Forbidden City Cop | สายไม่ลับคังคังโป๋ย

หลังจากฮากระจายทำรายได้ถล่มทลายมาแล้วใน พยัคฆ์(ไม่)ร้าย คั้งคั้งฉิก เฮียโจวซงฉือแกก็จัดแบบต่อเนื่องครับ เอาพล็อตเรื่องสไตล์สายลับสืบคดีมาทำอีก แต่คราวนี้ฉากหลังไปเกิดในยุคอดีตครับ โดยเฮียโจวก็รับบทนำเป็นสายลับแห่งวังหลวงนามว่า คั้งคั้งโป้ย (008) ซึ่งพี่แกก็เป็นสายลับที่ฮอ่งเต้ไม่ทรงพระปลื้มเท่าไร เพราะไร้วรยุทธ์ เก่งแต่ประดิษฐ์ของแปลกๆ ที่มักทำให้ชาวบ้านหน้าแหกอยู่เสมอ

และล่าสุดก็มีข่าวว่ามีการพบซากมนุษย์ต่างดาวในแผ่นดินจีน ทำให้คั้งคั้งโป้ยต้องไปตรวจสอบความจริง เพราะเป็นไปได้ครับว่ามันอาจมีแผนร้ายซุกซ่อนอยู่

เนื้อเรื่องนี่เอาฮาและบ้าสุดๆ ไปเลยครับ ผมนับถือมากนะ จำได้ตอนดูรอบแรกนี่ถึงกับอึ้ง พี่แกสามารถเอามนุษย์ต่างดาวมาใส่ในหนังจีนกำลังภายในได้ คือพี่คิดได้ไงอ้ะ เอาแค่เรื่องพล็อตนี่ผมก็นับถือแล้วล่ะครับ

ตัวหนังก็จัดว่าสนุกและฮาเต็มที่ล่ะครับ อุดมมุขทุกฉาก เอาแค่ฉากแรกนี่คอหนังกำลังภายในก็ฮาแตกแน่นอน กับการปรากฏตัวของเอี๊ยบโกวเซี๊ยะและไซมึ้งชวยเสาะ ไหนจะเล็กเสี่ยวหงส์และฮวยมั่วเล้าอีก แต่ขอบอกว่ามันไม่ใช่อะไรแบบที่ท่านคิดแน่นอน เอาแค่คนมาเล่นเป็นแต่ละบทนั่นก็สร้างเสียงฮาได้อย่างแรงแล้วครับ

แต่ผมยอมรับนะ ว่าหนังมันลงตัวทั้งความฮาและพล็อตเรื่องที่ถือว่าน่าติดตามเหมือนกัน อย่างการเอาประเด็นมนุษย์ต่างดาวใส่ลงมานั้นก็ใช่จะใส่มาลอยๆ แบบไร้สาระนะครับ แต่เขาสามารถเอามาผูกเรื่องวางปมเป็นพล็อตที่สำคัญและเกี่ยวพันเป็นเหมือนคดีๆ หนึ่งก็ว่าได้ จุดนี้ผมเลยซูฮกทีมงานจริงๆ คือพวกเขาไม่ได้ทำหนังฮาแบบล้อเลียนโดยเน้นแต่ความขำครับ พวกเขาไม่ทิ้งพล็อต ยังคงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูสนุกได้ มีปมให้ติดตาม มีการหักมุมและความลุ้นแบบพอดีๆ

ดาราในเรื่องคนที่เด่นเป็นบ้าก็ยกให้เฮียโจวล่ะครับ ฮาหน้าตายพล่ามไม่หยุด แล้วคราวนี้มาเข้าคู่กับหลิวเจียหลิง ที่มารับบทเป็นภรรยาสุดที่รัก ขานี้ก็เล่นฮาได้เกินคาดหมายเหมือนกันครับ คือเจ๊แกบ้าไปกับเฮียโจวได้ แล้วไม่ได้บ้าแบบหลุดโลกนะครับ คือบ้าแบบพอเหมาะ ฮาแบบยังมีภาพพจน์อยู่ (555) แต่ถือเป็นอะไรที่สอดรับกันอย่างพอดีครับ เพราะถ้าพระเอกนางเอกต่างบ้าแบบแรงๆ หนังก็คงจะดูอ่อนไปเหมือนกัน

นอกจากนี้ยังมี หลี่ยั่วถง ที่หนุ่มๆ สมัยนั้นต้องจำเธอได้อย่างแน่นอนครับ เพราะเธอกำลังดังจากบทเซียวเหล่งนึ่ง ในมังกรหยกภาคที่กู่เทียนเล่อแสดงเป็นเอี้ยก้วย ก่อนจะมาดังซ้ำอีกในบทแม่นางหวังใน 8 เทพอสูรมังกรฟ้า ด้วยหน้าตาสะสวยโดดเด่นของการแสดงของเธอในบทแม่นางกำไช ก็ทำให้ครึ่งหลังของหนังน่าติดตามพอดู เพราะดูก็รู้ครับว่าบทเธอคนนี้ต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่ๆ

แล้วยังได้ หลอเจียอิง มารับบทซัวเจ๋งผู้ช่วยของคั้งคั้งโป้ยที่ยังคงบ้าได้ไม่เลิกราครับ ตามด้วยดาราขาประจำของหนังเฮียโจวอีกครบทีม (ใช่ครับ Lee Kin Yan ยังตามมาฮาอีกเหมือนเดิม)

การเอามาย้อนดูอีกรอบเมื่อโตขึ้นแล้วก็ยิ่งสังเกตเห็นนะครับว่าเฮียโจวแกใส่ใจผลงานของแกแทบทุกเรื่อง คือนอกจากพล็อตที่เขียนสนุก (และที่สำคัญคือมีพล็อตเสมอ ไม่มีการเดินเรื่องมั่วๆ หรือเลอะเทอะ หรือเอาแต่ขายฮาอย่างเดียว) และความฮาแล้ว มุขในหนังส่วนใหญ่แกก็จะหยิบเอาหนังเก่า ตัวละครเก่าๆ หรือฉากคลาสสิกๆ มาแซวมาหยิกอย่างเคารพ ไม่ว่าจะแซวพวกเล็กเซียวหงส์ในตอนต้น, ฉากตอนเต้นกับแม่นางกำไชก็ออกลีลาล้อ Saturday Night Fever แบบชัวร์ๆ (ที่เต้นแล้วชี้ขึ้นชี้ลงน่ะครับ) ตามด้วยฉากกระบี่นางฟ้าตอนท้ายที่ดูดีๆ จะพบว่าเป็นการคารวะซีนคลาสสิกตอนพวกนาซีเปิดหีบศักดิ์สิทธิ์ใน Raiders of the Lost Ark แบบเต็มๆ น่ะครับ (ที่นางฟ้าๆ หน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นผี แล้วโทนดนตรียังใช่ซะอีกนะ)

กิมมิกเหล่านี้ผมรู้สึกสนุกที่จะติดตามนะครับ ช่วงหลังนี่เปิดหนังของแกมาดูนอกจากเพื่อเสพความฮาความสนุกที่มีอยู่แบบเต็มๆ อยู่แล้ว ก็มานั่งดูกิมมิกเล็กๆ พวกนี้ ว่าหนังเฮียแกล้อหรือแอบแซวหนังเรื่องอะไรอีกบ้าง ก็สนุกไปอีกแบบครับ และก็ยิ่งเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าแกเป็นคนรักหนังและเป็นหนังดูหนังตัวยงคนหนึ่งจริงๆ

เรื่องนี้เฮียโจวแกกำกับร่วมกับ Vincent Kok ซึ่งผลที่ได้ก็ฮาสนุก และน่าติดตามครับ ดูเพลินมาก มุขนี่ยิงแทบไม่หยุดตลอดชั่วโมงครึ่ง (โดยประมาณ) เป็นอีกหนึ่งงานฮาของเฮียโจวที่ไม่ผิดหวังเลยครับ