IMDB : tt0118583
คะแนน : 6
ภาคนี้จัดว่าดันทุรังไม่น้อย เพราะภาคก่อนเจ๊ริปลี่ย์ (Sigourney Weaver) แกก็ไปสบายแล้วอ้ะนะ ยังไปปลุกเจ๊แกมาอีก เพื่อปลุกเอเลี่ยนตามขึ้นมาด้วย ครับ 200 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาค 3 ทางบริษัทที่ต้องการเอาตัวเอเลี่ยนไปทำอาวุธชีวภาพนั้น ได้เอาเซลล์ของริปลี่ย์มาโคลนนิ่ง เพื่อจะได้เอาเซลล์ของเอเลี่ยนที่อยู่ในตัวเธอออกมาด้วย และจะได้สร้างเอเลี่ยนมาใหม่ งานนี้ก็ทำกันบนยานอวกาศน่ะครับ และพอดีพวกเอเลี่ยนที่ได้มามันก็ฉลาดจนสามารถหาเรื่องหนีออกมาได้ ทีนี้ยานก็กลายเป็นนรกทันทีครับ เพราะพี่เอเลี่ยนแกมาเดินเล่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ครับ แม้ผมจะบอกว่าภาคนี้ดันทุรัง แต่ผมก็ชอบนะ เพราะความสนุกมันมีครับ เป็นแอ๊คชั่นที่มันส์ ลูกเล่นของเนื้อเรื่องก็มากขึ้นเริ่มจากการได้เห็นเอเลี่ยนครบทุกสายพันธุ์ รวมไปถึงพันธุ์ใหม่ล่าสุดอีกด้วย และตัวเจ๊ริปลี่ย์แกก็ออกๆบ้าๆต๊องๆไปแล้วล่ะครับ จึงมีประโยคเจ็บๆยิงมาตลอดเรื่อง งานด้าน Effect ต้องปรบมือ เอาแค่ฉากหนีกันในน้ำนั่นก็คุ้มแล้วล่ะครับ พวกแสงเงาและมุมกล้องไปกันได้ดีมาก มีสไตล์แต่อาจจะไม่ค่อยทึมซักเท่าไหร่ แต่ก็พอรับได้ เพราะมันสนุกครับ
ดนตรีของ John Frizzell ก็ทำได้อลังการ ได้อารมณ์ดีทีเดียว (แต่ยังขาดอารมณ์หลอนกับน่ากลัว) ผู้กำกับ Jean-Pierre Jeunet ทำหน้าที่ได้ดีครับ เขารู้ว่าควรทำอะไร และออกมาแบบไหน โดยรวมๆเลยออกมาดี เพียงแต่บทไม่เข้มเท่า 2 ภาคแรก ถ้าเข้มนะ ผมว่าเอาไปเทียบกับภาค 2 ได้สบายๆ แต่เท่าที่เป็นนี่ เรื่องความมันส์น่ะพอได้ ลูกเล่นก็พอมี แต่มิติของตัวละคร กับความมืดๆน่าสะพรึงนั้น ยังสู้ไม่ได้คับ แต่สิ่งที่เข้ามาแทนที่อย่างได้ผลนั่นก็คือ ความวิปริตสไตล์ของพี่ท่าน ดูแสงเงาสิครับมันออกส้มๆ น้ำตาลๆ เขียวๆ ปนกัน ขดลายของยานก็ดูผิดปกติ โทนตัวหนังเป็นอย่างนี้ตลอดทั้งเรื่องด้วยครับ ความวิปริตนี่เพียบไปหมดเลยจริงๆ
แต่ก็จัดเป็นภาคต่อที่เข้าท่า ผมชอบกว่าภาค 3 ครับ ดูเอามันส์ได้