IMDB : tt0119123
คะแนน : 6
บอกก่อนเลยครับว่านี่ไม่เชิงว่าจะเป็นหนังบู๊นักหรอก มันออกจะเป็นแนวชีวิต + คันทรี่ๆ (เพราะเผอิญช่วงนั้นพี่ Steven Seagal แกกำลังอินกับอารมณ์นั้นอยู่น่ะครับ) ที่มีแอ็กชันแบบรักษ์ธรรมชาติผสมลงไป
ในเรื่องพี่แกก็เล่นเป็น แจ๊ค แทคการ์ด FBI ที่ถูกส่งไปตามล่าหาความจริงเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ที่โดนสังหารระหว่างสืบเงื่อนงำในเมืองๆ หนึ่ง และคนทำก็คือผู้มีอิทธิพลในแถบนั้นที่ต้องการปกปิดธุรกิจผิดกฎหมายของตน (ซึ่งก็คือการทิ้งขยะสารพิษ+ทำลายธรรมชาติ) ก็แน่ล่ะครับ พี่เขาก็ต้องเดี่ยวท้าลุยตามระเบียบ จัดการพวกมันให้เรียบ และหาทางปลุกจิตสำนึกให้คนรักทรัพยากรธรรมชาติขึ้นมาให้ได้
หนังไม่ได้มีฉากหักกระดูกมากมายอะไรนักนะครับ แค่นิดๆ หน่อยๆ แต่ผมว่าบรรยากาศมันใช้ได้น่ะครับ เป็นบ้านไร่ชานเมืองของอเมริกาจริงๆ มีกลิ่นฟางกลิ่นไม้เจืออยู่ตลอด บ้านของชาวเมืองก็ไม่ใหญ่ไม่โต ดูอบอุ่นดี ส่วนการเดินเรื่องแม้จะไม่ได้เด่นอะไรมากมาย แต่มันก็พอเพลินๆ ไม่ได้เลวร้ายน่ะครับ ผมว่าพวกหนังเกรดบีที่ยัดเยียดแต่ฉากบู๊แบบไม่จำเป็นและฉากเซ็กส์เพื่อเพิ่มยอดขาย มันยังดูแย่กว่านี้ตั้งเยอะ
และแม้ฉากหักกระดูกจะมีน้อย ทว่าแต่ละฉากมันก็มีคุณภาพอยู่บ้างน่ะครับ ยังไว้ฟอร์มเฮียแกอยู่ ลีลายังน่าจดจำ เสียแต่ตอนจบมันไม่มีฉากไคลแม็กซ์บู๊แบบมันส์ๆ น่ะครับ เลยทำให้หากใครคาดหวังฉากบู๊อาจต้องเผื่อใจไว้
ผมชอบมองว่าหนังเรื่องนี้คือภาคต่อกลายๆ ของ On Deadly Ground ครับ เพราะพี่ Seagal เล่นเหมือนกัน และเนื้อเรื่องก็มีประเด็นเกี่ยวกับธรรมชาติ เกี่ยวกับการต่อสู้กับพวกนายทุนที่กอบโกยผลประโยชน์โดยไม่สนใจว่าจะทำลายธรรมชาติไปแค่ไหน อีกทั้งโทนของเรื่องผมว่าก็คล้ายๆ กันครับ อารมณ์ไล่ๆ กัน ต่างก็แค่เรื่องนั้นเหตุเกิดกลางหิมะ แต่เรื่องนี้เหตุมาเกิดในเมืองกลางป่าเขาลำเนาไพร
อย่าว่าแต่ผมเลยครับ ขนาดตอนฉายที่สเปน ผู้จัดจำหน่ายยังตั้งชื่อว่าเป็นภาคต่อของ On Deadly Ground เลย (ใช้ชื่อว่า En tierra peligrosa 2 ครับ)
หนังเขียนบทโดย Jeb Stuart ที่เคยร่วมเขียนบท/เกลาบทหนังอย่าง Die Hard, The Fugitive และ Just Cause มาก่อน ซึ่งบทหนังเรื่องนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์สมัยเรียนของเขา ตอนนั้นเขาเคยทำงานเป็นช่างไม้แถบๆ แอปพาเลเชีย (Appalachia) แล้วเขาก็มีโอกาสได้ประสบพบสถานการณ์การทิ้งสารพิษอย่างผิดกฎหมาย และนั่นแหละครับที่เขาจับมาเขียนเป็นเรื่อง
แรกเริ่มเดิมที Stuart หมายมั่นจะให้ Bruce Willis มาแสดงครับ และเนื้อหาจะมีดราม่ามากกว่านี้ด้วย แต่พอ Willis บอกปัด แล้วพี่ Seagal ก็เข้ามาครับ เลยมีการปรับบทให้เข้ากับหนังสไตล์พี่ Seagal (โดยได้ Philip Morton มาเกลาให้หนังเป็นแบบ Seagal มากขึ้น)