Eerie | สืบหลอน โรงเรียนเฮี้ยน

Eerie คือภาพเรื่องสยองขวัญสัญชาติฟิลิปปินส์ที่เล่าเรื่องราวภายใน Santa lucia โรงเรียนคาทอลิกหญิงล้วน ที่มีความเคร่งครัดในกฎระเบียบเป็นอย่างมาก มีเรื่องเล่าหนึ่งที่มีผลต่อวิถีชีวิตของเด็กนักเรียนรวมถึงครูบาอาจารย์ภายในโรงเรียนคือ ที่ห้องน้ำแห่งหนึ่งในอาคารของโรงเรียนใกล้กับหอนอน มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งผูกคอตายภายในห้องน้ำห้องสุดท้าย และเมื่อยามค่ำคืนหากมีใครเผลอไปเข้าห้องน้ำก็จะเจอกับดวงวิญญาณของเด็กสาวคนนั้นหลอกหลอน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาค่ำคืนแทบจะไม่มีนักเรียนคนไหนกล้าไปในห้องน้ำคนเดียวเลย และอยู่มาวันหนึ่งมีเด็กนักเรียนของโรงเรียนเกิดเสียชีวิต หลายคนเชื่อว่าการเสียชีวิตของเธอนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องเล่าหลอนในห้องน้ำแห่งนั้น

แพทริเซีย ครูแนะแนวสาวคนอื่นของโรงเรียน เธอมีจิตสัมผัสพิเศษ สามารถรับรู้ถึงดวงวิญญาณได้ เธอ ได้รับความไว้วางใจจากนักเรียนหลายคนขอคำปรึกษาขอคำปรึกษาเมื่อเกิดความไม่สบายใจ เธอเศร้าโศกเสียใจจากการจากไปของนักเรียนคนนั้น เธอพยายามสืบเรื่องราวด้วยตัวของเธอเอง และในแบบวิธีของเธอเองคือ อัดเทปบันทึกเสียงเอาไว้ เธอเชื่อว่าดวงวิญญาณของเด็กสาวที่ตายไปจะเล่าเรื่องราวให้เธอฟังในฐานะที่เธอเป็นครูแนะแนว จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ได้รับรู้เรื่องราวความสยองขวัญที่เกิดขึ้นในโรงเรียน เธอรู้ว่าการตายนักเรียนของเธอนั้นเกี่ยวข้องกับเด็กสาวที่ผูกคอตายในห้องน้ำเมื่อนานมาแล้ว แม้คดีจะมีการตัดสินไปแล้วแต่เธอก็รู้ว่าตำรวจนั้นจับคนร้ายผิดคน เธอสามารถติดต่อกับดวงวิญญาณหญิงสาวที่ผูกคอตายได้ แล้วเธอก็รับรู้ถึงสาเหตุของการฆ่าตัวตายนั้น ว่าแท้จริงแล้วมีภูมิหลังปริศนาจนคนเก่าแก่ภายในโรงเรียนต้องปกปิดเอาไว้ ทุกคนอยากลืมมัน เธอต้องขี้คลายและทราบถึงสาเหตุการให้ได้ เพื่อช่วยดวงวิญญาณของเด็กสาวคนนั้นกลับอาจช่วยดูวิญญาณของลูกศิษย์ของเธอได้

บรรยากาศของหนังเรื่องนี้เมื่อดูไปแล้วทำให้คิดถึงบรรยากาศหนังผีไทยเรื่อง "เด็กหอ" ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กนักเรียนที่อาศัยอยู่ในโรงเรียนกินนอนและต้องรับรู้เรื่องราวสยองขวัญการตายของเด็กคนหนึ่งในโรงเรียน เรื่อง "มหา'ลัยสยองขวัญ" กับเรื่องราวสยองขวัญ ภายในสถานศึกษาที่มีผลต่อวิถีชีวิตของนักเรียนนักศึกษา และ "เพื่อนเฮี้ยนโรงเรียนหลอน" ละครโทรทัศน์ สยองขวัญจบในตอน 13 ผลิตโดยค่าย GTH ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผีในสถานศึกษาได้อย่างน่ากลัวและมีเสน่ห์

Eeire มีวิธีการเล่าเรื่องเป็นแบบเรียบนิ่งออกไปทางช้า แต่ความช้าของหนังนั้นเป็นการค่อย ๆ ดึงอารมณ์ของคนดู ให้รับรู้ถึงบรรยากาศของความสยองขวัญที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ผู้กำกับสร้างความน่ากลัวให้กับนางได้ค่อนข้างดี มีการเล่นกับมุมกล้องที่ดี มีการเล่นกับกระจกเงา และเล่นกับความมืดเงียบ ได้ค่อนข้างดี หลายจุดหลอกเราว่าอาจจะมีผีโผล่ออกมาแต่กับไม่มีแต่พอจังหวะที่จะมีก็ใส่เสียงให้เราตกใจพร้อมไปด้วย การใส่เสียงในจังหวัดตกใจหลายคนอาจมองว่าเป็นจังหวะ "ตุ้งแช่" ซึ่งฝรั่งเรียกว่า "Jump scare" ผมมองว่าเรื่องนี้ให้จังหวะแบบนี้ค่อนข้างมาก หลายคนบอกว่าการใส่จังหวะแบบนี้มันเป็นการเล่าเรื่องหนังผีแบบโบราณไม่ค่อยมีชั้นเชิงนัก ซึ่งหนังผีสมัยใหม่หลอนคนดูโดยการทำให้เสียงเงียบมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่นบรรยากาศของหนังชุด Annabelle โดยส่วนตัวผมมองว่า หากหนังผีไม่มีจังหวะตกใจแบบนี้ ก็คงเสียเสน่ห์หนังผีไปเหมือนกัน มองโดยรวมแล้วหนังทำจุดนี้ออกมาได้ค่อนข้างดีพอสมควร

ส่วนบางจังหวะทำให้ผมรู้สึกว่าผู้กำกับ คงได้รับแรงบันดาลใจในฉากภาพยนตร์จาก the conjuring ของเจมส์ วาน ไม่มากก็น้อย

เรื่องราวการสืบสวนสอบสวนนั้นไม่ค่อยมีความซับซ้อนอะไรนะ แม้เป็นหนังที่จะมีการปกปิดความลับไว้เยอะแต่ความลับนั้นก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างง่ายดายจนเราแทบไม่ต้องคิดอะไรตาม

จุดหักเหของเรื่องก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย การลุ้นการเอาใจช่วยก็แทบจะไม่ค่อยมีอะไรมากมายนัก จะเรียกได้ว่าเป็นหนังผีที่มีความเรียบนิ่ง ก็ว่าได้เช่นกัน

หนังมีการใช้เสน่ห์ของเรื่องเล่าได้ค่อนข้างพอใช้ แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควรถ้าหากขยี้จุดเด่นของเรื่องเล่าได้มากกว่านี้หรืออย่างน้อยก็ให้เทียบเท่าเรื่อง "เด็กหอ" ของไทย Eerie ก็คงจะมีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าหนังผีสยองขวัญที่มีอยู่ระหว่างดาษเดือนบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้หนังยังมีการเสียดสี เรื่องราวของศาสนาที่มีหลักการสอนเรื่องของความรัก แต่ในบางแห่งบางที่ที่ดูเหมือนจะเคร่งครัดในหลักของศาสนาแต่กลับแต่ไม่ได้ความเกลียดชัง

กล่าวโดยสรุป Eerie (2019) สืบหลอนโรงเรียนเฮี้ยน เป็นหนังผีสัญชาติฟิลิปปินส์ ที่ทำบรรยากาศของความน่ากลัวสยองขวัญออกมาได้ค่อนข้างดี เป็นหนังผีที่ทำให้คนไทยดูแล้วเข้าใจได้ง่ายแม้จะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันก็ตาม แม้จะมีพล็อตเรื่องที่ไม่ได้ใหม่อะไรนักแต่อย่างน้อยก็สร้างความหลอนให้กับเราได้ไม่น้อย ซึ่งผมเองมองว่าประเทศไทยขาดหนังผีที่มีบรรยากาศแบบนี้มานานพอสมควรแล้ว