ค้นหาหนัง

Constantine คนพิฆาตผี

Constantine คนพิฆาตผี
เรื่องย่อ : Constantine คนพิฆาตผี

จอห์น คอนสแตนติน เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่ตัวเองไม่ต้องการ กับความสามารถที่จะจำแนกเหล่าเทวดา และปีศาจลูกครึ่ง ที่ปลอมตัวมาเป็นมนุษย์เดินดิน เขาถูกกดดันให้คร่าชีวิตตัวเอง เพื่อหนีให้พ้นจากความทุกข์ทรมาณ แต่สุดท้ายเขาต้องมาต่อกรบรรดาสมุนแห่งปีศาจที่รุกรานโลกต้องมาไล่ปราบผี กระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบ ตำรวจหญิง แอนเจลา ดอดสัน ที่มาขอความช่วยเหลือจากเขา ในการไขคดีฆาตกรรมลึกลับของน้องสาวฝาแฝดของเธอ การสืบสวนของพวกเขา ได้นำพาไปยังทั้งโลกแห่งความชั่วร้ายและเทพยดา ทั้งสองจึงต้องพัวพันอย่างหาทางออกไม่ได้

IMDB : tt0360486

คะแนน : 7



ครับกับหนังเรื่องนี้ คอนสแตนตินติโนเปิล (ผมชอบเรียกชื่อนี้อ้า ฮ่าๆๆๆ) ได้ดูกันหมดแล้วมั้งครับ ฟอร์มออกจะใหญ่ พี่ Keanu Reeves แสดงนำ เอาเถอะคับ ยังไงก็ต้องขอพูดซะหน่อยล่ะ

จอห์น คอนสแตนติน (Reeves) คือนักล่าผีครับ มีหน้าที่รับมือกับปีศาจทุกชนิดที่กระทำชั่ว แล้วแน่ล่ะครับ ในเรื่องเขาไม่ได้ล่าผีธรรมดาแน่ แต่เขาจะล่าใครหรือตัวอะไร อันนี้ก็ดูเองแล้วกันครับ

หนังสร้างจากการ์ตูน Hellblazer นะครับ น่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ในเรื่องนั้นบรรยากาศคล้าย The Crow เลยครับ ทึมๆ อับๆ มืดๆ ดูจบออกมาแล้วเหนียวตัวยังไงก็ไม่ทราบ อึดอัดใช้ได้เลยฮะ และตัวหนังเองจะว่าไปก็เครียดพอสมควร ซึ่งถือว่าแปลกใหม่ใช้ได้ ไม่ได้ทีเล่นทีจริงแบบพวก Buffy หรือ Angel อะไรเทือกนั้น ทำให้มีความเป็นตัวเองพอสมควร

พี่ Keanu แกก็เหมือนเดิมน่ะคับ หน้าตาไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรมากมาย แต่ก็เข้ากับบทนี้อยู่เหมือนกัน เพระา คอนสแตนตินแกต้องนิ่งๆ ซังกะตายและกวนบาทา ซึ่งก็พอไหวนะครับ ส่วน Rachel Weisz ก็สวยดีอ้ะ บทนางเอก ผมว่าก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่คนที่เล่นได้เจ๋งๆ นี่ต้องยกให้ Shia LaBeouf ที่เป็น เชส เครเมอร์ ไอ้หนุ่มที่ขับแท๊กซี่นั่นแหละครับ เป็นตัวละครที่เจ๋งมาอีกตัว Tilda Swinton ก็มาเป็นเกเบรียลได้เข้าท่าอีกคน แต่เหนืออื่นใด ในบรรดาเทวาและซาตานทั้งหมด ต้องพี่ Peter Stormare ครับ เล่นเป็นใครไปดูเอง แต่บอกได้เลยว่า เหมาะกับบทนี้สุดๆ (คนที่มารับตัวคอนสแตนตินในช่วงท้ายไงล่ะครับ)

บรรยากาศหนังทึมดี ผมไม่ได้กลัวอะไรมากนะครับ แต่เจ๊ที่ไปดูด้วยนี่เธอบอกว่าเกร็งตลอดทั้งเรื่อง (มีการเอาเล็บจิกตัวเองด้วยครับ ขนาดนั้นเลยคิดดู) ซึ่งหนังมันก็เครียดประมาณหนึ่งล่ะคับ แต่ก็เพิ่งมานึกได้ว่าเส้นผมมันเหมือนชาวบ้านที่ไหนเล่า ดังนั้นหากตัดความเป็นโรคจิตส่วนตัวออกไป หนังก็ทำได้น่าเกร็งพอควรล่ะครับ (ขนาดยัยนั่นยังเกร็งได้ ผมว่ามันก็ต้องถึงพอควรล่ะน่า)

แต่หนังยัง พร่องไปหน่อย ในส่วนของเนื้อเรื่องครับ นั่นคือ การดึงคนดูให้จมลึกไปสู่โลกของหนัง ผมว่ายังทำตรงนี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่ อย่าง The Matrix เงี้ย ตอนแรกก็มางงๆ ครับ ซักพักบทหนังจะค่อย ๆ อธิบายส่วนต่างๆ ว่าตรงไหนคืออะไร แต่กับเรื่องนี้หนังไม่ค่อยบอกอะไรมาก (อาจเป็นกุศโลบายให้เราๆ ไปหาการ์ตูนอ่านกันเองน่ะครับ) ทำให้แม้จะเกร็งๆ แต่ก็ไม่สุด อารมณ์ร่วมแม้มีมาก แต่ก็ไม่ถึงจุดที่ควรจะเป็นเท่าไหร่ ก็น่าเสียดายเล็กๆ ครับ เพราะถ้าตรงนี้ทำได้ดี ช่วงท้ายจะสุดตีนกว่านี้เยอะ

ผม ชอบช่วงท้ายนะ แม้มันจะไม่ได้ตีกันอลังการก็ตาม แต่มันถือว่าถูกต้องตามแบบที่ควรจะเป็นน่ะครับ นั่นคือ ตีกันทีก็สวดมนต์กันอย่างเดียว ไม่ได้ยิงพลังดัชนีหรือปั้นมังกรกันแบบ 8 เทพ เพราะเรื่องพวกนี้มันแทรกแนวคิดทางศาสนาไปไม่น้อย ไอ้เรื่องไปเกิดใหม่ การเสียสละ อะไรทำนองนี้ ยอมรับเลยครับว่าหนังคงไว้ค่อนข้างครบถ้วน

ดัง นั้นสำหรับผม ความมันส์ ไม่ใช่ตอนตีกันครับ ความมันส์มันอยู่ตรงที่ลูกเล่นแนวคิดทางศาสนานั่นแหละ เช่น ฆ่าตัวตายจะไม่ได้ไปสวรรค์ หรือหากสวดปีศาจโดนสวดส่งวิญญาณแล้วก็จะถูกส่งไปสวรรค์ลูกเดียว เรื่องพวกนี้ถ้าใครรับทันพาลจะฮาเสียด้วยซ้ำ ยิ่งไอ้ตอนที่คอนสแตนตินขู่บัลธาซาร์ (Gavin Rossdale) ว่า ถ้าไม่บอกจะสวดให้ไปสวรรค์นี่ยิ่งสะใจครับ

สรุปว่าหนังเรื่องนี้ ไม่ได้มันส์ทางแอ๊คชั่นครับ มันเข้มทางบรรยากาศ และสนุกตรงลูกเล่นแนวคิดทางศาสนาคริสต์นี่แหละ

ชัดแล้วนะครับไม่ได้บู๊มันส์ แต่เข้มข้นซะละมากกว่า