IMDB : tt0116704
คะแนน : 7
อย่าไปใส่ใจกับชื่อไทยนะครับ พอดีช่วงนั้นกระแสหนังเรื่อง “ใหญ่ฟัดโลก” หรือ Rumble in the Bronx ของเฮียเฉินหลงแกมาแรงมากๆ ครับ ดังข้ามปีทีเดียว เลยทำให้มีการตัดสินใจใส่ชื่อ “ใหญ่ฟัดโลก 2” ให้กับหนังเรื่องนี้ไปเลย… ว่าแต่ชื่อ “วิ่งสู้ฟัด” มันไม่ได้หรือไงหว่า
เพราะถ้าว่าตามจริง หนังมันคือภาค 4 ของวิ่งสู้ฟัดครับ บทที่เฮียเฉินเล่นก็คือ เฉินกูกู๋เจ้าเก่านั่นเอง งานล่าสุดของเขาคือการสะกดรอยตามผู้หญิงคนหนึ่งที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกผู้ร้ายไปจนถึงยูเครน อันที่จริงงานของเขามันจบเมื่อผู้หญิงคนนั้นเข้าเขตยูเครนครับ ส่วนที่เหลือเดี๋ยวตำรวจคนอื่นก็สานต่อเอง แต่พอดีพี่เฉินแกดันไปพบเรื่องผิดสังเกตเข้า เลยสะกดรอยตามต่อ ทีนี้ล่ะครับเรื่องเลยยาว เพราะพี่เฉินกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับพวกค้าอาวุธที่สุดแสนอันตราย และอาวุธที่ว่านี่ก็ถึงขั้นนิวเคลียร์เลยนะครับ
ภาคนี้เฮียเฉินโกอินเตอร์ครับ ไปหลายประเทศมาก ไม่ว่าจะยูเครน, รัสเซีย ไปจนถึงออสเตรเลีย รสชาติเลยแตกต่างจากภาคก่อนๆ อย่างภาค 3 แม้จะไปทำงานนอกประเทศแต่ประเทศที่ไปก็ยังอยู่ในโซนเอเซีย บรรยากาศยังไม่แปลกตานัก แต่คราวนี้ไปเมืองหิมะ ก็ถือว่าได้ความแปลกใหม่ไปอีกแบบครับ
ในแง่แอ็กชันก็ยังนับว่าไม่ผิดหวังครับ มีทั้งบู๊ไล่ล่าสไตล์หนังเจมส์ บอนด์ แล้วก็บู๊ปนฮาระยะประชิดสไตล์เฮียเฉิน ก็เป็นส่วนผสมที่ไม่เลวนะครับ เพียงแต่ยอมรับว่าลึกๆ แล้ว ผมยังคงชอบลีลาบู๊แบบออกหมัดซัดนัวแบบภาคก่อนๆ มากกว่าอยู่หน่อยครับ อันนี้ก็คงแล้วแต่ความชอบล่ะนะครับ แต่หากมองในแง่หนังบู๊สักเรื่อง หนังภาคนี้ก็ยังตอบสนองความมันส์ได้สาใจพอสมควร
ในด้านเนื้อหาหนังก็พยายามใส่ความซับซ้อนลงไป เพราะมันไม่ใช่แค่เฮียเฉินแกไปล่าผู้ร้ายแบบโต้งๆ เหมือนคราวก่อน แต่ครั้งนี้มันมีลับลมคมในมากกว่านั้น ก็ถือว่าไม่เลวครับในส่วนนี้
นี่ก็เป็นภาคสุดท้ายสำหรับวิ่งสู้ฟัดต้นฉบับครับ เรื่องราวของเฉินกูกู๋ถือว่าจบลงในภาคนี้ ซึ่งก็เป็นภาคที่ทำออกมาได้สนุกน่าพอใจครับ มันส์ไม่ผิดหวัง แม้ภาคแรกๆ จะมันส์ถึงเครื่องกว่าก็ตาม แต่ถ้าชอบหนังชุดนี้ก็แนะนำให้ชมกันได้ครับ มันก็ยังสนุกได้มาตรฐานนั่นแหละ