Brokeback Mountain

Jack เป็นคนโรแมนติกช่างคิด ช่างฝัน และวางแผนให้ตัวเองและ Ennis ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกัน แต่ Ennis ไม่ใช่ เขาอยู่กับความเป็นจริง ถูกปลูกฝังว่ารักเพศเดียวกันนั้นผิดและต้องเจอจุดจบที่เลวร้าย เขาถึงหลบซ่อนอย่างขี้ขลาด แต่มองอีกมุมหนึ่งเขาก็ทุ่มเทให้กับครอบครัวมากกว่า Jack ที่โชคดีได้แต่งงานกับหญิงสาวตระกูลร่ำรวย ไม่ใช่แค่ทรยศกับภรรยา แต่ Jack ยังทรยศกับ Ennis ด้วย (ทั้งซื้อบริการ ทั้งชายหนุ่มที่เทกซัส ทั้งผู้หญิงอื่น ฯลฯ) Jack ไม่มีความอดทน และแทบไม่เห็นแง่มุมรักครอบครัวของ Jack ต่างจาก Ennis ที่ถึงแม้จะไม่ซื่อสัตย์กับภรรยา แต่ทุกอย่างบีบบังคับให้เขาทำงานบากบั่น และหลายครั้งก็ต้องปฏิเสธกระทั่งการได้ใช้เวลากับ Jack เพื่อหาเลี้ยงตนเองและครอบครัว

เจ็บปวด งดงาม ถ่ายทอดธรรมชาติของความรักไร้พรมแดนได้อย่างจริงแท้ คือสิ่งที่คนดูสัมผัสได้ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง 14 นาทีที่ได้รับชม หนึ่งในภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวของกลุ่ม LGBTQ ได้อย่างประทับใจที่สุดตั้งแต่ยุคที่เรายังไม่ได้เห็นเรื่องเหล่านี้บนจอภาพยนตร์เท่าไรนัก 

Brokeback Mountain เข้าฉายอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2005 นำแสดงโดย ฮีธ เลดเจอร์ และเจค จิลเลนฮาล ในวันที่ยังเป็นสองนักแสดงดาวรุ่งหล่อเหลา มากความสามารถ และอนาคตไกล ร่วมกับอีกสองนักแสดงสาวคุณภาพไม่แพ้กันทั้ง แอนน์ แฮทธาเวย์ และมิเชลล์ วิลเลียมส์

โดยได้ อั้งลี่ ผู้กำกับชาวไต้หวันที่ได้รับการยอมรับในระดับฮอลลีวูด (Sense and Sensibility, Crouching Tiger, Hidden Dragon, Hulk) มาเป็นคนเล่าเรื่องราวความรักของสองคาวบอยหนุ่มที่เริ่มสานสัมพันธ์และปลูกต้นรักอันสวยงาม โดยให้ร่มเงาของภูเขาโบรกแบ็กอำพรางความลับไม่ให้คนรู้ 

กระทั่งทั้งคู่เติบโตขึ้น แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตแต่งงาน มีครอบครัวตามที่สังคม ‘ปกติ’ ยอมรับ หากแต่ลึกๆ ในใจของพวกเขายังไม่เคยลืมความรักเมื่อครั้งก่อน และยังคงกัดกร่อนหลอกหลอนอยู่ในซอกลึกของหัวใจ แม้ในวันที่กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ในครั้งนี้ความสัมพันธ์แสนสวยงามแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวด เมื่อภูเขาโบรกแบ็กไม่อาจช่วยอำพรางความรักของทั้งคู่ได้อีกต่อไป

Brokeback Mountain กวาดรายได้ทั่วโลกไปอย่างสวยงามกว่า 178.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับคำชื่นชมอย่างมากที่สามารถถ่ายทอดความรักของ LGBTQ ที่ยังไม่เปิดกว้างในขณะนั้นได้อย่างงดงาม เป็นธรรมชาติ และยังตั้งคำถามสะท้อนสังคม ณ ตอนนั้นได้อย่างน่าสนใจ

การแสดงที่ทั้งสวยงามและเศร้าสร้อย ทำให้ ฮีธ เลดเจอร์ และเจค จิลเลนฮาล ได้เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำชายและนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งคู่ และส่งให้ Brokeback Mountain กลายเป็นหนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 8 สาขา โดยชนะมาได้ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบยอดเยี่ยม รวมทั้งถูกคัดเลือกให้ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในหอสมุดรัฐสภาโดย National Film Registry