Colonia

เอ็มม่า วัตสัน น่าสนใจมากในบท เลน่า เธอคือตัวเดินเรื่องหลักที่โดดเด่น สลัดคราบแม่มดน้อยไปจนหมด กลายเป็นหญิงสาวเต็มตัว เอ็มม่า ไปไกลกว่าเพื่อนนักแสดงแฮรี่พอตเตอร์คนอื่นๆ เนื่องจากมีโอกาสในการรับบทที่หลากหลาย ต่อเนื่อง ขณะที่ แดเนียล บรูห์ล กับบท แดเนียล ก็ทำได้ดี ถึงช่วงแรกลุคหนุ่มผมยาวอาจดูขัดหูขัดตาไปบ้าง แต่ช่วงที่อยู่ใน โคโลเนีย มีหลายฉากที่เขาโชว์พลังทางการแสดงออกมา ด้าน ไมเคิล นีควิสต์ น่าประทับใจที่สุด การเล่นเป็นตาแก่โรคจิต พอล เชฟเฟอร์ ของเขาดูสมจริงมากๆ โกนหนวดแล้วเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ (เจ้าพ่อในหนัง John Wick) ขาด ไมเคิล ไปหนังคงจืดชืดลงเยอะ

ภาพรวม Colonia ดูสนุกทีเดียว เหมาะกับผู้ที่ชอบแนวระทึกขวัญ แม้จะออกโทนตรึงเครียด กดดัน แต่พล็อดน่าติดตาม ได้อารมณ์ตื่นเต้น ลุ้นระทึก เอาใจช่วยตัวละครคล้ายกับหนังแนวเดียวกันอย่าง Argo เน้นตีแผ่ปัญหา-ความโหดร้ายทางการเมืองกับสังคมในประวัติศาสตร์ชิลีได้สะเทือนใจ ส่วนพาร์ทดราม่าการหนีตายเอาชีวิตรอดและความรักของ เลน่า กับ แดเนียล ก็ทำออกมาได้เข้มข้น

เรื่องราวทั้งหมดในหนังควรได้รับการเผยแพร่ในวงกว้าง แง่ของการใช้เป็นบทเรียน ไม่ใช่เพื่อตอกยํ้า แต่เราไม่ควรหลงลืม หรือช่วยกันปิดบังอำพราง เพื่อที่สิ่งเลวร้ายเหล่านี้จะได้ไม่เกิดขึ้นอีก บางคนอาจคิดว่าเหตุการณ์ใน โคโลเนีย เบากว่า ค่ายกักกันนาซี กับ เขมรแดง หลายเท่า มีผู้เสียชีวิตน้อยกว่าเยอะ ทว่าเมื่อมองให้ลึก สิ่งที่น่าสลดกว่าคือ โคโลเนีย เป็นองค์กรทรงอิทธิพล รํ่ารวย น่าเลื่อมใส ของชิลีมายาวนานเกิน30ปี แถมได้รับการสนับสนุน คุ้มครองจากรัฐบาล เคยถูกเปิดโปง แต่ก็แทบไม่มีใครต้องรับโทษ พวกเขาจึงทำผิดกฏหมาย ผิดศีลธรรม แบบโจ่งแจ้ง (ในสภาวะบ้านเมืองเกือบปกติ ที่ไม่ใช่ช่วงสงคราม) ได้โดยไม่แคร์สายตาผู้ใดทั้งสิ้น มีอิสระในการจัดการกับคนที่คิดต่าง ท่ามกลางการรู้เห็นของเจ้าหน้าที่มากมาย จนถึงตอนนี้จึงยังไม่มีใครทราบตัวเลขที่แน่ชัดของเหยื่อที่เสียชีวิตในค่ายกักกันดังกล่าว