ค้นหาหนัง

Bright | ไบรท์

Bright | ไบรท์
เรื่องย่อ : Bright | ไบรท์

หลังถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส ดาร์ริล วอร์ด (วิล สมิธ) จำใจต้องทำงานกับ นิค จาโคบี (โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน) ตำรวจเผ่าออร์คนอกคอกที่ถูกกล่าวหาว่าปล่อยคนร้ายเผ่าพันธุ์ตนเองหนีไป และท่ามกลางวิกฤติศรัทธานั้นทั้งคู่จำเป็นต้องร่วมมือกันปกป้อง ทิกก้า (ลูซี่ ฟราย) และไม้กายสิทธิของเธอจาก เลย์ลาห์ (นูมิ ราพาซ) ปีศาจเอลฟ์ที่หวังใช้ไม้กายสิทธิปลุกชีพเจ้าแห่งความมืดให้กลับมาครองโลก

IMDB : tt5519340

คะแนน : 8



ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หนังบล็อกซ์บัสเตอร์ เข้าฉายตามโรงภาพยนตร์ตามปกติ แต่คุณภาพและขนาดของหนังก็ยิ่งใหญ่สมราคาคุย โปรดักชั่นต่างๆ เป็นหนังแอคชั่นทุนสูง "เดวิด เอเยอร์" ซึ่งทำหน้าที่ในการกำกับหนังเรื่องนี้ยังคงลายเซ็นเอาไว้ชัดเจน เห็นได้จากงานภาพ โทนสี หรือแม้แต่จังหวะจะโคน ยังมีกลิ่นอายมาจากผลงานเรื่องก่อนจากค่ายดีซีคอมิกส์

"วิล สมิธ" กับ "โจล เอ็ดเกอร์ตัน" เป็นคู่หูที่มีเคมีลงตัวกันอย่างเถียงไม่ได้ โดยเฉพาะรายหลังที่แปลงโฉมกลายเป็นออร์ค พร้อมให้การแสดงเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่มนุษย์ได้อย่างลงตัว สร้างอารมณ์ขันและถ่ายทอดความดราม่าได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ วิล ดูเหมือนจะมารับบทเป็นคู่หูตำรวจคู่หูอีกแล้ว ความช่ำชองทำให้การแสดงดูลื่นไหลดี แต่น่าเสียดายที่ไม่บทใหม่ๆ สำหรับเขาเลย

กลับมาเป็นตัวร้ายสุดแสบอีกครั้ง "นูมิ ราเพช" ที่รับบทเป็นเอลฟ์สาวอำมหิต มิติของบทบาทไม่มีอะไรมากนัก แต่น่าทึ่งกับการดีไซน์การแสดงในแบบฉบับส่วนตัวของเธอ ราเพชยังทำได้ดีในฉากบู๊แอคชั่น ดูแตกต่างจากหนังบู๊เรื่องก่อนๆ ของเธอ แม้จะไม่ใช่บทบาทที่ดีที่สุดก็ตาม

อีกคนที่ขโมยซีนได้อยู่ไม่น้อย "ลูซี ฟราย" เป็นเอลฟ์สาวที่หลบเลี่ยงจากภัยอันตราย การแสดงของเธอค่อนข้างน่าสนใจ ถึงจะไม่ใช่บทบาทที่โดดเด่นอะไร แต่ก็ถ่ายทอดออกมาได้น่าติดตาม เธอสามารถขับเสน่ห์ของตัวละครออกมาได้ แม้จะยังเป็นดาวรุ่งในวงการการแสดง แต่เชื่อว่าผลงานจากเรื่องนี้จะทำให้เธอมีแฟนๆ เพิ่มขึ้นแน่

คอนเซ็ปต์และโครงการของหนังค่อนข้างน่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่ตัวของบทหนังมีเจอปัญหา โดยเฉพาะการเล่าเรื่องที่ขาดความสดใหม่และสอดแทรกบทตลกๆ ที่ต้องใช้ทักษะและชั่วโมงบินของนักแสดงล้วนๆ "แม็กซ์ แดนดิส" ผู้ช่ำชองงานเขียนบทหนังนอกกระแสและมีเอกลักษณ์ แต่เลือกเขียนบทเรื่องนี้ส่งให้ เอเยอร์ กำกับโดยเฉพาะ

ต้องยอมรับว่าในส่วนของความคิดสร้างสรรค์ที่ตีความออกมาเป็นบทค่อนข้างน่าประทับใจ สอดแทรกตัวละครจากเทพนิยายกับมนุษย์ได้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อสรุปกลายเป็นประเด็นหลักของหนัง ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเพียงสูตรสำเร็จ ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่ต่างกับเล่นวิดีโอเกมผ่านด่านต่างๆ แต่ฉากแอคชั่นที่อัดแน่นมากมาย น่าจะถูกใจคอหนังบู๊เลยทีเดียว

แต่ในการนำเสนอของหนังยังสอดแทรกข้อคิดและปัญหาสังคมปัจจุบันเอาได้ดี นับเป็นข้อถือของหนังที่เลือกสะท้อนเรื่องนี้ออกมาได้อย่างกลมกล่อม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ, ความแบ่งแยกขัดแย้งของประชาชนกับตำรวจ หรือปัญหาการกลั่นแกล้งทางสังคมที่ระบาดหนักอยู่ในสังคมโลก

ทางด้านงานสร้างยังคงตรงตามมาตรฐานแบบฉบับของเอเยอร์ เขาเลือกใช้ฉากหลังเป็นนครลอสแอนเจลิส ที่หลากหลายไปด้วยวัฒนธรรมและเชื้อชาติ โปรดักชั่นต่างๆ ทำออกมาได้ลงตัว ลักษณะเดียวกับหนังตามโรงภาพยนตร์ทั่วไป อีกส่วนที่โดดเด่นคือเมคอัพ-คอสตูม รวมทั้งกราฟฟิกดีไซน์ที่สร้างสรรค์สิ่งมีชีวิตพิศวงออกมาได้อย่างกลมกลืน

เพลงจากหนังเรื่องนี้ก็สร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี การใส่เพลงสอดแทรกเข้าไปฉากต่างๆ ดูมีความความคล้ายจากเรื่อง Suicide Sqaud อยู่ไม่น้อย เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีเพลงซาวน์แทรกดีๆ ที่เน้นเนื้อหาที่หนักแน่นและสะท้อนปัญหาสังคม

Bright เป็นหนังแอคชั่นแฟนตาซีที่มีโดดเด่นเรื่องแนวคิดและความสร้างสรรค์ แต่ยังถ่ายทอดออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก หลายส่วนดูเป็นเพียงหนังสูตรสำเร็จที่ควรจะเป็น แต่ก็สามารถบดขยี้ประเด็นสังคมได้อย่างกินใจ การแสดงของทีมนักแสดงเกือบ 2 ชั่วโมงยังไม่ได้ให้ความสดใหม่ใดๆ แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการผูกเรื่องและเสริมแต่งแนวคิดใหม่ๆ สามารถนำไปต่อยอดได้อีก

และถึงแม้หนังเรื่องจะแอบแบกรับความกดดันอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นหนังออนไลน์จากทาง Netflix แต่ต้องยอมรับว่าวงการภาพยนตร์ต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลง หนังบ็อกซ์บัสเตอร์ในอนาคตไม่ได้ฉายแค่เพียงในโรงภาพยนตร์อีกต่อไป การได้เห็นความกล้าลงทุนทุ่มทุนสร้าง โดยไม่ได้คาดหวังเงินจากตารางบ็อกซ์ออฟฟิศ Bright น่าจะเป็นตัวอย่างของหนังที่ดีของหนังฟอร์มยักษ์ในช่วงทศวรรษต่อไป