Cradle 2 the Grave คู่อริ ถล่มยกเมือง
Li รับบทเป็น ซู เจ้าหน้าที่หน่วยราชการลับของเกาหลี ซูก็เดินทางมายังอเมริกาเพื่อตามล่า เพชรดำ ที่โดนขโมยไป แล้วพอสืบไปสืบมาก็พบว่าเพชรนั้นพอถึงอเมริกาก็ยังมาโดนขโมยซ้ำอีกโดย เฟท (DMX) หัวขโมยมือเยี่ยม แต่แล้วพอเรื่องดำเนินไปก็พลิกครับ กลายเป็นว่าสองคนต้องมาร่วมมือกันรับมือกับวายร้ายตัวจริงอย่าง หลิง (Mark Dacascos) ได้ปรากฎตัวขึ้นแล้วกะจะฮุบเพชรไว้พร้อมทั้งไล่ฆ่าพวกเขาทั้งสองปิดปากอีกต่างหาก งานนี้สายลับเกาหลีเลยต้องมาร่วมงานกับหัวขโมยผิวดำ
IMDB : tt0306685
คะแนน : 6
มาแวะหน่อยกับหนังแอ๊คชั่นอีกเรื่องของ พี่หลี่เหลียนเจี๋ย หรือ Jet Li ในช่วงที่ไปป้วนเปี้ยนไต่บันไดดาวที่ Hollywood น่ะนะครับ ซึ่งหนังโดยมากออกมาก็โอเค พอดูได้ แต่สไตล์มันก็เริ่มซ้ำ จนไปๆ มาๆ พี่ท่านชักจะเจริญรอยตามพี่ Steven Seagal ไปซะอีกแล้ว (ดีที่พี่ท่านไหวตัวกลับมาเอเซียทันนะเนี่ย)
ก็เป็นการกลับมาร่วมงานอีกครั้งระหว่าง Andrzej Bartkowiak ผู้กำกับจาก Romeo Must Die และ Exit Wounds น่ะครับ แล้วเขาก็จัดการจับเอาสองดาราจากหนังแต่ละเรื่องมาเจอกัน พี่ Jet Li ของเราก็จาก Romeo Must Die มาเจอกับ DMX จาก Exit Wounds ซึ่งงานของแกก็ยังเป็นสไตล์เดิมครับ นั่นคือเป็นหนังแอ๊คชั่น บู๊แบบกังฟูผสมฮิปฮ๊อพ
ยอมรับครับว่าผมเฉยกับหนังเรื่องนี้มาก เพราะตามดูงานสองเรื่องที่แล้วของผู้กำกับ Bartkowiak มาหมด แล้วก็พบว่าหนังเรื่องนี้มันแทบจะก๊อปเอาสไตล์ เรื่องราว และแอ๊คชั่นของสองเรื่องก่อนมาเกือบหมดเลยครับ พี่ Li ก็แทบไม่ต่างจากบทโรมิโอ ส่วน DMX ก็เหมือนใน Exit Wounds มากๆ ประมาณว่าตอนแรกเขาดูเหมือนจะเป็นตัวร้ายก่อนครับ แล้วซักพักหนังก็จะค่อยๆ ทำเราเห็นในอีกมุมของเขา แล้วก็กลายมาเป็นพวกพระเอกไป
ถ้าท่านๆ ไม่เคยดูสองเรื่องนั้นมาก่อนอาจจะพอทำเนาน่ะครับ แต่ถ้าเคยดูแล้วผมว่าไม่มีอะไรแปลกเลยนะ ฉากบู๊ก็เหมือนเคย เรื่องราวนี่โคตรจะได้กลิ่นกระดาษก๊อปปี้เลยครับ หนังพี่แกจะเน้นที่ฉากบู๊แบบไล่ล่ามากกว่า ไม่มีฉากบู๊ที่อลังการเท่าไหร่ครับ ออกมาแบบสู้มือเปล่าเป็นหลัก ไอ้ประเภทบุกฐานทัพแล้วยับยั้งระเบิดแบบเจมส์ บอนด์น่ะไม่มีหรอก ซึ่งไปๆ มาๆ นอกจากมันจะไม่ใหม่แล้วมันยังค่อนข้างจะไปคล้ายกับหนังเกรดบีสารพัดเรื่องที่ทำออกมาเพียบไปหมด
นั่นล่ะครับจุดด้อยใหญ่ๆ ของหนังเรื่องนี้ มันซ้ำๆ แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็ยังโอเคน่ะ พอดูได้เพลินๆ สำหรับคอแอ๊คชั่นที่ไม่คำนึงถึงเหตุผลและไม่ต้องการใช้สมองเลยน่ะนะครับ คือถ้าว่ากันในจุดนั้นก็พอจะบอกได้ว่าเข้าท่ากว่าสองเรื่องก่อนของ Bartkowiak อยู่บ้าง ดูแบบเอามันส์อย่างเดียวเลยน่ะ อย่างน้อยก็ยังมีสองตัวบ้าอย่าง Anthony Anderson กับ Tom Arnold มาร่วมสร้างเสียงฮาได้บ้าง ถ้าใครเคยดูหนังสองเรื่องก่อนของ Bartkowiak คงฮาล่ะครับ ยิ่งตอนจบนี่กัดหนังพวกนั้นแบบเต็มๆ เลยล่ะ
แต่ดาราที่ออกมาน่าเสียดายมากๆ คือ Kelly Hu ที่เห็นแต่หน้า แต่ไม่มีบทเลย ออกมาบู๊อย่างเดียว จนผมว่าไปจ้างคนอื่นมาก็ได้ครับ ประหยัดเงินดี ในขณะที่ Gabrielle Union ยังมีบทมากกว่าและมีโอกาสได้เซ็กซี่มากกว่าเยอะอ้ะครับ เฮ่อ แต่ผมติดใจ Hu มากกว่าอ้ะ เฮ่อ ไม่ได้อย่างใจเล้ย
ก็เป็นหนังอ๊คชั่นทั่วไปนะครับ ไม่ดูก็ไม่เสียหายอะไร แต่อยากดูเพลินๆ หรือชอบหนังสองเรื่องก่อนที่ผมว่านั่นก็พอดูเรื่องได้ครับ ไม่น่าจะผิดหวังหรอก เพราะหวังยังไงก็ได้อย่างนั้นอยู่แล้ว