Dangerous Years | เด็กเสเพล
ประมาณปี 2520 ณ หมู่บ้านชายแดนแห่งหนึ่ง “เด็กเสเพล” เกิดการสู้รับระหว่างทหารกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ทำให้ครอบคัรวของครูศักดิ์ต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ สุนีผู้เป็นภรรยากับลูกสาวคนเล็กเสียชีวิต ส่วนสันตืลูกชายคนโตได้หนีรอดไปได้จากการช่วยเหลือของ ผิว คนรับใช้ แต่ครูศักดิ์นึกว่าสันต์ตายในสงครามแล้ว ส่วนผิวก็คิดว่าครูศักดิ์ตายแล้วเช่นกัน จึงนำสันต์ไปเลี้ยงดูและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นทิน ผิวเลี้ยงดูทินจนโตมาเป็นหนุ่ม แต่เพราะฐานะยากจนและไม่ได้เรียนหนังสือ ทินเริ่มคบกับพวกนักเลงอันธพาล วันหนึ่งทินวิ่งราวกระเป๋าผู้หญิงและหลบหนีตำรวจเข้าไปในโรงเรียนที่ครูศักดิ์สอนอยู่ เด็กเสเพล และครูได้ช่วยทินไว้ แต่ขอกระเป๋าคืน และอบรมทินให้กลับตัวเป็นคนดี แต่ทินก็จากไปอย่างไม่ใยดี ครั้งต่อมาทินถูกจับกุม และครูศักดิ์ไปประกันออกมา และรับตัวทินไว้อุปการะ เรียนต่อ แต่ครั้งนี้สายเกินไป
IMDB : tt3226608
คะแนน : 10
DANGEROUS YEARS หรือ เด็กเสเพลเป็นหนังไทยมาแรกที่ถูกฉายในปี 2539 เป็นเรื่องราวของ ทิน เด็กนักอนาคตดับที่ต้องทำงานรับใช้ให้แก๊งมาเฟีย เป็นหนังแนวสะท้อนสังคมที่หลายคนก็กังวลว่าจะเป็นเหมือนกันกับ 4King ในอยู่นี้แต่เด็กเสเพลกับทำออกมาแนว หนัง Drama มากกว่า แต่ดีที่ช่วงที่ทำหนังออกมาแรง ๆ ไม่มีอะไรมากเท่าไรเลยทำให้หนังถูกฉายได้ไม่มีปัญหา
ตัวหนังนั้นเคยเป็นนวนิยาย พนมเทียน (ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ) ที่ได้ลงไม้ลายปากกาสร้างหนังไทยสุดยอดแบบนี้ออกมา และถูกออกแบบแก้ใหม่โดยคุณ มารยาท ไทยวัฒนวิไล เพื่อตัดบางส่วนออกและทำให้ภาพยนตร์ที่จบภายในไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่จะถูกถ่ายทำโดย นพพร วาทิน ผู้กำกับเลื่องชื่อมากฝีมือแห่งยุค 90s ได้มาลงแรกกำกับเอง rพร้อมได้เปิดเผยด้านมืดของสังคมไทยในยุคนั้นให้ได้ แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากหนังเรื่องนี้คือทุการกระทำย่อมมีผลที่ตามมาแน่นอนแต่ไม่ว่าช้าหรือเร็วแค่นั้น
พล็อตเรื่องค่อนข้างหนักมากออกแนวดาร์กเลยก็ว่าได้เป็นหนังไม่กี่เรื่องที่ดูแล้วให้อารมณ์หดหู่ไปเลยมีฉากสะเทือนใจเยอะมากและตายสยองแบบคือต้องขอเลยว่าผุ้กำกับแกเข้าใจเล่นกับจิตใจมนุษย์จริง ๆ แต่ไม่นึกว่าเรื่องราวของเด็กช่างกลตกอับจะนำพาความวิบัติให้ชีวิตขนาดนี้บอกเลยว่าใครยังไม่ได้ดูไปลองดูซะนะสนุกมากเลยหลังจากฉายจบต๊ะ บอยสเก๊าท์ กลายเป็นขวัญใจเด็กช่างกลในยุคนั้นสมัยก่อนพวกช่างกลตีกันหนัก
และน่ากลัวกว่าสมัยนี้มาก ต๊ะกลายเป็นขวัญใจพวกนี้เด็กผู้ชายยุคนั้นจะต้องหาเชิ้ตสีดำ มาใส่ทับเสื้อยืดสีขาว กลายเป็นเทรนด์การแต่งตัวในช่วงนึงที่เด่นสุด ๆ คือเพลงประกอบภาพยนตร์ คล้ายกับเป็นเพลงชาติของเด็กวัยรุ่นที่แก่นๆในช่วงนั้นอารมณ์คล้ายๆเพลง เสียคน ของน้ำพุ ปี 2545 เลย บอกเลยว่า ช่วง 90s ถือเป็นยุคทองแห่งหนังแนวสะท้อนสังคมจริง ๆ
เรื่องย่อของหนัง เรื่องราวของ ทินหนุ่มวัยรุ่นที่ชะตาขีดไว้ให้เขาต้องเข้าสู่เส้นทางของเด็กเสเพล จากการต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ด้วยไฟสงครามยุคคอมมิวนิสต์เขาถูกช่วยเหลือโดยคนรับใช้ของบ้านและเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่โดยไม่รู้เลยว่าพ่อที่แท้จริงของเขายังมีชีวิตอยู่ด้วยความยากจนทำให้เด็กหนุ่มต้องก้าวเข้าไปสู่เส้นทางสีดำแม้เขาจะพยายามกลับตัวกี่ครั้งก็ตาม