IMDB : tt5433138
คะแนน : 3
สิ้นสุดการ รอคอยกันมานาน ยาวนานหลือเกิน กับหนัง ภาคต่อ ภาคที่ 9 ของภาพยนตร์ชุด Fast & Furious เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ F9: The Fast Saga หรือ Fast & Furious 9 ต้องเลื่อนฉายจากกำหนดเดิมออกไปถึง 1 ปี แต่การเลื่อนฉายนั้นก็ทำให้ภาคที่ 9 นี้กลายเป็นภาคที่ครบรอบ 20 ปีของภาพยนตร์ชุดนี้ไปโดยปริยาย ''
สำหรับในไทยนั้นจากกำหนดเดิมที่วางกำหนดฉายไว้วันที่ 17 มิถุนายนก็ถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีกเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น จนไม่มีวี่แววที่จะได้ดูสักที ประกอบกับที่ในบางประเทศมีการฉายแบบ On Demand แล้ว งานนี้ก็เลยขอข้ามโซนไปเช่ามาดูก่อนซะเลย เพราะคงอีกนานที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ฉายในไทย
ต้องบอกว่าค่อนข้างเสียดายที่ไม่ได้ดูเรื่องนี้ครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ เพราะในภาคนี้จัดเต็มไปด้วยฉากแอคชั่นที่ดุเดือดในหลาย ๆ ฉาก อันที่จริงสำหรับผมเองไม่ค่อยประทับใจฉากแอคชั่นในภาคนี้เท่าไหร่เมื่อเทียบกับภาคก่อน ๆ แต่พวกเสียงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ อย่างเสียงเครื่องยนต์ เสียงยาง เสียงปืนกับระเบิด รวมไปถึงเสียงดนตรีสำหรับภาคนี้ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เพลงประกอบแทบทุกเพลงมาได้ถูกจังหวะและเหมาะกับสถานการณ์จนกล้าพูดว่าถ้าได้ดูในโรงภาพยนตร์จะต้องฟินมากแน่ ๆ
มาพูดถึงเนื้อเรื่องกันบ้างดีกว่า ใครที่คิดว่าตัวอย่างที่ปล่อยออกมามีความกาวและหลุดโลกแล้ว บอกเลยว่าคุณคิดผิด ในภาคนี้มีความกาวและหลุดโลกมากกว่าที่เห็นในตัวอย่างหลายเท่า และเป็นครั้งแรกเลยสำหรับแฟรนไชส์นี้ที่ดูตัวอย่างแล้วเดาไม่ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตัวอย่างมีการสับขาหลอกแบบตัวอย่างหนังของ Marvel Studios มีบางฉากที่มีในตัวอย่างแต่ไม่มีในเนื้อเรื่อง ถ้าบอกว่าทีมงานดมกาวตอนเขียนบทขึ้นมาผมก็เชื่อสนิทใจ ในภาคนี้มีความเว่อร์วังอลังการและแฟนตาซีมากขึ้นจนทำเอาการสู้กับเรือดำน้ำในภาคก่อนดูเป็นเรื่องปกติไปเลย หลาย ๆ คนคงเห็นมาบ้างแล้วว่าในตัวอย่างพาเราไปเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งมันดูหลุดโลกเอามาก ๆ แต่ในเนื้อเรื่องเองก็พยายามยกทฤษฎีต่าง ๆ นานามากล่อมคนดูว่ามันทำได้ถึงแม้ว่ามันจะขัดกับ
อย่างไรก็ตามทีมงานรู้ดีว่าหลังจากผู้คนรับชมไปแล้วต้องเอาสิ่งต่าง ๆ ในภาคนี้มาล้อเลียนกันอย่างแน่นอน ก็เลยจัดการล้อเลียนตัวเองเป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งอดคิดไม่ได้ว่าทีมงานและนักแสดงรู้ดีอยู่แล้วว่าที่กำลังทำอยู่นั้นหลุดโลกขนาดไหน แต่ด้วยความเน้นมัน เน้นสะใจ แบบไม่แคร์ว่าจะถูกล้อ ก็เลยจัดการชิงล้อเลียนตัวเองในหนังไปก่อนเป็นที่เรียบร้อย
ในภาคนี้มีความรู้สึกว่าทีมงานอยากจะยกระดับภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ดูมีอะไรมากกว่าเป็นภาพยนตร์แอคชั่นธรรมดาแบบภาคที่ผ่าน ๆ มา เลยพยายามใส่ปมต่าง ๆ ให้ตัวละคร ใส่การหักมุม ใส่ดราม่าเข้ามา มีการ Retcon เนื้อเรื่องในหลายจุด ประกอบกับระหว่างการสร้างมีนักแสดงบางคนรีเควสบทบาทต่าง ๆ เพิ่มและการที่ทีมงานบ้าจี้ใส่สิ่งต่าง ๆ ตามที่คนดูชงให้ทำ ทำให้รู้สึกว่าในภาคนี้มีหลายอย่างที่ล้นเกินไปหน่อย ส่งผลให้การเดินเรื่องดูปะติดปะต่อยากในหลาย ๆ ฉาก และมีหลายฉากที่ใส่จังหวะดราม่าที่ยืดยาดโดยไม่จำเป็นต้องลากยาวขนาดนั้นทำให้ต้องมาตัดในส่วนที่ควรจะลากยาวให้สั้นลง หลาย ๆ ฉากที่เห็นในตัวอย่างถูกตัดความต่อเนื่องออกไปเพื่อให้เดินเรื่องไวขึ้นแบบเห็นได้ชัด