Gremlins | ปีศาจแสนซน

เกรมลินส์นั้น คือชื่อของสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งที่ว่ากันว่า มีอยู่จริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มันจะก่อกวนและทำลายข้าวของทุกชนิด บ้างก็เล่าว่าเครื่องบินบางลำตกและยังเชื่อกันว่าสถานที่หลายแห่งที่เหลือแต่ซากหักพังนั้น ก็เพราะเจ้าเกรมลินส์นี่แหละไปป่วนไว้ มันมาจากไหนไม่ทราบแน่ชัดครับ อาจจะจากการทดลองที่ผิดพลาดหรือเป็นปีศาจเก่าแก่ แต่ที่แน่ๆ มันร้ายพอดูเลยครับ

แล้วมันก็โดนเอามาเขียนเป็นหนังเรื่องนี้ ซึ่งตอนแรกนั้นตัวหนังจะออกมาน่ากลัวแบบเข้าข่ายสยองไปเลยล่ะครับ ซึ่งหนังเขียนโดย Chris Columbus (ผู้กำกับ Home Alone 2 ภาคแรกและ Harry Potter 2 ภาคแรกนั่นไงครับ) เขาได้เขียนเรื่องเอาไว้อย่างโหดครับ ตัวอย่างเช่น จะมีตัวละครตัวหนึ่งตาย โดยหัวขาดแล้วก็กลิ้งไปกับพื้น ( โอ้ แม่เจ้า) แต่ผู้กำกับ Joe Dante กับทาง Warner Bros ผู้สร้างก็ออกมาค้านล่ะครับ เพราะกะจะทำหนังให้เป็นแนวครอบครัวดูได้มากกว่า แล้วผลก็ออกมาตามนั้นครับ

ซึ่งผมว่าก็ดีกว่านะ เพราะขืนออกมาสยองนี่คงเหวอเลยล่ะครับ อีกอย่าง การที่หนังออกมาในโทนกึ่งสยองกึ่งตลกก็ทำให้หนังมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองไปโดยปริยายครับ ลองสังเกตดูดีๆ สิครับ ผมว่ามีหนังน้อยเรื่องมากนะฮะ ที่จะทำอารมณ์ได้ลงตัวทั้งตลกและน่ากลัวแบบนี้น่ะ

นอกจากนี้ในสคริปดั้งเดิม ซึ่งมีโทนมืดอย่างที่บอกน่ะนะครับ จะมีทั้งคนตายแบบโหดๆ และที่สำคัญคือเจ้าตัวม็อกไกวที่น่ารักนั่น ในเรื่องเราจะเห็นมันเป็นฝ่ายพระเอกจริงมั้ยครับ ช่วยสู้กับเกรมลินส์ตัวร้ายทั้งหลาย แต่ของเดิมนั้นเขาจะให้มันนี่แหละที่เปลี่ยนร่างกลายเป็นเกรมลินส์ตัวร้ายไป แต่ก็โชคดีครับที่มงานมานั่งคุยกันก่อนจะสร้าง ว่าตกลงจะเอาโทนไหน พอได้ว่าโทนครอบครัวเลยปรับกันหมด ซึ่งคนที่ช่วยเกลาโทนหนังให้เบาลงก็ไม่ใช่ใครครับ พี่ Steven Spielberg นี่แหละ พี่ท่านบอกว่าขืนให้ม็อกไกวที่น่ารักๆ กลายร่างคนดูคงไม่รับแน่ๆ (ซึ่งผมก็เห็นด้วยครับ ขัดตายเลยล่ะ)

ความสนุกของหนังนี่ต้องบอกว่ากลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อล่ะครับ มันสนุกแบบเบาๆ แต่ตอนน่ากลัวนี่ก็สยองนะครับ อย่างฉากที่บิลลี่เดินไปในโรงเรียน แล้วก็ไปพบศพอาจารย์ตัวเองนอนตายอยู่ โดยมีปีศาจเกรมลินส์อยู่ตัวหนึ่ง ฉากที่ว่านี่หนังผีชัดๆ ครับ ถ้ามีพี่เจสันโผล่มาผมก็ไม่แปลกใจเลยล่ะ มันน่ากลัวจริงๆ อันนี้ก็ต้องเข้าใจครับ เพราะผู้กำกับ Joe Dante ก่อนจะมาทำหนังเรื่องนี้ เขาก็จับงานหนังสยองๆ อย่าง Piranha (ปลาปิรันย่ากินคน), The Howling (หนังมนุษย์หมาป่าสุดสยอง และ Twilight Zone: The Movie ก็นั่นแหละครับ ขานี้ผ่านสมรภูมิหนังแหวะๆ มามาก พี่ท่านเลยหนักมือเอาเรื่องสำหรับฉากน่ากลัวๆ

นั่นแหละครับ มาคิดๆ ดูแล้วหนังมันค่อนข้างน่ากลัวสำหรับเด็กๆ เพราะตอนที่เจ้าตัวเกรมลินส์วิ่งอาละวาดไล่ทำร้ายคนทั่วเมือง มันก็โหดอยู่เหมือนกัน อันนี้พ่อแม่ผู้ปกครองก็คอยอยู่เป็นเพื่อนลูกด้วยนะครับ ไม่ใช่นึกว่าเป็นหนังน่ารักแบบ Babe ล่ะเสร็จเลยครับ เด็กฝันร้ายแหงๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่ก็น่าจะสนุกกับหนังได้ไม่ยากน่ะครับ

อันนี้ต้องชมทั้ง Columbus กับงานเขียนบทและ Dante ในงานกำกับนะครับ หนังออกมาดีทีเดียว สยองก็ถึง ตลกก็ได้ครับ ช่วงท้ายก็ลุ้นกันเต็มที่ไปเลยว่าจะหยุดยั้งพวกมันได้อย่างไร เพราะมันแพร่พันธุ์กันไปทั่วจริงๆ (ไอ้ฉากที่เจ้าเกรมลินส์ตัวหนึ่งตกลงไปในสระน้ำ แล้วพวกมันก็เริ่มเพิ่มจำนวนตัวเองนั่น ทำออกมาได้น่ากลัวจริงๆ ครับ ดูไปสยองไปสุดๆ)

ด้านนักแสดงผมว่าก็คัดมาดีนะครับ Galligan เหมาะกับบทแบบนี้แหละครับ หนุ่มนิสัยดี ตัวล่ำพอสมควร พอจะต่อกรกับพวกมันได้ Phoebe Cates นางเอกของเรื่องก็น่ารักสุดๆ ครับ เป็นอีกหนึ่งดาราที่น่ารักมากจริงๆ นะครับ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่ Galligan จะจีบเธอตอนถ่ายทำน่ะ เฮ่อ แล้วถึงตรงนี้ก็อิจฉาพี่ Kevin Kline ครับ … ทำไมน่ะเหรอ ก็พี่ท่านเป็นสามีคนปัจจุบันของเธอน่ะสิครับผม 

Hoyt Axton กับบทพ่อของบิลลี่ ขานี้ไม่ต้องทำอะไรมากครับ แค่นิ่งๆ ก็ใช้ได้แล้ว เห็นว่าตอนแรก Pat Hingle ก็มาเทสต์บทนี้นะครับ แล้วพี่ท่านก็เล่นได้ดีมากๆ ด้วย เล่นดีซะจนทีมงานไม่เลือกเขาน่ะครับ เนื่องด้วยกลัวว่าความเด่นจะไปตกอยู่ที่บทพ่อของบิลลี่หมด เพราะ Hingle เล่นได้ดีระดับสุดยอดเกินไป (มีอย่างงี้ด้วย ) แต่ก็พอเข้าใจล่ะครับ Hingle แกเก่งจริงๆ น่ะ ซึ่งนัดูหนังบ้านเราก็คงพอคุ้นตาเขาจากบทผู้กำกับกอร์ดอนให้หนังชุด Batman ฉบับ Tim Burton นั่นเอง

อีกรายที่ชูรสให้หนังคือ Polly Holliday ในบทคุณนายดีเกิลจอมหน้าเลือด เจ๊แกเล่นได้น่ารังเกียจจริงๆ ครับ จนอดจะสะใจไม่ได้ตอนโดนเกรมลินส์เล่นงานน่ะ

นี่เป็นผลงานที่โกยเงินมากอีกเรื่องนะครับ ซึ่งมันก็ออกมาดีและสนุกจริงๆ ทั้งขบขันและสยองปนกันไปได้อย่างเหลือเชื่อ ไม่แปร่งไม่ปร่าด้วย มันไปกันได้ดื้อๆ อ้ะ เยี่ยมจริงๆ ครับ อีกอย่างหนังยังยัดสารพัดมุขวงในไว้เพียบ ส่วนมากก็เกี่ยวกับ Spielberg นั่นแหละ อย่างไอ้ตุ๊กตา E.T. หรือชื่อหนังบนใบปิดที่โรงหนัง ก็มีเรื่อง A Boy’s Life ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิมของหนัง E.T. the Extra-Terrestrial แล้วก็ Watch the Skies ก็เป็นชื่อดั้งเดิมของ Close Encounters of the Third Kind น่ะครับ (เล่นกันเอง สนุกกันเอง )

ไม่ควรพลาดครับ หนังสนุกๆ ปนสยองๆ ที่เห็นไม่บ่อยนัก และยังออกมาถึงทั้งสองโทนเลยด้วย อีกอย่างดนตรีของ Jerry Goldsmith ก็ออกมาเป็นเอกลักษณ์เช่นกันครับ ฟังดูเหมือนเป็นเพลงของเจ้าเหล่าปีศาจซนจริงๆ ทำนองเหมือนพวกมันกำลังเต้นระบำอยู่บนความวินาศที่มันก่อขึ้น เยี่ยมจริงๆ ครับ

สนุกจริงๆ ครับไม่ได้ล้อเล่น ไม่ผิดหวังแน่นอน