ค้นหาหนัง

From Russia with Love | เพชฌฆาต 007 [James Bond: Sean Connery]

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น
From Russia with Love | เพชฌฆาต 007 [James Bond: Sean Connery]
เรื่องย่อ : From Russia with Love | เพชฌฆาต 007 [James Bond: Sean Connery]

เจมส์ บอนด์ 007 กำลังค้นหาเครื่องถอดรหัสรัสเซียที่รู้จักกันในชื่อ "เล็คเตอร์" บอร์นต้องการหาเครื่องนี้ ก่อนที่องค์กรอสุรกายชั่วร้ายจะค้นพบมัน ระหว่างที่คบหาดูใจกับสาวรัสเซีย ทาเทียน่า โรมาโนวา บอนด์ก็แอบย่องไปทั่วอิสตันบูล ขณะที่เอเย่นต์ SPECTER แต่ละคนพยายามจะเลือกเขา ซึ่งรวมถึงโดนัลด์ "เรด" แกรนท์ผู้คลั่งไคล้และอดีตเจ้าหน้าที่เคจีบี โรซา เคลบ์ ผู้รู้กลอุบายทั้งหมด ในหนังสือ และยังมีรองเท้าปลายพิษที่น่าเหลือเชื่ออีกด้วย

IMDB : tt0057076

คะแนน : 8



พอ Dr. No ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทำให้ United Artist ตกลงไฟเขียวให้กับภาคต่อของหนังบอนด์ทันที ทั้งยังเพิ่มทุนสร้างให้หลังจากภาคแรกใช้่ไปประมาณ 1 ล้าน มาภาคนี้ก็อัพขึ้นให้เป็น 2 ล้าน เรียกว่าจัดเต็มสุดตัวกันไปเลยทีเดียว

เหตุผลที่นิยาย 007 ตอน From Russia With Love ได้รับการสร้างต่อเป็นตอนที่ 2 นั้นก็เนื่องมาจากท่านประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสาร Life ว่า From Russia with Love คือหนึ่งในสิบนิยายที่ท่านโปรดปรานที่สุด ทีมงานเลยเห็นตรงกันที่จะสร้างบอนด์ภาค 2 โดยเอาพล็อตจาก From Russia with Love แล้วก็ยกเอาทีมงานชุดเดิมจากภาคแรกมาครบ ทั้งผู้กำกับและพระเอกบอนด์ Sean Connery เจ้าเก่า

บทหนังนั้น ตอนแรกทีมงานก็ใช้บริการของ Len Deighton ที่เพิ่งประสบความสำเร็จไปกับ The IPCRESS File หนังสายลับเข้มข้นที่เขาลงมือดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์จากนิยายของเขาเอง ซึ่งตัวเอกมีชื่อว่า แฮร์รี่ ปาล์มเมอร์ ครับ (รับบทโดย Michael Caine) อันนี้แอบกระซิบว่าตัวหนังชุดนี้ก็สนุกเข้มข้นชนิดที่คอหนังสายลับที่จะชื่นชอบได้ไม่ยาก ไว้มีโอกาสจะเอามาเล่าให้ฟังครับ เพราะทำออกมาหลายตอนอยู่เหมือนกัน

แต่ไปๆ มาๆ บทหนัง 007 ของ Deighton กลับไปไม่ถึงไหน ส่วนหนึ่งก็เพราะใจของ Deighton นั้นไปอยู่กับนิยายเล่มต่อของ The IPCRESS File มากกว่า ทางทีมงานเลยหันไปหา Johanna Harwood และ Richard Maibaum แทน โดย Harwood ช่วยในการดัดแปลงจากนิยายมาสู่หนัง ส่วน Maibaum ก็ทำการรีไรท์เรื่องราวให้เข้าที่ ซึ่งหนังก็จำเป็นต้องดัดแปลงเรื่องจากนิยายไปหลายอย่างครับ อย่างวายร้ายประจำตอนนั้นในนิยายก็โดนส่งมาจาก SMERSH องค์กรสายลับของรัสเซีย แต่ด้วยความที่ทีมงานอยากหลีกเลี่ยงข้อพิพาทระหว่างประเทศเลยจัดแจงเอาองค์กร SPECTRE มารับหน้าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแทน เป็นต้น

ในภาคนี้บอนด์ (Connery) ได้รับภารกิจให้ไปพาตัวทาเทียน่า โรมาโนวา (Daniela Bianchi) เจ้าหน้าที่สาวจากรัสเซียที่ประสงค์จะแปรพักตร์มาเข้ากับฝ่ายอังกฤษ พร้อมจะยอมมอบเครื่องถอดรหัส “เลคเตอร์” อันเป็นวิทยาการถอดรหัสที่สุดไฮเทคให้ด้วย แต่มีข้อแม้ว่าทางอังกฤษต้องส่งบอนด์มารับเธอไปเท่านั้น

งานนี้เหมือนจะง่าย แต่ที่ไหนได้มันเป็นแผนของ SPECTRE ที่หมายมั่นจะล้างแค้นให้ ดร.โน จึงล่อให้บอนด์ออกมาเป็นเป้า ก่อนจะส่งนักฆ่าอันดับหนึ่งขององค์กรที่ชื่อ โดนัลด์ “เรด” แกรนท์ (Robert Shaw) ตามไปสังหารบอนด์ ให้หมดลมหายใจอย่างทรมานและเจ็บปวด พร้อมทั้งคิดจะทำให้สงครามเย็นระหว่างอเมริกากับรัสเซียที่ระอุได้ปะทุขึ้นมาอีกด้วย

From Russia with Love ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสายลับที่ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นหนังบอนด์ตอนที่เฉียบขาดเข้มข้นที่สุด เนื้อเรื่องก็แหวกสูตรไปจากตอนอื่นๆ ครับ ปกติหนังบอนด์จะต้องประมาณว่าได้รับหน้าที่ แล้วก็ไปสืบ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการตีกันในฐานหัวหน้าใหญ่ แต่ภาคนี้ไม่มีครับ เป็นแนวสายลับหักเหลี่ยม ไฮไลท์ของหนังคือการเผชิญหน้าระหว่างบอนด์กับแกรนท์ ที่ต่างก็เป็นยอดฝีมือ จนแกรนท์ได้รับการขนานนามว่าเป็นศัตรูที่สมน้ำสมเนื้อกับบอนด์ที่สุด ซึ่งผมก็ไม่มีข้อกังขาเลยครับ ก็มันเก่งทั้งคู่เลยอ้ะ

ตอนไคลแม็กซ์ที่ทั้งสองเตรียมจัดการอีกฝ่ายแบบขั้นเด็ดขาดนี่มันส์มาก ไม่ได้มันส์เพราะบู๊อย่างเดียวนะครับ แต่มันส์ตรงการเฉือนคม ทั้งบอนด์และแกรนท์พอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ต่างคนก็เริ่มวางแผนล่อให้อีกฝ่ายตกหลุม จุดสนุกอยู่ตรงนี้ครับ ใครจะเพลี้ยงพล้ำไม่ได้เลย เพราะการพลาดพลั้งเพียงวินาทีเดียวอีกฝ่ายสามารถปลิดชีพอีกคนได้ทันที แล้วบอนด์ภาคนี้ก็ยังไม่มีอุปกรณ์พิสดารใดๆ นอกจากกระเป๋าเพียงใบเดียวเท่านั้น (ซึ่งรูปลักษณ์ของกระเป๋าใบที่ว่า ก็ที่เป็นมาของ “กระเป๋าเจมส์ บอนด์” นั่นเองครับ)

ภาคสองจึงเข้มข้นสุดๆ ทั้งในเรื่องบทที่ซับซ้อน ฉากบู๊ก็อลังการขึ้น หลายสถานที่ขึ้นตั้งแต่ตามถนน ในรถไฟ ไปจนถึงยอดเขา และที่ทำให้แฟนๆ ชื่นชอบมากคือการเผยตัว (แต่ไม่เผยหน้า) หัวหน้าองค์กร SPECTRE ที่มีชื่อว่า เอิร์นส์ สตาฟโร โบลเฟลด์ จอมวางแผนที่ต้องการจะสังหารบอนด์ให้จงได้ ตามด้วยมือขวาสารพัดพิษอย่าง โรซ่า เคลปป์ (Lotte Lenya) เธอนี่แหละครับเจ้าตำรับรองเท้าซ่อนใบมีดที่มีไว้สังหารเหยื่อโดยไม่ทันรู้ตัว แล้วยังมีลูกจ้อกคอยฆ่าบอนด์อีกเพียบ ก็ลุ้นไปตลอดล่ะครับว่าเขาจะรอดได้อย่างไร ทั้งไล่ล่าทางเรือ ทางเฮลิคอปเตอร์ เรียกว่าครบเครื่องทั้งบู๊แบบออกแรงและแบบใช้รอยหยักในสมอง

Q ยอดนักประดิษฐ์ประจำหน่วย MI6 ก็ถูกเปลี่ยนจาก Peter Burton มาเป็น Desmond Llewelyn เนื่องจากตอนนั้น Burton ไม่ว่างกลับมาแสดงให้ แล้วต่อมา Llewelyn ก็ผูกขาดบทนี้มาตลอด ในภาคนี้เขายังไม่มีสีสันมากครับ ต้องภาคหลังๆ ที่ยิ่งโผล่ก็ยิ่งฮา

ความสำเร็จของ From Russia with Love น่าพอใจอย่างแรง แม้จะมีการเพิ่มทุนสร้างเป็น $2 ล้าน แต่รายได้ทั่วโลกก็พุ่งถึง $78 ล้าน กำไรเต็มที่ คำวิจารณ์ก็หายห่วง ที่ออกมาด่าๆ แบบภาคแรกนี่หายไปหมดเลยครับ ทุกคนพากันชื่มชมความข้นคลั่กของบท การแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Connery และดาราทุกคน กับฉากแอ็กชันที่ถึงขีดอารมณ์มันส์ พร้อมกับเพลงประจำตอนที่ขับร้องโดยเสียงทุ้มลุ่มลึกของ Matt Monro ก็นำมาใช้ปิดเรื่องได้อย่างไพเราะ ไหนจะโลเกชั่นดีๆ ที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี และเวนิส ประเทศอิตาลีอีก

นอกจากนี้ นี่ยังเป็นเจมส์ บอนด์ตอนแรกที่มีการเปิดตัวด้วยฉากสั้นๆ เล่าเรื่องราว ก่อนตัดเข้าเพลงไตเติ้ล ตามด้วยการปิดท้ายหนังด้วยคำว่า James Bond will return แล้วก็ตามด้วยชื่อตอนที่เตรียมจะสร้างต่อ

ด้านนักแสดงนั้น Connery ก็เป็นบอนด์ไปแล้วครับ ภาคนี้อารมณ์ขันเพิ่มขึ้นกว่าเดิม บอนด์จึงไม่ใช่แค่เครื่องจักรสังหารเท่านั้น แต่เขาเป็นคนจริงๆที่มีเลือดมีเนื้อมีความรู้สึก สัมผัสได้

ส่วนสาวบอนด์ตอนนี้ก็คือทาเทียน่า รับบทโดย Bianchi ซึ่งเฉือนชนะดาราคนอื่นๆ ที่ถูกคัดมาแสดงบทนี้ (ได้แก่ Sylva Koscina, Virna Lisi, Annette Vadim และ Tania Mallet) ต้องยอมรับว่าเธอคนนี้็สวยมากๆ ครับ ก็เคยประกวดนางงามจักรวาลเมื่อปี 1960 มาแล้ว พอมาเล่นเธอก็ทั้งน่ารัก ไร้เดียงสา น่าคบหาเป็นอย่างยิ่งจริงๆ เชียว (นี่ผมกำลังพล่ามอะไรอยู่หว่า 555) ด้านการแสดงก็โดดเด่นไม่แพ้หน้าตาครับ เธอทำให้คนดูเชื่อได้จริงๆ ว่าเธอรักบอนด์มาก อย่างที่ไม่มีดาราสาวคนไหนแสดงได้ในระดับนี้อีกเลยครับ

โดยส่วนตัวแล้ว ในบรรดาสาวบอนด์ทั้งหมด ผมยกให้เธอเป็นที่ 1 ตลอดกาลเลยทีเดียว (แล้วเธอก็เข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อประมาณปี 1985… เฮ่อ เสียดาย… เอ นี่ผมพลามอะไรออกไปอีกแล้วนี่ ) แต่ที่น่าเสียดายอย่างหนึ่งก็คือ เสียงของเธอในหนังนั้นไม่ใช่เสียงเธอจริงๆ ครับ แต่เป็นการพากย์ทับไป… แอบอยากได้ยินเสียงเธอจริงๆ สักครั้งแฮะ

ส่วนวายร้าย หมอนี่ก็สุดยอดอีกรายนึงแล้วครับ กับมือสังหารนามว่าแกรนต์ ที่ถือได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกับบอนด์ที่สุด ก็ถ้าเป็นแข่งชกมวยก็คงไม่รู้จะแทงฝ่ายไหนล่ะครับ เพราะมันสูสีจริงๆ ชนิดที่ถ้าฝ่านไหนเพลี่ยงพล้ำ อีกฝ่ายก็พร้อมจะขย้ำฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา แต่เราๆ ก็รู้อยู่แล้วล่ะครับว่าใครจะชนะ (ก็ยังมีบอนด์อีกตั้ง 20 กว่าภาคนี่หน่า) แต่ถึงกระนั้น ฉากการต่อสู้เฉือนเหลี่ยมระหว่างสองคนนี้ก็นับว่าน่าจดจำมากจริงๆ ซึ่ง Shaw ก็แสดงได้เฉียบและนิ่งแบบอำมหิตมากทีเดียวครับ

นอกจากนี้ก็มี Pedro Armendariz ซึ่งมารับบทเป็น คาริม เบย์ ผู้ช่วยของบอนด์ในภาคนี้ โดยผู้กำกับ John Ford ได้แนะนำให้กับผู้กำกับ Terence Young ว่าชายคนนี้แหละเหมาะกับบทนี้สุดๆ ซึ่งก็ไม่ผิดจากความจริงเลยครับ

จริงๆ แล้วตอน Armendariz เล่นหนังเรื่องนี้เขากำลังป่วยหนักเลยนะครับ แต่เขาก็อดทนแสดงราวกับไม่มีโรคใดๆ แสดงฉากไหนก็เล่นจนถ่ายเสร็จ ไม่มีการดีเลย์ใดๆ ทั้งสิ้น แม้ระหว่างแสดงจะเจ็บปวดในร่างกายแค่ไหนก็ตามที อันนี้ต้องนับถือเลยครับ เพราะแสดงได้ดีมากๆ

แต่แล้วก่อนหนังจะปิดกล้อง Armendariz ก็ตัดสินใจอำลาโลกเพื่อหนีความทรมานจากโรคมะเร็ง โดยเขายิงเข้าที่หัวใจตนเอง ก่อนไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ปี 1963 (ประมาณ 4 เดือนก่อนหนังเข้าฉาย)

ภายหลังมีการเปิดเผยว่าเหตุผลที่ Armendariz ตกลงแสดงในบท คาริม เบย์ทั้งที่ป่วยหนักก็เนื่องมาจากเขาอยากทิ้งรายได้จากการแสดงบทนี้ไว้ให้กับครอบครัว เพื่อที่เวลาเขาจากโลกนี้ไปแล้ว ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังจะได้ไม่ลำบาก

ผมก็อยากจะขอแสดงความไว้อาลัย ให้กับนักแสดงชั้นยอดผู้เปี่ยมสปิริต และหัวหน้าครอบครัวชั้นเยี่ยมผู้นี้ ไว้ ณ. ที่นี้ด้วยนะครับ

หลังการจากไปของ Armendariz ทำให้บทมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แล้วบางฉากที่ต้องถ่ายเพิ่มในบทคาริม เบย์ก็ต้องให้คนมาแสดงเป็นสแตนอินแทน Armendariz ซึ่งคนผู้นั้นก็ไม่ใช่ใครครับ คือ Terence Young ผู้กำกับหนังเรื่องนี้นี่เอง

นักแสดงอีกเจ้าที่เด่นไม่แพ้กันก็ต้องยกให้ Lotte Lenya ในบท โรซ่า เคลปป์ วายร้ายอีกคนที่แฟนๆ หนังบอนด์จำได้ เพราะเธอนี่แหละครับ ต้นแบบนักฆ่าที่ซ่อนใบมีดไว้ในรองเท้า และถ้าดูเผินๆ จะนึกว่ายัยแก่ที่ไหน ไม่มีใครดูออกหรอกครับว่าเป็นนักฆ่า ตัวผอมๆ ลมพัดก็ปลิวแล้ว แต่ขอโทษ พิษสงร้ายกาจจริงๆ (และตัวละครตัวนี้ก็โดน Austin Powers มาล้อไงครับ เป็น ฟราว ฟาบริซิน่า เจ๊หน้าเหี่ยวที่ตกร่องปล่องชิ้นกับ ดร.อีวิลนั่นไง)

ส่วนคนที่มาแสดงแบบไม่เห็นหน้าให้กับหนังในฐานะโบลเฟลด์ก็คือ Anthony Dawson ที่เคยแสดงบทศาสตราจารย์เดนท์ใน Dr. No นั่นเอง

หนังยังคงกำกับโดย Terence Young จากภาคแรก ก็อย่างที่บอกครับ หนังเข้มข้นและมันส์แบบที่ไม่เหมือนบอนด์ตอนใดๆ สนุกและมีลุ้น เป็นหนังสายลับที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียวครับ ซึ่งผมก็ชอบบอนด์ตอนนี้ที่สุดเลยล่ะครับ เพราะทุกอย่างลงตัวมากจริงๆ

ภาคที่แล้วแค่อุ่นเครื่อง ภาคนี้แหละครับ ถึงจะของแท้ เข้มข้น มันส์ ชิงไหวชิงพริบสไตล์สายลับ และสาวบอนด์น่ารักสุดๆ

ข้อมูลที่น่าสนใจอีกเรื่องก็คือ นี่เป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่ท่านประธานาธิบดีเคนเนดี้ได้ชมครับ ท่านรับชม From Russia With Love ที่ทำเนียบขาวในวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี 1963 แล้วหลังจากนั้น 2 วันท่านก็ถูกลอบสังหารขณะกำลังนั่งวรถโบกมือให้กับประชาชนที่เมืองดัลลัส

อย่างน้อยท่านก็ได้ชมภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายที่ท่านชอบที่สุด สักครั้งในชีวิต… ขอไว้อาลัยให้กับท่านประธานาธิบดีเคนเนดี้ ไว้ในที่นี้ด้วยครับ

สรุปว่าบอนด์ตอนนี้ มีดีหลายประการ