมีแต่วันนี้และไม่มีพรุ่งนี้ให้ต้องกังวล อยากให้ลองใส่จินตนาการเข้าไปว่าเราจะใช้ชีวิตกันอย่างไร ? คงอยากจะทำอะไรตามใจ บ้าให้เต็มที่ ไม่ต่างจากนายฟิลเท่าไหร่ ชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาได้เริ่มต้นขึ้น
IMDB : tt0107048
คะแนน : 8
มาดูหนังที่มันจรรโลงใจกันต่อครับ เรื่องนี้ก็ติดอันดับในเรื่องความเยี่ยมและยังได้รับการกล่าวขวัญในเรื่อง ของการเป็นหนังง่ายๆ ที่ทำให้ดีได้ยากยิ่งด้วย
เนื้อเรื่องก็คือ ฟิลล์ คอนเนอร์ (Bill Murray) นักพยากรณ์อากาศหนุ่มจอมเห็นแก่ตัวที่ได้รับงานไปทำข่าวเกี่ยวกับ “วันอ้น” ที่เมืองเพนซิลวาเนีย ซึ่งการทำงานมันก็เดิมๆ ล่ะคับ เขาทำงานไปแล้วก็ถากถางชาวบ้านไปด้วย พอหมดวันเขาก็ต้องค้างที่เมืองนั้นอีกหนึ่งคืนอย่างไม่เต็มใจนัก แล้วพอตื่นเช้ามาแทนที่จะได้กลับ ดันกลายเป็นว่ามันยังเป็น “วันอ้น” อยู่ พูดง่ายๆ ตื่นมาเจอวันเดิมครับ แล้วเขาก็ต้องตื่นมาเจอวันจงกลมแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนในที่สุดเขาก็เริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนรอบข้างมากขึ้น มีน้ำใจมากขึ้นอีกด้วย
หนังทำได้อย่างถึงพร้อมครับ อย่างแรกที่ต้องปรบมือให้คือนักแสดงอันดับหนึ่งของผม พี่ Bill Murray ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้จัก แต่เขาเป็นนักแสดงตลกที่เก่งมากอีกคนหนึ่ง โดยเฉพาะบทแบบ “คนเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้กลับใจ” นี่ ไม่มีใครเล่นได้เก่งเกินเขาครับ
นักแสดงคนอื่นดีหมดทุกคนครับ ไม่ว่าจะนางเอกของเรื่อง Andie MacDowell ซึ่งดูน่ารักและมีเสน่ห์มากๆ ดาราคนอื่นก็ไม่มีอะไรให้ติกันเลยล่ะ ดนตรีดีสุดๆ (โดย George Fenton)
อีก ทั้งบรรยากาศโคตรจะอบอุ่นครับ ซึ่งบอกตรงๆ ว่างง เพราะอะไรน่ะเหรอฮะ ก็หนังทั้งเรื่องมันมีแต่หิมะอ้ะ ตัวละครพูดทีควันออกปากเลย หนาวจะตาย แต่พอถึงฉากดีๆ ซึ้งๆ หรือฉากที่มีความหมายสื่อถึงความอุ่นใจ ไม่ทราบเหมือนกันว่าความอุ่นมาจากไหนครับ มันแผ่รัศมีทะลุจอมาเลยจริงๆ หิมะก็คาอยู่บทพื้นนะ อีกทั้งความสนุกก็มีตลอดเวลา แง่คิดมีสารพัด อีกทั้งมันครบรสครับ จะเอาอะไรล่ะ เศร้า สุข ทุกข์ ตลก โรแมนติก มีให้ครบจริงๆ
ที่ผมบอกว่าเรื่องนี้ดูง่ายๆ ก็เพราะมันง่ายน่ะสิครับ พล็อตไม่ซับซ้อนอะไรเลย แค่เดินหน้าไปเรื่อยๆ แต่การจะทำให้อารมณ์มันลง จังหวะมันได้นี่ไม่ใช่ของง่ายเลยนะครับ ต้องมานั่งคิดกันอีกว่าจบอารมณ์นี้ควรไปต่ออารมณ์ไหนอีกถึงจะเหมาะสม ก็ขอชมผู้กำกับ Harold Ramis เขาล่ะคับ ทำได้ดีมากๆ ทีเดียว
ดูแล้วสบายใจครับ คุณอาจจะเริ่มอยากปรับปรุงตัวเองหลังดูหนังจบก็ได้ และการเริ่มต้นใหม่ในแบบที่ดีๆ ก็เป็นสิ่งที่น่าทำอยู่นะครับ ไม่จำเป็นว่าต้องปีใหม่แล้วค่อยทำหรอก ทำดีไม่ต้องเดี๋ยว ส่วนทำชั่วนั้นไม่ต้องทำไปเลยแล้วกันครับ
ผมก็ไม่รู้ว่าถึงเวลาหรือยังนะครับ ที่บ้านเราจะทำหนังอะไรแบบนี้ให้มากๆ บ้าง ไม่ต้องไปเน้น Effect ไม่ต้องไปสร้างงูสร้างจระเข้อะไรหรอกครับ บทนี้แหละทำให้มันดี แล้วหนังแบบนี้ลงทุนไม่ได้มากมายอยู่แล้วด้วย
เอาล่ะ แล้วก็มาเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของหนังกันนิดนึง คือ ตอนแรกนะครับ คนที่จะมารับบทฟิล คอนเนอร์เนี่ย ไม่ใช่ Bill Murray หรอก แต่เป็น Tom Hanks เลยล่ะครับผม แต่แล้วผู้กำกับ Ramis เองก็เปลี่ยนใจ แล้วให้เหตุผลว่า Hanks ดูเป็นคนดีมากเกินไปครับ ซึ่งก็ถูกของแกนะ เพราะบทฟิลเนี่ยมันต้องแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวครับ แต่พี่ Hanks นี่หากลองเทียบๆ กันดูแล้ว เรื่องความเห็นแก่ตัวเนี่ยนะ Murray แกเหนือกว่าครับ เอาแค่หน้าก็บอกแล้วว่า “อย่ามายุ่งกะอั้ว”
สรุปนะครับว่า หนังเรื่องนี้ ก็ดาราดี บทดี อบอุ่น ดนตรีเพราะ แง่คิดเยี่ยม มุมกล้องการเดินเรื่องลงตัวไปหมด