IMDB : tt7713068
คะแนน : 7
นับเป็นการวางเดิมพันก้อนใหญ่อีกครั้งก็ว่าได้ของ วอร์นเนอร์ บราเธอร์ ที่กล้าเอาผู้กำกับหญิงชาวจีนที่เพิ่งผ่านหนังใหญ่มาเพียงเรื่องเดียวอย่าง เคธี ยาน ที่เคยมีงานดรามา คอมเมดี้ สะท้อนการเมืองอย่าง Dead Pigs เป็นเครคิตกำกับหนังยาวเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น แต่กลับแสดงวิสัยทัศน์ให้ตัวละครหญิงในโลกดีซีได้มาเจอกันภายใต้สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานได้ดีกว่า Suicide Squad เสียอีก และที่สำคัญคือทั้งผู้กำกับและวอร์นเนอร์เองก็ดูจะมั่นใจในเรต R มากขึ้นหลัง Joker ประสบความสำเร็จชนิดถล่มทลายทั้งรายได้และเวทีรางวัล ดังนั้นการผจญภัยคราวนี้ของ ฮาร์ลีย์ ควินน์ และผองเพื่อนจึงเต็มไปด้วยความรุนแรง คำพูดหยาบคาย มุกตลกที่เล่นเรื่องเพศ ช่วยขับเน้นชีวิตภายใต้อิทธิพลมืดในเมืองโสมมอย่างก็อตแธมด้วยน้ำเสียงเฟมินิสต์สุดข้นคลั่กทว่ากลมกล่อมไปกับการเป็นหนังแอ็กชันจากคอมิกได้อย่างกลมกล่อมทีเดียว
ส่วนหนึ่งในความดีความชอบของหนังคงต้องยกให้บทของ คริสตีนา ฮอดสัน ที่เคยเขียน Bumblebee มาบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของฮาร์ลีย์ ควินน์ เพราะการที่หนังเลือกมีตัวละครเยอะขนาดนี้การจัดการกับข้อมูลที่ต้องบอกเล่ากับคนดูไม่ใช่เรื่องง่าย และการใช้ฮาร์ลีย์ ควินน์ เป็นเหมือนพิธีกรในโชว์ที่พาเราไปรู้จักตัวละครอื่น ๆ ก็ชาญฉลาดไม่น้อย โดยในขณะที่เหตุการณ์ดำเนินอยู่หนังก็เลือกฟรีซเฟรมหยุดภาพแล้วเอาเสียงบรรยาฮาร์ลีย์ ควินน์ มาบอกเล่าที่มาของแต่ละคน ซึ่งอย่างที่รู้กันดีว่าตัวละครในโลกของดีซี มักมีชะตากรรมบัดซบกันแทบทุกคน และแม้ว่าจะติดขัดกับการที่มักมีเส้นเรื่องของหลายตัวละครจนทำให้ไม่มีเส้นเรื่องของใครเด่นขึ้นมาให้เกาะนัก แต่กับของยากอย่างการที่ต้องเอาตัวละครสาวแกร่งมาเจอกันคราวนี้กลับเต็มไปด้วยสีสัน มีทั้งอารมณ์ขัน ฉากบู๊ตื่นตา และดรามาที่ดันไปเข้ากระแส Me Too พอดี
เรียกได้ว่า Birds of Prey ครบเครื่องมากทั้งการเป็นหนังแอ็กชันสุดมันส์ เปี่ยมอารมณ์ขัน และเล่นกับประเด็น Me Too ได้อย่างกล้าหาญ ตัวหนังเล่าเรื่องเปี่ยมลีลาสุดกวนตั้งแต่ยันฉากท้าย เอนด์เครดิต ที่แนะนำให้ดูมากครับ ดาเมจนี่ฉากท้ายเครดิตของหนังมาร์เวลชิดซ้ายไปเลย