Beverly Hills Cop III | โปลิศจับตำรวจ 3
วันหนึ่งในดีทรอยต์ ในขณะที่เกิดเหตุยิงกันที่อู่ซ่อมรถผิดกฎหมายแห่งหนึ่ง นักสืบแอ็กเซล โฟลีย์ (เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่) ได้เห็นสารวัตดักลาส ทอดด์ (กิลเบิร์ต อาร์. ฮิล), เจ้านายของเขาถูกยิงเสียชีวิตกับตาโดยมือปืนคนหนึ่ง ด้วยลมหายใจสุดท้าย ทอดด์สั่งเสียให้หาตัวคนที่ยิงเขาให้ได้ แอ็กเซลก็พร้อมที่จะทำเพื่อแก้แค้นให้หัวหน้าของเขา ต่อมาแอ็กเซลก็เริ่มสืบหาเบาะแสต่างๆ จนพบว่ารถที่คนร้ายใช้ขับหลบหนีไปนั้นไปจอดอยู่ที่สวนสนุกวอนเดอร์เวิล์ด ที่เบเวอร์ลี่ย์ ฮิลส์, แคลิฟอร์เนียร์ ที่นั่นเองที่แอ็กเซลได้พบกับเพื่อนเก่าอย่างบิลลี่ โรสวู้ด (จัดจ์ ไรห์โนลด์) ผู้ซึ่งบอกกับแอ็กเซลว่าตอนนี้จอห์น แท็กการ์ต ได้เกษียณไปแล้วและอยู่ที่รัฐแอริโซน่า ตอนนี้โรสวู้ดได้เป็นรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการแห่งกองบัญชาการร่วมของกรมตำรวจ (DDOJSIOC:Deputy Director of Operations for Joint Systems Interdepartmental Operational Command) และตอนนี้เองที่บิลลี่ได้แนะนำให้แอ็กเซลได้รู้จักกับคู่หูคนใหม่ชื่อ จอน ฟลินต์ (เฮคเตอร์ เอลิซอนโด) ต่อมาแอ็กเซล เดินทางไปตรวจสอบที่สวนสนุกวอนเดอร์ เวิล์ด ซึ่งบริหารโดยเจ้าของนามว่า เดฟ อังเคิลเดฟ ธอร์นตัน ที่นั่นเองที่แอ็กเซลได้ช่วยเหลือเด็กสองคนที่ติดอยู่ในรถไฟเหาะที่เกิดเสียขึ้นมากะทันหัน หลังจากนั้นเขาก็ถูกพาตัวไปพบกับหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสวนสนุกฯ เอลลิส เดอวอล์ด (ทิโมธี คาร์ฮาร์ท) ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นเลย เพราะวอลด์เป็นคนที่ฆ่าสารวัตทอดด์ที่ดีทรอยต์นั่นเอง เมื่อได้ยินอย่างนั้นจอนถึงกับไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะว่าเขาเป็นเพื่อนของจอน และเอลลิสยังทำหน้าที่ผลิตเงินปลอมโดยใช้สวนสนุกเป็นฉากบังหน้า แถมตอนนี้แอ็กเซลยังตกหลุมรักกับเจ้าหน้าที่ประจำสวนสนุกฯ เจนิส เพอร์กินส์ (เทเรซ่า แรนดอล) ต่อมาเดฟถูกคนของเดอวอลด์ยิงบาดเจ็บ แอ็กเซลจึงถูกกล่าวหาว่าเป็นคนยิงเสียเอง แต่ด้วยความช่วยเหลือของบิลลี่และจอน คราวนี้แอ็กเซลจะได้กู้ชื่อของเขากลับคืนมาและได้ล้างแค้นให้กับคนที่ฆ่าหัวหน้าของเขาอีกด้วย
IMDB : tt0109254
คะแนน : 6
Eddie Murphy กลับมาอีกครั้งในบทแอ๊คเซล โฟลี่ย์ นายตำรวจจอมพล่ามที่คราวนี้เขาต้องการตามหาตัวคนร้ายที่ฆ่า ทอดด์ (Gilbert R. Hill) หัวหน้าตำรวจของเขา ซึ่งหลักฐานชี้ไปยังวันเดอร์เวิลด์ สวนสนุกที่เบเวอร์ลี่ ฮิลล์ (อีกแล้ว) และวายร้ายก็คือ เอลลิส เดอวัล (Timothy Carhart) หัวหน้ารปภ. ของที่นั่น พวกมันมีแผนอะไรกันแน่
ครับภาคนี้เจ๊งหนัก โดนสวดยับทีเดียว ถ้าจำไม่ผิด บ้านเรานี่แหละยังยกให้เป็นหนังยอดแย่ประจำปี 1994 เลยด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็พอจะเข้าใจละฮะ เพราะถ้าลองเทียบกับภาคที่แล้วๆ ภาคนี้เนื้อหาอ่อนมาก และความมันส์ทางแอ๊คชั่นก็ลดลงไปเยอะ การเดินเรื่องก็ขาดความตื่นเต้น ฉากตีกันตอนท้ายก็ไม่ใคร่จะสนุกนัก ทั้งๆ ที่ตีกันกลางสวนสนุก ซึ่งน่าจะเอามาใช้เป็นลูกเล่นได้เพียบ แต่ในหนังเอามาใช้แค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง น่าเสียดายเหมือนกัน
อย่าง อื่น ผมว่าธรรมดาครับ ซึ่งจะว่าไปก็อยู่ในมาตรฐานของผู้กำกับ John Landis แกด้วย คือ ผมว่าเขาทำหนังที่มีแอ๊คชั่นมากไม่ดีครับ เหมาะจะทำหนังที่มันฮาอย่างเดียวมากกว่า และบทหนังภาคนีก็อ่อนเหลือเกิน และตัวแอ๊คเซลเองยังดูฉลาดน้อยลงมากอีกต่างหาก อีกทั้งตามปกติพี่แกพล่ามอย่างมีเหตุผล พูดง่ายๆ คือพล่ามเพื่อทำใค่ต่อสู้มึน แต่พี่แกยังมีสติอยู่ แต่มาภาคนี้พี่แกพล่ามเองมึนเอง สุดท้ายการพล่ามไม่ได้ก่อนประโยชน์เท่าไหร่เลย แล้วพี่แกยังไม่ค่อยได้งัดวิชาตำรวจนอกตำราของแกมาใช้เท่าไหร่ด้วย ดังนั้นหนังจะค่อนข้างจืดเอามากๆ เลยครับ
ก็น่าเสียดายอะ เพราะ ตัวร้ายอย่าง Carhart ก็แสดงได้ร้ายกำลังดี แต่พระเอกนี่แหละที่กลับอ่อนด้อยไปซะ หนังเลยออกมาตะกุกตะกักแบบเนี้ย ซึ่งพี่ Eddie Murphy แกก็เสียรังวัดไปไม่น้อยล่ะครับงานนี้ แม้ดาราเจ้าอื่นๆ จะแสดงได้ไม่มีปัญหาก็ตาม แล้วหนังยังมีดารารับเชิญเพียบ ซึ่ง John Landis แกเป็นผู้กำกับที่อัธยาศัยดีอยู่แล้วล่ะครับ ดังนั้นพอแค่ออกปาก เหล่าเพื่อนๆ ผู้กำกับก็พร้อมจะมาปรากฏตัวให้ซึ่งก็มีเกือบสิบรายน่ะฮะ เป็นใครลองไปดูเอง แต่รายที่เซอร์ไพร์สสุดๆ ก็หนีไม่พ้นเฮีย George Lucas นี่แหละ เขาโผล่มาฉากหนึ่งครับ เป็นคนเที่ยวสวนสนุกที่โดนแอ็คเซลแย่งขึ้นกระเช้าลอยฟ้าตัดหน้านั่นเอง
ก็ไม่น่าจดจำนัก ดูได้ แต่ห้ามคาดหวัง และอย่าไปเปรียบกันสองภาคแรกล่ะครับ อาจจะผิดหวังได้ ถ้าดูแบบไม่คิดอะไรเลย ก็พอผ่านๆ น่ะครับ