IMDB : tt0104145
คะแนน : 7
Casino Tycoon เป็นหนังมาเฟียของหลิวเต๋อหัว อีกเรื่องในยุค 90s ที่เล่าเรื่องธุรกิจการพนันของมาเก๊า หนังเป็นผลงานการสร้างของ หวังจิง เจ้าพ่อหนังตลาดแห่งฮ่องกง ที่ประสบความสำเร็จไปพอสมควร และสร้างออกมาถึง 2 ภาคด้วยกัน
จากข้อมูล Casino Tycoon เป็นหนังที่ัดัดแปลงมาจากชีวิตประวัติของ เจ้าพ่อบ่อนการพนัน ที่ชื่อว่า สแตนลี่ โห ชายที่ผูกขาดธุกรกิจคาสิโนมาเก๊า มายาวนานกว่า 30 ปี ที่ทำให้ตระกูลโหของเขา กลายเป็นที่จุดเด่น ที่ถูกจับตามอง ของประชาชน และปรากฏชื่ออยู่บนหัวข้อข่าว แวดวงซุบซิบของฮ่องกงมาโดยตลอด ทั้ง ลูกชาย และลูกสาว 17 คน จากภรรยา 4 คน ของเขา ก็กลายเป็นคนดังโดยไม่ต้องเรียกร้องไปโดยปริยาย
ด้วยข้อมูลที่จำกัด จึงไม่สามารถหาหลักฐานใดๆ ได้ว่า ชีวิต สแตนลี่ โห นั้นมีความ โลดโผนโจนทยาน อย่างในหนังเล่ารึเปล่า แต่สิ่งที่หลายแหล่งข่าวลือตรงกันเกี่ยวกับตัวของ สแตนลี่ โห ก็คือ ความเชื่อมโยงกันระหว่างเขา กับบรรดาแก๊งมาเฟียฮ่องกง ก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นน่าจะเรียกว่า่ Casino Tycoon เป็นชีวประวัติแบบไม่เป็นทางการของ สแตนลี่ โห ก็คงจะเหมาะสมกว่า
Casino Tycoon เปิดเรื่องด้วยการฉาย ทัศนียภาพของ มาเก๊า ตึกสูงใหญ่ทันสมัยที่ปะปนไปด้วย อาคารโบราณแบบสถาบัตยกรรมยุโรป ที่ได้มาจากการเป็นเมืองขึ้น ของโปรตุเกสมายาวนาน หลิวเต๋อหัว ปรากฏกายในหนังด้วย สภาพภูมิฐาน ใบหน้าดูแตกต่างไปเพราะแสดงออกถึงความชรา (จากการแต่งหน้า) แล้วหนังก็พาเราย้อนเวลาไปก่อนหน้านั้นหลายสิบปี
โหเซิน เป็นลูกชายคนตระกูลผู้ทรงอิทธิพลในฮ่องกง เกิดมาท่ามกลางชีวิตอันสุขสบาย ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายลงด้วย การเสียชีวิตของพ่อ ที่ฆ่าตัวตายจากความล้มเหลวทางธุรกิจ จากบ้านใหญ่โตมีคนรับใช้ ก็ต้องเปลี่ยนไปอยู่อย่างยากไร้ ในบ้านรังหนู ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เด็กน้อย ก็สัญญากับตัวเองว่า เขาจะต้องกลับมาอยู่ในจุดเดิมให้ได้
เวลาผ่านไปสิบกว่าปี โหเซิน (หลิวเต๋อหัว) เติบโตกลายเป็นคนหนุ่มอนาคตไกล มีผลการเรียนดีเยี่ยมในมหาวิทยาลัยชั้นยอด เรียกว่ามีอนาคตสดใสรออยู่เบื้องหน้า
แต่เนื่องด้วยในขณะนั้น เป็นช่วงที่สถาณการณ์กำลังคุกรุ่นไปด้วยภัยสงคราม กองทัพญี่ปุ่นบุกเข้าสู่ฮ่องกง โหเซิน จึงตัดสินใจไปมาเก๊า และต้องตัดใจจากแม่ที่เริ่มชรา กับแฟนสาวคนสวย (หวังจู่เสียน) เพื่อหาความก้าวหน้า และอนาคตที่ดีกว่า
โหเซิน และเพื่อนซี้นาม อาหนาน (ว่านจื่อเหลียง) เริ่มต้นจากงานกรรมกรท่าเรือ ไต้เต้าสู่แก๊งมาเฟียเจ้าของบ่อนการพนัน หลังจากโชว์ฝีมือ และความใจถึงให้ เจ้าพ่อใหญ่แห่งมาเก๊าอย่าง ลุงฉา (กวนไห่เซิน) ได้เห็นโดยบังเอิญ
การมีความรู้ หัวไว และยังกล้าบ้าบิ่นทำงานเสี่องอันตราย ทำให้ ฐานะในแก๊งของ โหเซิน ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาถูกมองว่ามีความเหมาะสมในฐานะผู้สืบทอดธุรกิจคาสิโนคนใหม่ จนทำให้กลายเป็นเป้าโจมตี ของทั้งฝ่ายตรงกันข้าม และพวกพ้องเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ หวังจง (ฉินเผ่ย) สมุนผู้ไม่น่าไว้วางใจของลุงฉา และ เจียจุ่น ลูกชายหัวหน้าที่เริ่มหวั่นวิตก ถึงบทบาทของตัวเองในแก๊ง
จนกระทั่งเกิดการทรยศหักหลังขึ้นในแก๊ง สองคนทรยศ จุดฉาก ลักพาตัวลุงฉา โยนความผิดไปให้ โหเซิน และอาหนาน สุดท้ายต้องหลบหนีออกจากมาเก๊าไป ทั้งสองกลับไปตั้งรกรากที่ฮ่องกง และประสบความสำเร็จกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อถึงจุดหนึ่ง โหเซิน จึงตัดสินใจกลับไปมาเก๊าอีกครั้ง เพื่อแก้แค้นคนทั้งสอง และกลับไปยึดครองธุรกิจ คาสิโน กลับมาอย่างที่ควรจะเป็นเสียที
ขอพูดถึงความทรงจำส่วนตัวกันเล็กน้อยนะครับ ย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน Casino Tycoon ถือว่าเป็นความทรงจำต้นๆ ของผมกับหนังฮ่องกง นอกจากเป็นหนังของหลิวเต๋อหัว เรื่องที่สองที่ผมเองได้ดูใน โรง และเป็นหนังมาเฟียฮ่องกงเรื่องแรกที่ได้ดู ความรู้สึกในตอนรู้สึกว่าหนังสนุกแบบสุดยอด เอากลับมาดูใหม่นี่ก็ต้องยอมรับว่า ความรู้สึกต่อหนังนั้นเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร
Casino Tycoon เป็นหนังประเภท บล็อกบลาสเตอร์แบบฮ่องกงยุคเก่าโดยแท้ คือ พยายามรวบรวมจุดขาย หลายๆ อย่าง ไว้ในหนังเรื่องเดียว ดาราดังประชันบทบาท มีฉากเล่นไพ่ และการพนันแบบหนังคนตัดคน เรื่องราวรักสามเส้า ระหว่างสาวที่รักฝังใจ (หวังจู่เสียน) ที่กลับไปแต่งงานกับคนอื่น ส่วนพระเอกก็ต้อง แต่งงานกับผู้หญิงอีกคน เพราะพ่ายแพ้ต่อความดีของเธอ (ซิวซู่เจิน)
อย่างไรก็ตามประเด็นหลักของ Casino Tycoon ก็ยังคงอยู่ที่เรื่องราวนอกกฏหมาย การต่อสู้ดุเดือด และการชิงไหวชิงพริบในเชิงธุรกิจคาสิโน และในสงครามสกปรกของบรรดาหมู่แก๊งมาเฟียอิทธิพล ซึ่งหนังก็ทำออกมาสนุกตื่นเต้นน่าติดตามดี แต่อาจจะเป็นเป็นความมันแบบหนังฮ่องกงเก่าๆ ที่ความสมจริงค่อนข้างน้อย ภาษาหนังดูเชย และตกยุคนิดหน่อย ประเภทที่มีฉากที่แสดงความโหดเกินพิกัด และตลกแบบไม่ได้ตั้งใจก็มีให้เห็นกันเป็นระยะ (ยกตัวอย่างเช่น ฉากลูกฆ่าพ่อแม่ หรือนางเอกเหลืออดกับการถูกพี่สาวรังแก จึงตอบโตด้วยการหยิบไม้หน้าสามขึ้นมาฟาด ที่ดูแล้วก็น่าเหวอเหมือนกัน)
หนังถือว่าดูได้สนุกส่วนนึงก็เพราะว่า ความเหมาะสมลื่นไหลของ หลิวเต๋อหัว ที่ดูไปได้ดีกับบทประเภทนี้เหลือเกิน แม้จะต้องยอมรับว่าบท โหเซิน เจ้าพ่อแห่งคาซิโนมาเก๊าของเขาในเรื่องนี้ นั้นหาความแตกต่างจากบทประเภทเดียวกัน ในหนังอีกหลายสิบเรื่องได้ยากอยู่พอสมควร คนที่เด่นมากกว่ากลายเป็น ฉินเผ่ย กับบทตัวร้าย ที่แสดงความเลวแบบไร้มิติ ได้ดูมีสีสรรค์ดี
จุดเด่นที่ทำให้ั หนังเรื่องนี้ แตกต่างจากหนังแนวเดียวเรื่องอื่นๆ ก็คือ การเล่าเรื่องในลักษณะของ หนังอีพิค เป็นประวัติของชายคนหนึ่ง ผ่านช่วงเวลาอันยาวนาน เดินทางผ่านเรื่องราว และจุดเปลี่ยนสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เรื่องราวของ หนังถูกนำเข้าไปเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์สำคัญบางอย่าง ทั้งสงครามโลกครั้งที่สอง ความรุ่งเรื่องของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ผ่านเสียงบรรยาย เหมือนหนังสารคดี
Casino Tycoon จบลงด้วยชัยชนะของตัวเอก และทิ้งท้ายไว้ด้วยศัตรูคนใหม่ ให้ผู้ชมได้ติดตาม เรื่องต่อไปกันในภาคที่สอง
โดยรวมแล้วก็คือ ว่าเป็นงานที่ใช้ได้ แต่ถ้าเทียบกับงานในแนวเดียวกัน คือ หนังมาเฟียอิงประวัติศาสตร์ ก็ยังถือว่าเป็นรอง หนังที่ดังกว่าอย่าง เป๋ห่าวเป็นเจ้าพ่อ ซึ่งถ้าใครชอบหลิวเต๋อหัว ก็คงจะไม่ผิดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้นัก